คุณแม่ที่มีน้ำนมมาน้อยไม่ต้องกังวลมากเกินไปว่าจะไม่มีน้ำนมให้ลูกค่ะ มีหลายวิธีกินอาหารเพื่อช่วยเพิ่มน้ำนมแม่มาแนะนำกันค่ะ 1.กินให้พอในแต่ละวัน กินอาหารในปริมาณพอเพียงกับร่างกายต้องการในช่วงให้นมลูกไม่ทนหิว ไม่อดหรือลดอาหารเพระอยากผอมโดยเฉพาะ 6 เดือนแรก กินอาหารครบหมวดหมู่ 2.กินอาหารเพิ่มน้ำนมแม่ อาหารเพิ่มน้ำนมแม่มีหลากหลายชนิด และยังหาได้ง่ายค่ะ เช่น หัวปลี อินทผลัม ฟักทอง ใบกระเพรา น้ำเต้า กระเทียม มะละกอ งาดำ ฯลฯ สามารถเลือกปรุงเป็นเมนูที่ชอบได้ไม่ยาก 3.ดื่มน้ำหัวปลี เดี๋ยวนี้สะดวกสบายขึ้นค่ะ คุณแม่ให้นมลูกสามารถหาน้ำหัวปลีดื่มได้ ไม่ต้องเตรียมหาอาหารเพิ่มน้ำนมแม่อยู่ตลอดเวลา ประหยัดเวลาไปได้มากทีเดียวค่ะ บางยี่ห้อก็รสชาติอร่อยดื่มง่ายด้วยค่ะ *แนะนำ น้ำหัวปลีผสมอินทผลัม Mommy Juicy https://www.facebook.com/mommyjuicy/ 4.ดื่มน้ำให้พอเพียง การดื่มน้ำให้พอเพียงในแต่ละวัน จะช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมพอสำหรับลูก ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไป ประมาณ 6-8 แก้วก็พอเพียง สังเกตปัสสาวะ ถ้ามีสีเหลืองเข้มแสดงว่าคุณแม่ขาดน้ำ อย่าลืมดื่มน้ำเพิ่มกันนะคะ
มาดูว่าอาหารที่ช่วยสร้างน้ำนมแม่มีอะไรบ้างและเมีประโยชน์อย่างไรบ้างนอกจากช่วยเพิ่มน้ำนมแม่แล้ว 1.หัวปลี 1.หัวปลี ปรุงเป็นอาหารได้หลายชนิดรวมทั้งกินสด ช่วยบำรุงน้ำนม บำรุงธาตุ บำรุงเลือด ช่วยให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล ดูแลฟันให้แข็งแรงและฟันขาวสะอาด ช่วยให้หน้าอกเต่งตึง 2.น้ำเต้า นิยมใส่ในแกงเลียงความรู้จากคุณย่าคุณยายในการเพิ่มน้ำนมแม่ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยย่อย ลดกรดในกระเพาะอาหาร 3.มะละกอ สามารถรับประทานเพิ่มนมแม่ได้ทั้งดิบและสุก เน้นสุกจะย่อยง่ายกว่าค่ะ ช่วยย่อย ป้องกันท้องผูก ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน บำรุงสมองเสริมสร้างความจำ 4.กระเทียม เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากรวมทั้งเพิ่มนมแม่ ลดไขมันในเลือด แก้ปัญหาแน่นจุกเสียด ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ บรรเทาอาการหวัด 5.อินทผลัม เป็นผลไม้จากทะเลทรายที่มีประโยชน์หลายอย่างนอกจากเพิ่มน้ำนมแม่ บำรุงกำลัง ดูแลระบบประสาท บำรุงกระดูกและฟัน…
มาดูกันว่ามีไอเทมใดจำเป็นบ้างเมื่อต้องพาลูกไปเที่ยวไกล ๆ ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัดหรือต่างประเทศค่ะ 1.คาร์ซีท เพื่อความปลอดภัยของลูกยามเดินทาง เด็กควรจะนั่งอยู่บนเบาะนิรภัยเสมอ การอุ้มเด็กนั่งเบาะหลังก็ไม่ปลอดภัยนะคะหากเกิดอุบัติเหตุเด็กมีโอกาสกระเด็นออกนอกรถได้ *แนะนำ : คาร์ซีทขนาดพกพา mifold เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม ด้วยขนาดเล็กนิดเดียวแต่คุณภาพมาตรฐานยุโรปและยังราคาเบา ๆ 2.ทิชชู่เปียกทิชชู่แห้ง ทิชชู่โดยเฉพาะทิชชู่เปียกเป็นตัวช่วยที่ดีของแม่ ๆ ค่ะ เพราะมันช่างสารพัดประโยชน์ เช็ดทำความสะอาดได้ตั้งแต่ใบหน้าปากมือลูก มือแม่ เช็ดโต๊ะ เช็ดกระเป๋า ไม่มีน้ำก็ทำความสะอาดได้ อย่าลืมเลือกยี่ห้อที่ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองสำหรับเด็กนะคะ 3.ผ้าอ้อมสำเร็จรูป พกไปให้พอค่ะ มีประโยชน์มากสำหรับการเดินทางไกล ตอนจัดกระเป๋าทำ checklist เอาไว้ก็ดีค่ะกันลืม ของสำคัญอย่างนี้ขาดไม่ได้ ถ้าไม่ค่อยได้ใช้พยายามเลือกที่ขอบขากระชับ ซึมซับดี ไม่อับชื้น และลูกเคลื่อนไหวสบาย 4.เสื้อผ้า จัดเสื้อผ้าพกติดกระเป๋าสะพายติดตัวไว้ด้วยค่ะ เผื่อเจ้าตัวเล็กทำเสื้อผ้าเพื่อนจะได้มีเปลี่ยน เสื้อผ้าคุณแม่ด้วยนะคะบางทีคุณลูกเผื่อแผ่ความเลอะเทอะมาถึงคุณแม่ด้วย 5.กระติกน้ำ ระหว่างเดินทางเด็กไม่ควรขาดน้ำเพราะอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะถ้าอาการร้อนจัด การให้เขาพกกะติกน้ำเป็นการฝึกให้เขารู้จักดูแลตัวเอง *แนะนำ : Gululu…
ใครๆ ก็อยากมีผิวเนียนใสอ่อนวัยแบบเด็ก แต่การเผชิญกับฝุ่นควัน มลภาวะ แสงแดด ความเครียด กินไม่สมดุล นอนไม่พอ ก็ทำให้มีปัญหาผิวได้ mother&care แนะนำ 4 วิธีช่วยแม่ๆ ผิวดีแบบผิวเด็กค่ะ 1.ใช้น้ำเย็นล้างหน้าแทนน้ำอุ่น เพราะความเย็นของน้ำจะช่วยกระชับผิวหน้า ช่วยห้รูขุมขนกระชับขึ้น ลดถุงใต้ตา แถมยังช่วยลดผดผื่น ลดการอักเสบของผิวเมื่อต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดจัดได้อีกด้วย 2.ออกกำลังกายจริงจัง การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต พาออกซิเจนและสารอาหารเข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ รวมถึงผิวหนังด้วย 3.รับแสงแดดอ่อนตอนเช้า ช่วงเวลา 06.00-08.00 น.มีวิตามินดี ช่วยสร้างกระดูและฟันแล้ว ยังดูแลผิว และสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะต่าง ๆ ได้ดี 4.รักษาความชุ่มชื้นของผิว ความชุ่มชื้นของผิวช่วยให้ผิวนุ่มนวลชุ่มชื่น และเเป็นเกราะป้องกันมลภาวะไม่ให้เข้ามาทำลายผิวได้ง่าย ทั้ง 4 เคล็ดลับช่วยให้คุณแม่มีผิวที่อ่อนวัยและมีสุขภาพผิวที่ดีไปอีกนานค่ะ
6 เครื่องดื่มนี้หากดื่มร่วมกับยาจะส่งผลเสียต่อร่างกาย และอาจร้ายแรงถึงชีวิตได้ค่ะ มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง 1.นม นมมีแคลเซียม โปรตีน และเหล็กที่ไปจับตัวยาบางชนิด เช่น ยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ ยาลดกรด ทำให้ไม่สามารถดูดซึม ยาจะไม่ออกฤทธิ์ จึงไม่ช่วยรักษาโรค 2.กาแฟ การดื่มกาแฟร่วมกับยาบางชนิด เช่น ยาแก้หวัด ยาขยายหลอดลม อาจเป็นอันตราย ทำให้เกิดอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ เป็นมาก ๆ อาจเกิดอาการช็อกได้ 3.น้ำผลไม้ น้ำผลไม้จะต่อต้านการดูดซึมของยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง ความดันโลหิตสูง หัวใจล้มเหลว และโรคภูมิแพ้ต่าง ๆ ซึ่งน้ำผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวอย่างน้ำส้ม น้ำมะนาว ทำให้กรดในกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น อาจทำให้มีอาการปวดท้อง 4. แอลกอฮอล์ ห้ามเด็ดขาดเพราะอาจเกิดอันตราย โดยเฉพาะยาปฏิชีวนะบางชนิด เช่น เมโทรนิดาโซล ทินิดาโซล คีโตโคนาโซล ทำให้ร้อนวูบวาบ คลื่นไส้อาเจียน ปวดศีรษะ ใจสั่น และหลังกินยาจนครบตามแพทย์สั่งอย่างน้อย 3 วันจึงจะดื่มแอลกอฮอล์ได้…
หากมีสัญญาณเตือนต่อไปนี้คุณแม่อย่านิ่งนอนใจ รีบไปพบคุณหมอนะคะ 1.เลือดออกทางช่องคลอด เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ตั้งครรภ์นอกมดลูก รกเกาะต่ำ รกลอกตัวก่อนกำหนด ฯลฯ 2.คลื่นไส้อาเจียนมากผิดปกติ โดยทั่วไปแล้วคุณแม่มักจะมีอาการคลื่นไส้อาเจียนแพ้ท้องตอนเช้า ๆ ในช่วง 3 เดือนแรก แต่ถ้ารู้สึกว่ามีอาการมากเกินไปควรปรึกษาคุณหมอค่ะ 3.มีไข้ อาการไข้ในแม่ท้องไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพราะคุณแม่อาจติดเชื้อ ถ้าไข้สูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียสขึ้นไป กินยาแก้ไข้แล้วยังไม่หายภายในวันสองวัน ควรจะพบคุณหมอค่ะ 4.ปวดขาถึงน่อง ตะคริวที่ขาเป็นอาการปกติ แต่ถ้าอาการปวดนั้นรุนแรง พยายามยืดเท้าหรือเดินแล้วยังไม่หาย อาจเกิดจากหลอดเลือดอุดตันบริเวณขา 5.ของเหลวไหลออกจากช่องคลอด อาจจะเป็นน้ำ เป็นเมือก ตกขาวผิดปกติหรือมากเกินไป มีกลิ่นเหม็น 6.น้ําคร่ำแตก น้ำคร่ำจะเป็นน้ำใส ๆ ไม่เหนียว คล้ายปัสสาวะ ถ้ารั่วจะแค่เปียกกางเกงใน แต่ถ้าแตกปริมาณน้ำจะมากจนเปียกชุ่มหรือไหลไปตามขา แม้ยังไม่ครบกำหนดคลอดก็รีบไปโรงพยาบาลค่ะ 7.มีอาการท้องแข็งในช่วงเดือนแรก ๆ และเกิดขึ้นถี่ ตามปกติแล้วอาการท้องแข็งมักจะเกิดในช่วงไตรมาสสุดท้าย 8.แสบเวลาปัสสาวะ เกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ อย่าละเลยต้องไปพบคุณหมอค่ะ 9.เจ็บท้องกะทันหัน โดยเฉพาะอาการเจ็บท้องที่มีเลือดออกทางช่องคลอดด้วย รีบไปหาหมอโดยด่วนที่สุด…
ถ้าให้พูดถึงเรื่อง นมแม่ แม่ๆนึกถึงอะไรกันบ้างคะ สำหรับนุ้ย คงคิดถึงปากน้อยๆที่คอยงับหัวนม อีกมือก็เกาะแกะอยู่กับเต้าเรา มันเป็นความสุขของแม่จริงๆ แต่ทว่า สาย Working Mom อย่างนุ้ย คงหาโอกาสยากมากที่ลูกจะเข้าเต้าตลอดเวลา ดังนั้นด้วยเส้นทางนมแม่ฉบับ Working Mom ก็ต้องมองหาผู้ช่วยคนเก่งที่จะคอยทำหน้าที่แทนปากน้อยของลูกมางับนม มาดูดนม ในยามที่เราต้องทำงาน.. และผลลัพธ์คือ เราจะมีน้ำนมกลับบ้านไปฝากลูกน้อยกลอยใจทุกวัน
1.3 ปีเต็มแล้วค่ะ สำหรับนุ้ยที่มีเพื่อนคู่ใจ คู่กาย อวัยวะที่ 33 นั่นก็คือ #เครื่องปั๊มนม นี่เอง จนนุ้ยกลายร่างเป็นคุณแม่นักปั๊มไปแล้ว แถมว่า ปั๊มล้วนด้วยนี่สิ ฉะนั้น เครื่องปั๊มนม จึงต้องเลือกแบบพิถีพิถันกันหน่อย หลังจากที่เราบ่นกับคุณพ่อที่บ้านว่า ม๊าไม่ไหวแล้วอ่ะ ปั๊มนมจนเจ็บเต้าเจ็บหัวนมไปหมด นุ้ยบ่นทุกวันเลยค่ะ บ่นจนบางครั้งเราคิดจะแขวนเครื่องปั๊ม และสิ้นสุดเส้นทางนมแม่แล้ว ถ้าต้องเป็นแบบนั้นจริง #ใจหายแน่ๆค่ะ
แต่ๆๆๆๆๆ!!! วันนี้นุ้ยได้เจอกับเพื่อนคู่ใจคนใหม่ คือ เครื่องปั๊มนมของ Nanny ค่ะ ใช่ค่ะ!! Nanny มีเครื่องปั๊มนมแล้ว!! หลังจากเหล่าแม่ๆรวมถึงนุ้ยด้วยที่จะคุ้นชินกับ อ่างอาบน้ำเอย ถุงเก็บน้ำนมเอย กล่อง/บรรจุภัณฑ์สำหรับเก็บอาหารเจ้าตัวเล็กเอย…