Skip to content Skip to sidebar Skip to footer
about mom's life

6 เรื่อง ความแม่ ที่ห้าม’ลืม’!

งานเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทำนี่เสร็จ งานใหม่ก็เข้ามา ทั้งนอกบ้านในบ้าน ตกเย็นก็มีเพิ่มอีกหน้าที่ คือ เป็นคุณครูสอนการบ้าน จนลืมอะไรไปบางอย่าง

Read more

6 เคล็ดลับลดอาการปี๊ดใส่คุณลูก

ต้องยอมรับว่าบางครั้งลูกน้อยแสนน่ารักสามารถกลายเป็นลูกน้อยแสนป่วนได้ ทำให้คุณแม่ต้องแปลงร่างเป็นแม่มดกันบ้าง แต่บ่อยไปก็จะไม่ดีทั้งกับคุณแม่และคุณลูกแน่ ๆ มาดูวิธีบรรเทาอาการปี๊ดแตกใส่คุณลูกกันค่ะ ตั้งสติ ท่องไว้ในใจว่าตอนนี้กำลังโกรธลูกใจเย็นลงหน่อย หาสาเหตุที่แท้จริง ต้นเหตุอาจจะไม่ใช่ลูก แต่เป็นความเครียดจากที่ทำงาน ปัญหาการ พักผ่อนน้อยอดนอน 3.นับ 1-10 ก่อนอาละวาดใส่ลูก เมื่อรู้สึกโกรธสุดขีดให้เดินเลี่ยงออกไปจากห้องนั้นก่อน ฝากคุณพ่อดูสักครู่ค่อยกลับมาใหม่ พูดถึงความรู้สึกของคุณแม่ว่ารู้สึกแย่อย่างไรเมื่อลูกมีพฤติกรรมเช่นนี้ แทนการชี้ข้อผิดของลูก อย่าเอาคดีเก่ามารวมรวบยอดพูดซ้ำซาก เวลาหายโกรธแล้ว ช่วงเวลาอารมณ์ดีอธิบายให้ลูกฟังด้วยท่าทีอบอุ่นอ่อนโยน เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกันค่ะ

Read more

พักผ่อนหลังคลอดเป็นไปได้แค่ไหน ?

ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด คุณแม่ควรพักผ่อนอย่างไรบ้าง อย่างน้อยควรนอนพักผ่อนช่วงกลางคืนให้ได้ 6-8 ชั่วโมง ไม่ควรหยิบจับหรือยกสิ่งของหนัก เพราะเป็นช่วงที่กล้ามเนื้อและมดลูกกลับคืนสู่สภาพปกติ หากคุณแม่ยกของหนัก อาจกระทบกระเทือนถึงอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานมดลูกได้ เคล็ดลับเพิ่มเวลาพัก 1.ช่วง 2 สัปดาห์แรกให้คุณพ่อหรือคนในครอบครัวช่วยดูแลลูกตอนกลางคืนแม่ได้นอนพักเต็ม ๆ ก็จะฟื้นตัวเร็วขึ้น 2.หลังอาหารกลางวันอาจหาเวลาพักผ่อนให้ได้ประมาณ 30 นาที 3.เมื่อลูกหลับคุณแม่หลับด้วย แม้บางครั้งจะเป็นช่วงสั้น ๆ แต่ก็ช่วยให้แม่สดชื่นได้ 4.อย่ากังวลถึงงานการคั่งค้างมากเกินไป เลือกทำเฉพาะที่จำเป็นก่อน ขอให้แม่ ๆ ทุกท่านฟื้นตัวเร็ว ๆ นะคะ

Read more

ออกกำลังกายหลังคลอดจำเป็นจริงหรือ ?

การออกกำลังกายมีประโยชน์อย่างยิ่ง คุณแม่อย่าผัดวันกระกันพรุ่งนะคะ คุณแม่คนใหม่ควรเน้นการออกกำลังกายเบา ๆ ช่วงแรก อาจเป็นการเดินหรือทำงานบ้านที่ไม่ต้องใช้แรงมากนัก เพื่อช่วยในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและอวัยวะภายในให้กลับสู่สภาพปกติได้เร็ว การบริหารยืดเหยียดร่างกาย การเดิน โยคะ หรือออกกำลังกายในแบบที่ชอบแต่ไม่ใช่แบบที่หนักหน่วงเกินไป หากทำเป็นประจำจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วขึ้น คุณแม่คลอดเองสามารถเริ่มออกกำลังกายเบา ๆ ได้ตั้งแต่ 2-3 วันหลังคลอด ส่วนคุณแม่ที่ผ่าคลอดควรเริ่มต้นออกกำลังหลังคลอดไปประมาณ 20 วันแล้วหรือตามคำแนะนำของคุณหมอ หากปล่อยทิ้งไว้นานหลายเดือนกว่าจะเริ่มออกกำลังกาย แม่ ๆ มักจะลดน้ำหนักยากค่ะ การออกกำลังกายนอกจากจะช่วยให้น้ำหนักลด รูปร่างของแม่กลับคืนมา และยังป้องกันช่องคลอดหย่อนกระบังลมเคลื่อนอีกด้วย

Read more

ดูแลแผลหลังคลอดอย่างไรไม่ติดเชื้อ ?

การดูแลแผลหลังคลอดทั้งแผลคลอดเองและผ่าคลอด คุณแม่ควรใส่ใจเรื่องความสะอาดค่ะเพื่อป้องกันการติดเชื้อ   แผลคลอดธรรมชาติ จะมีอาการปวดแผล 3-4 วัน หรืออย่างมาก 1 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ ทุเลาลง มักหายเองภายใน1 สัปดาห์หลังคลอด หากปวดมากสามารถกินยาแก้ปวดลดได้ แต่ถ้าปวดแผลฝีเย็บมาก มีอาการบวมแดง กดแล้วเจ็บอาจเป็นเพราะฝีเย็บอักเสบควรรีบพบคุณหมอทันที ต้องหมั่นดูแลความสะอาดไม่ให้เกิดการติดเชื้อ การทำความสะอาดโดยทั่วไปคือ ทำความสะอาดแผลทุกวัน วันละ 1-2 ครั้งด้วยสบู่หรือใช้น้ำยาฆ่าเชื้ออย่างอ่อนล้างกับน้ำสะอาดจากด้านหน้าไปด้านหลัง เพราะการล้างจากก้นมาด้านหน้า จะนำเชื้อโรคจากทวารหนักมาสู่แผลและช่องคลอด แผลผ่าคลอด ตรวจดูแผลว่า มีการปริแตกไหม ซึ่งคุณหมอจะปิดพลาสเตอร์กันน้ำมาให้ เมื่อครบกำหนดที่คุณหมอนัดก็ควรไปตามนัดเพื่อให้ตรวจแผลว่าเรียบร้อยดีหรือไม่ คำแนะนำ ไม่ว่าคุณแม่จะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติหรือผ่าคลอด การดูแลแผลหลังคลอดเป็นสิ่งสำคัญ เน้นเรื่องความสะอาด เพราะหากแผลติดเชื้อจากสิ่งสกปรกจะยิ่งทำให้แผลหายช้ามากขึ้น t

Read more

3 วิธีล้างผักลดสารเคมี

เตรียมอาหารให้ลูกเองก็ต้องสะอาดปลอดภัย เรามีวิธีล้างผักและผลไม้เพื่อลดสารเคมีมาฝากแม่ ๆ ค่ะ วิธีที่ 1 แช่ผักไว้ในน้ำนาน 15 นาที จากนั้นยกผักขึ้นจากกะละมังแล้วนำไปรองใต้ก๊อก เปิดน้ำก๊อกให้ไหลผ่าน คลี่ใบผักให้โดนน้ำทั่วถึง ใช้มือถูผักผลไม้ และใช้เวลาล้างนานประมาณ 2 นาที วิธีที่ 2 แช่ในน้ำผสมน้ำส้มสายชู 5% ในอัตราส่วน น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 4 ลิตร แช่ทิ้งไว้นานประมาณ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง วิธีที่ 3 ใช้เบกกิ้งโซดา ครึ่งช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 10 ลิตร แช่ผักทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที นาทีจากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด การล้างผักทั้ง 3 วิธีนี้สามารถช่วยคุณแม่ลดสารเคมีตกค้างและยังช่วยล้างดิน และล้างเชื้อโรคที่ปนเปื้อนอยู่ออกไปจากผักได้ค่ะ ข้อมูลอ้างอิง กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข

Read more

5 ไอเดียของขวัญคุณแม่คนใหม่

จะหาอะไรให้เป็นของขวัญโดนใจคุณแม่คนใหม่ดีนะ แนะนำ 5 ไอเดียโดนใจค่ะ  1.น้ำหัวปลี เปลี่ยนจากเครื่องดื่มบำรุงกำลังมาซื้อของฝากเป็นน้ำหัวปลีบ้างก็ดีค่ะ เพราะคุณแม่จะได้ประโยชน์เต็ม ๆ  เพราะนอกจากจะไม่ต้องเตรียมหาเมนูหัวปลีเอง สามารถดื่มน้ำหัวปลีได้เลย ทั้งสะดวกและช่วยเพิ่มน้ำนมแม่ได้ดีทีเดียวค่ะ  *แนะนำ :  น้ำหัวปลีผสมอินทผลัม Mommy Juicy อร่อยดื่มง่าย https://www.facebook.com/mommyjuicy/ 2.คาร์ซีท เหมาะกับคุณแม่ที่ออกนอกบ้านบ่อยหรือขับรถเอง คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดควรเลือกแบบที่หันหน้าไปทางด้านหลังของรถ เพื่อช่วยปกป้องกระดูกต้นคอในยามเกิดอุบัติเหตุค่ะ 3.กระเป๋าคุณแม่  จำเป็นต้องใช้แน่ค่ะ เพราะคุณแม่คนใหม่ต้องพกสัมภาระเบบี๋ติดตัวยามออกนอกบ้าน ถ้าไม่แน่ใจว่าคุณแม่ชอบแบบไหนเป็นพิเศษ เลือกแบบเรียบ ๆ สีกลาง ๆ ไว้ก่อนค่ะ 4.เสื้อให้นมลูก คุณแม่น่าจะชอบเพราะสะดวกเวลาให้นมลูกยามอยู่นอกบ้าน เช่นเดียวกันกับกระเป๋าค่ะเลือกสไตล์ที่คุณแม่ชอบถ้ารู้ใจกัน หรือแบบเรียบ ๆ สวมใส่ได้หลายโอกาส 5.ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว ทั้งผลิตภัณฑ์ดูแลผิวแม่ลูก เช่น สบู่อาบน้ำเด็ก รับรองได้ใช้แน่ เลือกที่เหมาะกับเบบี๋  ไม่มีกลิ่นฉุน ไม่ระคายเคืองผิว หรือเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทออแกนิคก็ปลอดภัยสำหรับเด็กยิ่งขึ้นค่ะ  

Read more

8 ของขวัญปีใหม่สุดพรีเมียม คุณแม่-คุณลูก

ปีใหม่นี้ถ้าจะมองหาของขวัญพิเศษสุดจะพรีเมียมให้คุณแม่และคุณลูกแล้วละก็ ขอแนะนำ 8 ไอเท็มนี้ รับรองว่าโดนใจแน่นอนค่ะ Mifold คาร์ซีทพกพาที่เล็กที่สุดในโลก เด็กโตหน่อยมักจะไม่อยากนั่งคาร์ซีทแบบเด็กเล็ก ถ้ามีลูกมากกว่า 1 คน วางคาร์ซีทก็เต็มเบาะหลังแล้ว ตัวเลือกใหม่ อย่าง Mifold คาร์ซีทขนาดพกพาเป็นนวัตกรรมที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กวัย4-12 ขวบ มีขนาดเล็กกว่าคาร์ซีททั่วไปถึง 10 เท่า ส่วนคุณภาพได้มาตรฐานยุโรปแล้วยังได้รับรางวัลด้านการออกแบบและความปลอดภัยในระดับสากลถึง 14 รางวัล โปรช่วงปีใหม่ราคาพิเศษสนใจคลิกเลยค่ะ Deedy ok น้ำหัวปลีผสมอินทผลัม Mommy Juicy คุณแม่หลังคลอดและคุณแม่ให้นมลูกจะต้องปลื้มกับของขวัญชิ้นนี้ เพราะแค่เปิดฝาขวดดื่มน้ำหัวปลีผสมอินทผลัม Mommy Juicy ก็ช่วยประหยัดเวลาแม่ ๆ ในการเตรียมอาหารเพิ่มน้ำนมได้มากและยังได้รับสารอาหารมากคุณค่าหลากหลายชนิดจากหัวปลี อินทผลัม และยอบ้าน มีจำหน่ายที่ร้านตำรับไทยทั่วประเทศ หรือเลือกชุดกระเช้าเก๋ ๆ ได้ที่นี่เลยค่ะ Deedy Ok กระติกน้ำอัจฉริยะ Gululu …

Read more

4 เทคนิคกินแก้ปัญหานมแม่มาน้อย

คุณแม่ที่มีน้ำนมมาน้อยไม่ต้องกังวลมากเกินไปว่าจะไม่มีน้ำนมให้ลูกค่ะ มีหลายวิธีกินอาหารเพื่อช่วยเพิ่มน้ำนมแม่มาแนะนำกันค่ะ 1.กินให้พอในแต่ละวัน กินอาหารในปริมาณพอเพียงกับร่างกายต้องการในช่วงให้นมลูกไม่ทนหิว ไม่อดหรือลดอาหารเพระอยากผอมโดยเฉพาะ 6 เดือนแรก กินอาหารครบหมวดหมู่ 2.กินอาหารเพิ่มน้ำนมแม่ อาหารเพิ่มน้ำนมแม่มีหลากหลายชนิด และยังหาได้ง่ายค่ะ เช่น หัวปลี อินทผลัม ฟักทอง ใบกระเพรา น้ำเต้า กระเทียม มะละกอ งาดำ ฯลฯ สามารถเลือกปรุงเป็นเมนูที่ชอบได้ไม่ยาก 3.ดื่มน้ำหัวปลี เดี๋ยวนี้สะดวกสบายขึ้นค่ะ คุณแม่ให้นมลูกสามารถหาน้ำหัวปลีดื่มได้ ไม่ต้องเตรียมหาอาหารเพิ่มน้ำนมแม่อยู่ตลอดเวลา ประหยัดเวลาไปได้มากทีเดียวค่ะ บางยี่ห้อก็รสชาติอร่อยดื่มง่ายด้วยค่ะ *แนะนำ น้ำหัวปลีผสมอินทผลัม Mommy Juicy https://www.facebook.com/mommyjuicy/ 4.ดื่มน้ำให้พอเพียง การดื่มน้ำให้พอเพียงในแต่ละวัน จะช่วยให้คุณแม่มีน้ำนมพอสำหรับลูก ไม่จำเป็นต้องดื่มน้ำในปริมาณที่มากเกินไป ประมาณ 6-8 แก้วก็พอเพียง สังเกตปัสสาวะ ถ้ามีสีเหลืองเข้มแสดงว่าคุณแม่ขาดน้ำ อย่าลืมดื่มน้ำเพิ่มกันนะคะ

Read more

5 อาหารเพิ่มน้ำนมแม่

มาดูว่าอาหารที่ช่วยสร้างน้ำนมแม่มีอะไรบ้างและเมีประโยชน์อย่างไรบ้างนอกจากช่วยเพิ่มน้ำนมแม่แล้ว 1.หัวปลี 1.หัวปลี ปรุงเป็นอาหารได้หลายชนิดรวมทั้งกินสด ช่วยบำรุงน้ำนม บำรุงธาตุ บำรุงเลือด ช่วยให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล ดูแลฟันให้แข็งแรงและฟันขาวสะอาด ช่วยให้หน้าอกเต่งตึง 2.น้ำเต้า นิยมใส่ในแกงเลียงความรู้จากคุณย่าคุณยายในการเพิ่มน้ำนมแม่ ลดระดับน้ำตาลในเลือด ช่วยย่อย ลดกรดในกระเพาะอาหาร 3.มะละกอ สามารถรับประทานเพิ่มนมแม่ได้ทั้งดิบและสุก เน้นสุกจะย่อยง่ายกว่าค่ะ ช่วยย่อย ป้องกันท้องผูก ป้องกันหลอดเลือดอุดตัน บำรุงสมองเสริมสร้างความจำ 4.กระเทียม เป็นสมุนไพรที่มีประโยชน์มากรวมทั้งเพิ่มนมแม่ ลดไขมันในเลือด แก้ปัญหาแน่นจุกเสียด ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ บรรเทาอาการหวัด 5.อินทผลัม เป็นผลไม้จากทะเลทรายที่มีประโยชน์หลายอย่างนอกจากเพิ่มน้ำนมแม่ บำรุงกำลัง ดูแลระบบประสาท บำรุงกระดูกและฟัน…

Read more