คุณพ่อคุณแม่เป็นต้นแบบในการฝึกลูกตั้งแต่เล็กให้เขารู้จักรักการออมค่ะ ทำไมต้นแบบที่ดีจึงสำคัญ นั่นก็เพราะเด็กซึมซับพฤติกรรมและทำตามได้ดีกว่าการอบรมสั่งสอนด้วยคำพูด ขอแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ในการสอนการออมให้ลูก 5 ข้อค่ะ 1.คุณแม่เองต้องใช้จ่ายอย่างมีเหตุผล ไม่ชอปฯ เยอะให้ลูกเห็นนะคะ 2.เป็นตัวอย่างการใช้อย่างคุ้มค่า เช่น ไม่กินเหลือทิ้ง เมื่อใช้ไฟเสร็จแล้วปิดทุกครั้ง ใช้น้ำอย่างประหยัด สอนให้ลูกดูแลรักษาของเล่นหรือของใช้ของเขาเอง ฯลฯ อธิบายให้ลูกฟังเพื่ปลูกฝังความคิดให้เขาด้วยค่ะ 3.พาลูกไปซื้อของ ชวนลูกดูคุณแม่จดรายการของที่จะซื้อ แล้วพยายามซื้อตามรายการ ตั้งงบ เวลาซื้อเปรียบเทียบราคากับคุณภาพ คุณพ่อคุณแม่พูดคุยกันเองหรือเล่าให้ลูกฟังก็ได้ค่ะ 4.หากระปุกออมสินให้ลูกหยอดตั้งแต่เล็ก ชวนนับเงินเมื่อเต็มกระปุก พาลูกไปฝากเงินที่ธนาคาร 5.ถ้าลูกอยากได้ของเล่นราคาแพง ชวนเขาเก็บเงินส่วนหนึ่งอีกส่วนคุณพ่อคุณแม่ช่วยออก ถ้าลูกพยายามเก็บก็อาจให้เพิ่มเป็นรางวัลกระตุ้นให้เขาออม การเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ตั้งแต่เล็กจะเป็นการปูพื้นฐานวินัยการออมให้กับลูกค่ะ
Family lifestyle
อัพเดท เทรนด์ กิจกรรม สำหรับครอบครัวรุ่นใหม่ มีทั้ง สาระ และ ความสนุกในการใช้ชีวิต ฉบับคนครอบครัว
เมื่อเตรียมมีสมาชิกใหม่ในครอบครัวตัวน้อย ๆ เพิ่มขึ้นมาคุณแม่วางแผนการเงินไว้หรือยังคะ ยุคนี้เลี้ยงลูก 1 คนให้เรียนจบปริญญาตรีหรือโทค่าใช้จ่ายสูงมาก ลองบวกลบคูณหารแล้วอาจตกใจก็เป็นได้
ทั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมงบสำหรับค่าใช้จ่ายอะไรบ้างมาดูกันค่ะ เริ่มจ่ายตั้งแต่ก่อนท้อง ทั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องไปตรวจร่างกายเพื่อดูความพร้อมของร่างกาย มีโรคอันตรายต่อการตั้งครรภ์ เช่น ธาลัสซีเมีย เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์ ฯลฯ หรือเปล่า ดูภูมิคุ้มกัน ตรวจมดลูก ซักประวัติครอบครัว การใช้ยา ฯลฯ จ่ายตอนท้อง ค่าฝากครรภ์ คุณแม่บางคนอาจต้องจ่ายเพิ่มบางรายการ เช่น ยา วัคซีน อัลตราซาวนด์ ถ้าเป็นครรภ์ที่ต้องได้รับการดูแลพิเศษก็อาจมีค่าใช้จ่ายงอกเพิ่ม มีค่าเสื้อผ้าชุดชั้นในแม่ท้อง จ่ายค่าของใช้ลูก ของใช้ที่ต้องเตรียมไว้ก่อนคลอด เช่น เตียง เปล คอกเด็ก เสื้อผ้าลูก ที่ปั๊มนม ฯลฯ ยืมได้จะประหยัดไปมาก อย่าไปรวมจ่ายรวดเดียวตอนคลอดนอกจากไม่ทันใช้แล้วยังต้องจ่ายหนักด้วยค่ะ จ่ายตอนคลอด ค่าใช้จ่ายถูกแพงต่างกันไป ราคาต่ำสุดคือคลอดเองโรงพยาบาลรัฐฯ ผ่าคลอดจะแพงขึ้นอีก โรงพยาบาล เอกชนจ่ายแพงกว่าทั้งคลอดเองและผ่าคลอด ครรภ์ที่ต้องดูแลเป็นพิเศษต้องเตรียมงบเพิ่มไว้นะคะ จ่ายหลังคลอด …
อาหารการกินก็เป็นอีกเรื่องที่สิ้นเปลืองเวลาของแม่ ๆ ค่ะ ต้องมานั่งคิดเมนูว่าจะให้ลูกกินอะไรดี ของคุณพ่อคุณแม่เองก็ต้ต้องเตรียมหาไว้ในแต่ละมื้อ ตอนคิดนี่ละยุ่งเพราะคิดไม่ออกว่าจะหม่ำอะไรดี คุณแม่ลองวางระบบดูค่ะ 1.เซ็ทเมนูเป็นรายสัปดาห์หรือรายเดือนไปเลยค่ะ ทำรายการไว้ว่าแต่ละวันจะทำหรือซื้อจากร้านไหนบ้าง ไม่ต้องนั่งคิดทีละวัน พอเซ็ทเป็นรายเดือนก็จะใช้ได้ตลอด ลดปัญหากินซ้ำ ๆ น่าเบื่อลงไปได้ค่ะ 2.อาหารลูกเล็กวัยทารกหม่ำนิดเดียวแต่ทำทีนึงมากสำหรับ 1 มื้อ คุณแม่แบ่งแพ็กใส่กล่องเข้าช่องแข็งไว้ค่ะ เอามาสลับให้ลูกหม่ำได้ แปะวันที่ด้วยนะคะจะได้ไม่เก่าเก็บเกินไป 3.แช่แข็งเตรียมไว้ เช่น น้ำซุป หรือหั่นเนื้อสัตว์แบ่งเก็บเข้าช่องแข็งไว้ หรือปรุงให้สุกก่อนแช่แข็งก็สะดวก พวกข้าวโพด แคร์รอต มันฝรั่ง ถั่วลันเตา ผักโขม แช่แข็งงได้นะคะ แพ็กกล่องขนาดพอดีมื้อ เช้าขึ้นมาอยากทำเมนูไหนง่ายนิดเดียวค่ะ แค่จัดระเบียบการเตรียมอาหารก็ช่วยให้คุณแม่หายยุ่งหัวฟูได้แล้วค่ะ
จริงค่ะคุณแม่ การทำกิจวัตรประจำวันตามตารางเวลาช่วยลดความวุ่นวายสับสน แล้วยังช่วยลดอาการลืมโน่นลืมนี่ด้วยค่ะ และข้อดีที่คุณแม่น่าจะชอบก็คือช่วยให้ดูแลลูกง่ายขึ้น สำหรับคุณลูก คุณแม่กำหนดเวลาตั้งแต่ตื่นนอน กินนม อาบน้ำ นอน เล่น ฯลฯ พยายามทำตามเวลาทุกวันสำหรับกิจวัตรหลัก ๆ ลูกจะเคยชินกับกิจวัตรประจำวัน รับรู้ว่าเวลาไหนเขาต้องทำอะไรก็จะโยเยน้อยลง สำหรับคุณแม่ คุณแม่อาจจะวางแพลนไว้เลย เช่น จะล้างขวดนมเวลาไหน ทำความสะอาดบ้านวันไหนบ้าง ทำอาหารสัปดาห์ละกี่ครั้ง ซื้อกี่ครั้ง อาจจะเขียนลิสต์เมนูไว้จะได้ไม่ต้องเสียเวลาคิดทุกวัน กำหนดว่าจะซื้อของ จ่ายค่ารายเดือนต่าง ๆ วันไหน ให้คุณพ่อช่วยงานบ้านวันไหนบ้าง ฯลฯ อย่าลืมใส่เวลาพักไปในตารางด้วยนะคะ ทำตามตารางแต่อย่าเป๊ะมากนะคะจะได้ไม่เครียด ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ในแต่ละวัน แค่พยายามรักษาให้อยู่ในเวลาไว้ พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางคุณแม่ก็จะสบายขึ้นมากค่ะ
working momต้องออกจากบ้านไปทำงาน ต้องใช้เวลาให้คุ้มค่าสุด ๆ ใช่มั้ยคะ คุณแม่อาจจะเสียเวลากับกิจวัตรประจำวันไปมากโดยไม่รู้ตัว เรื่องไหนจุกจิกไม่จำเป็นตัดทิ้งไป จะช่วยให้คุณแม่ลดความเครียดและเหนื่อยน้อยลงเพราะได้เวลากลับคืนมาค่ะ มี 5 เคล็ดลับดี ๆ มาฝากค่ะ 1.เลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ง่ายเดรสตัวเดียวเก๋ ๆ ก็พร้อมออกจากบ้าน ไม่ต้องเสียเวลามาคิดว่าจะใส่กับเสื้อกับกระโปรงหรือกางเกงตัวไหนดี 2.ตอนกลางคืนคิดไว้เลยว่าพรุ่งนี้จะใส่ชุดไหน ถ้าวางไว้ด้วยกันให้ครบทั้งเซ็ทเครื่องประดับเสื้อผ้ากระเป๋ารองเท้าได้ละก็ทุกอย่างจะเร็วมาก 3.ลดงานบ้านไม่จำเป็น บ้านไม่ต้องสะอาดทุกมุมทุกเวลา ห้องไหนไม่ใช่ปิดไว้มีเวลาค่อยทำความสะอาด เลือกเสื้อผ้าที่ไม่ต้องรีด เวลาตากผ้าสะบัดให้เรียบก็ช่วยได้ค่ะ ผ้าบางอย่างไม่ต้องรีดก็ดูเรียบใช้ได้ 4.ซื้อของทีละล็อตใหญ่ เลิกซื้อจุกจิก ทำลิสต์รายการไว้ว่ารายอาทิตย์หรือรายเดือนจะซื้ออะไรบ้าง 5.เลี่ยงการชอปปิง จ่ายค่าต่าง ๆ ติดต่อธนาคารในเวลาที่คนเยอะหรือจราจรหนาแน่น พอแม่ไม่ยุ่งไม่เครียดก็จะอารมณ์ดีมีเวลาอยู่กับลูกอย่างมีคุณภาพเพิ่มขึ้นค่ะ
คนที่มีระเบียบจะว่าเป็นคนโชคดีก็ได้ค่ะคุณแม่ เพราะทุกอย่างจะง่ายขึ้นมาก เอาละเรามาจัดระเบียบเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ในบ้านกันค่ะ 1.รวมไว้ในที่เดียวกัน การจัดรวมไว้ในจุดเดียวกัน จะวางบนโต๊ะ ใส่ตะกร้า ใส่ลิ้นชัก ไว้เป็นหมวดหมู่ไว้ในจุดหยิบง่ายใช้สะดวก ไม่ต้องเดินไปห้องโน้นทีห้องนี้ที เช่น อุปกรณ์อาบน้ำลูก ชุดทำอาหารของลูก หรือพวก กุญแจ แว่นตา โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ 2.ใช้แล้วรีบเก็บ ฝีกให้เคยชินทั้งคุณแม่และคุณพ่อค่ะ เวลาใช้อุปกรณ์เครื่องใช้เสร็จแล้วอย่าวางทิ้งไว้ เพราะบ้านหรือโต๊ะทำงานจะรกมากเพราะจะค่อย ๆ กองสะสมทีละน้อย ฝึกลูกให้เล่นของเล่นแล้วเก็บทุกครั้งคุณแม่จะไม่ต้องมาตามเก็บบ้านก็ไม่รกค่ะ 3.เก็บเรียบ ของใช้หรือของตกแต่งบ้านที่ไม่ได้ใช้หรือเบื่อแล้วอย่าวางรับฝุ่นค่ะ เก็บเข้าตู้ เข้าห้องเก็บของ แพ็กใส่ลัง ไม่ใช้บริจาคไป ประหยัดเวลาทำความสะอาด บ้านก็ดูโล่งสบายตาด้วยค่ะ ลองดูนะคะคุณแม่ จะได้มีเวลาพักเพิ่มขึ้นรีแล็กซ์มากขึ้นค่ะ
หลายงานวิจัยกล่าวว่าการทำงานหลายอย่างพร้อมกันหรือ multitask อาจทำร้ายสมองของเราค่ะ แต่ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป ถ้าคุณแม่ไม่ได้ทำงานที่ต้องใช้พลังสมองไปกับการงานหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ระหว่างคุณแม่ทำงานบ้านหรือเตรียมสิ่งต่าง ๆ เพื่อลูกคุณแม่สามารถทำอะไรได้บ้างโดยไม่ต้องใช้งานสมองหนักหน่วง ชวนลูกคุยระหว่างจัดเก็บของหรือทำความสะอาดบ้าน เล่าให้ลูกฟังว่าคุณแม่กำลังทำอะไร เป็นการสอนลูกให้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ และฝึกการใช้ภาษาให้ลูกไปในตัว ระหว่างจัดเก็บของหรือพับผ้าคุณแม่อาจนั่งพับกับลูก จัดผ้ากองนึงไว้ให้ลูกพับเล่นกองยุ่ง ๆ ไม่เป็นไร หรือส่งของเล่นให้เขาได้นั่งเล่นใกล้คุณแม่ ตอนคุณแม่อาบน้ำอาจทำความสะอาดห้องน้ำแค่บางส่วน เช่น ขัดอ่างล้างหน้า ขัดพื้น หรือผนังด้านเดียวก่อน ฯลฯ เวลาทำงานบ้าน เปิดเพลงฟังไปด้วยเป็นการสร้างความผ่อนคลายให้กับตัวเอง เปิดดูคลิปวิดีโอหรือดูหนังไปพร้อม ๆ กับการออกกำลังกาย Multitask แบบนี้สมองไม่ล้าแล้วยังได้ประโยชน์เพิ่มเป็น 2 เท่าด้วยค่ะ
คุณแม่เลี้ยงลูกยุ่งหัวหมุนจนแทบไม่มีเวลาเป็นของตัวเอง ทำให้ละเลยหลายสิ่งหลายอย่าง ความจริงแล้วการจัดการบางเรื่องให้สำเร็จไม่ต้องใช้เวลามากเสมอไป ลองเซ็ทเวลา 10 นาทีทำเรื่องเหล่านี้ดูค่ะ จดรายการของต้องซื้อแปะไว้หน้าตู้เย็น วางมือจากงานอื่นนั่งนิ่ง ๆ คิดว่ามีอะไรต้องทำบ้างแล้วโน้ตกันลืม เช็ดโต๊ะ ตู้ หรือมุมที่คุณแม่รำคาญตามานาน นั่งหลับตาหายใจเข้าออกช้า ๆ เพื่อความผ่อนคลาย นั่งเอนหลังบนเบาะนุ่ม ๆ ฟังเพลงผ่อนคลาย ดูแลความงาม มาส์กหน้า ตัดเล็บ แช่เท้าในน้ำอุ่น นั่งจิบน้ำผลไม้ เครื่องดื่มสมุนไพร มีเรื่องอะไรที่คุณแม่อยากทำอีกบ้าง ลองลิสต์ดูนะคะ นอกจากช่วยคลายเครียดประจำวันแล้วยังช่วยให้คุณแม่จัดการกับเรื่องต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งวางแผนงาน เพียงแค่จัดสรร เวลา 10 นาทีเลอค่าขึ้นมาทีเดียวค่ะ
ดรีมเวิลด์เป็นสวนสนุกที่เปิดมา 20 กว่าปี และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตแห่งหนึ่งสำหรับครอบครัวตลอดมา ทั้งเด็กและผู้ใหญ่สามารถสนุกเพลิดเพลินกับการพักผ่อนภายในดินแดนแห่งจินตนาการ มีเครื่องเล่นนานาชนิดเพื่อความสนุกตื่นเต้น กระเช้าลอยฟ้า เมืองหิมะ สวนน้ำ การแสดง ขบวนพาเหรด โชว์สัตว์แสนรู้ ฯลฯ เด็ก ๆ ได้พบกับเมืองยักษ์ จินตนาการที่กลายมาเป็นภาพ 3 มิติอยู่ตรงหน้า มุมสวนสัตว์ก็มีนะคะ เด็ก ๆ ได้ให้อาหารพี่ม้ากับพี่วัวด้วย สนุกสดชื่นในสวนน้ำ ถ้าไปเที่ยวในวันอากาศร้อนมุมนี้จะช่วยคลายร้อนได้เป็นอย่างดี ไวกิ้งส์ เรือโจรสลัดลำใหญ่ในตำนานสร้างสนุกสนานหวาดเสียวอยู่กลางอากาศ สำหรับผู้ใหญ่ รถไฟเหาะและเฮอริเคน เครื่องเล่นสุดสนุกเร้าใจสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการความมันส์สะใจ วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 15:45 น. เด็ก ๆ จะได้ชมขบวนพาเหรดสุดอลังการอย่างใกล้ชิด ดรีมเวิลด์เป็นสวนสนุกใกล้กรุงเทพฯ ที่ให้ความบันเทิงหลากรูปแบบ อยู่แค่คลองสาม อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี บริเวณเส้นทางสายรังสิต-นครนายกแค่นี้เองค่ะ ดรีมเวิลด์เปิดให้บริการ ทุกวัน จันทร์-ศุกร์ 10.00 – 17.00 น. และ เสาร์ – อาทิตย์…
คุณพ่อคุณแม่พาลูกไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์งู Siam Serpentarium หรือยังคะ ไม่น่ากลัวเลยค่ะแล้วยังสนุกน่าเรียนรู้มากค่ะ การจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ใส่ไอเดียสร้างสรรค์มีความทันสมัย เน้นให้เด็กเข้าใจง่ายและสนุกกับการเรียนรู้แบบInteractive คุณพ่อคุณแม่เองก็น่าจะชอบ งูมักจะน่ากลัวในความรู้สึกของเราใช่มั้ยคะ แต่ถ้าได้มาสัมผัสด้วยตัวเองแล้วก็จะพบว่ามีเรื่องราวน่ารู้และน่าทึ่ง เด็ก ๆ จะได้ทำความรู้จักงูมากขึ้น คล้ายกับได้เรียนชีววิทยาของงูในรูปแบบสนุกสนานตื่นเต้น มีกาจจัดแบ่งเป็นโซนเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง ตามมาดูกันเลยค่ะว่ามีโซนอะไรบ้าง โซนพิพิธภัณฑ์งู โซนแรกนิทรรศกาจำลองให้เด็กได้สมมติเป็นงูดูว่าถ้ามองโลกผ่านสายตาของงูจะเป็นอย่างไรบ้าง ความสนุกเริ่มต้นตั้งแต่เดินทางผ่านอุโมงค์จากปากไปถึงหางงู เมื่อต้นไม้หรือสัตว์ทั้งหลายมีขนาดใหญ่โตขึ้น ได้สมมติตัวเองเป็นลูกงูอยู่ในโดมจำลองไข่งูตอนฟักออกมา ได้รู้วิธีล่าเหยื่อของงูและการเป็นผู้ถูกล่างูจะมีวิธีเอาตัวรอดอย่างไร โซนอาณาจักรงู Snake Planet เด็ก ๆ ได้พบกับงูคราวนี้เจองูตัวเป็น ๆ ในสวนงู แต่ไม่ต้องห่วงนะคะงูเหล่านี้อยู่ในตู้กระจก สัมผัสได้แต่ทางสายตาค่ะ ที่นี่รวบรวมงูไว้ถึง 70 สายพันธุ์ทั่วทุกมุมโลก เช่น งูเห่า งูหลามทอง งูเหลือมทอง อนาคอนดา และงูจากต่างประเทศอีกหลายพันธุ์ งูหายากอย่างงูเห่าเผือก บางพันธุ์สวยแปลกตา บางพันธุ์พรางตัวเก่งแทบมองไม่เห็นเลยค่ะ โซนนาคา เธียเตอร์ โซนถัดมาคือนาคา เธียร์เตอร์โรงละครใหญ่ 400 ที่นั่ง เด็ก ๆ ได้สัมผัสกับแสดงชุดพญานาค…