Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

ทำไม “นมแม่” ถึงดีต่อสมองลูก?

ใครๆ ก็รู้ว่านมแม่เป็นแหล่งอาหารชั้นยอด เพราะมีสารอาหารต่างๆ ที่ให้ประโยชน์ต่อลูกตั้งแต่วัยแรกเกิด โดยในนมแม่มีสารอาหารหลากหลายที่ใช้พัฒนาทั้งร่างกายและสมอง คือ ไขมัน โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และสารอาหารสำคัญอื่นๆ1 แล้วรู้มั้ย ไขมันชนิดฟอสโฟไลปิดที่พบมากในนมแม่ ก็คือ สฟิงโกไมอีลิน นั่นเอง2 แม่ๆ รู้มั้ย สมองประกอบด้วยไขมันถึง 60% และหนึ่งในนั้น คือ สฟิงโกไมอีลิน ทราบหรือไม่ สมองประกอบด้วยไขมันถึง 60% โดยไขมันเป็นส่วนประกอบหลักของไมอีลินในสมอง3 ซึ่งเส้นใยประสาทที่มีไมอีลินจะมีการส่งสัญญาณประสาทเร็วกว่าที่ไม่มีไมอีลินถึง 60 เท่า4 สมองไวหรือไม่ อยู่ที่... การสร้างไมอีลินจริงหรือ5-8 ปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ส่งสัญญาณประสาทได้ดี คือ…

‘โชรส์เบอรี กรุงเทพฯ’ คว้ารางวัลโรงเรียนนานาชาติยอดเยี่ยมที่หนึ่งของโลก ประจำปี 2019 ด้านการพัฒนาศักยภาพ และสนับสนุนนักเรียนให้เข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย ที่มีชื่อเสียงระดับโลกได้

โรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนนานาชาติซึ่งเป็นที่ใฝ่ฝันของพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมากที่ต้องการส่งบุตรหลานเข้าเรียน เนื่องจากชื่อเสียงอันโด่งดังที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลายาวนานถึง 15 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2546 โดยนายชาลี โสภณพนิช ผู้ก่อตั้ง พร้อมด้วยนายสตีเฟน ฮอลลอยด์ ผู้ร่วมปลุกปั้น โชรส์เบอรี กรุงเทพ มายาวนาน 13 ปี และโดยการสนับสนุนของโรงเรียนโชรส์เบอรี ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาอันทรงเกียรติในประเทศอังกฤษ สร้างชื่อให้ ‘โชรส์เบอรี กรุงเทพฯ’ กลายเป็นที่กล่าวขานถึงและได้รับการยอมรับโดยทั่วไป ในเรื่องการเป็นโรงเรียนนานาชาติที่ใช้หลักสูตรอังกฤษที่แข็งแกร่งและเป็นเลิศ และเป็นสถานศึกษาที่บ่มเพาะเยาวชนให้เติบโตขึ้นอย่างมีคุณภาพและประสบความสำเร็จทั้งในด้านวิชาการและมีศักยภาพรอบด้าน จนได้รับการจัดอันดับให้เป็นโรงเรียนนานาชาติที่ดีที่สุดในเอเชียมาอย่างต่อเนื่อง …

หยุดตะโกนใส่ลูกๆ ของคุณ

จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณตวาดลูกๆ แทนที่จะสอนดีๆ เมื่อคุณพบพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกๆ หรือไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ในขณะนั้น การตวาดจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูก  งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย พิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เผยว่า การตวาดลูกแทนที่จะสอนดีๆ จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเด็กๆ ที่ถูกตวาดมักจะแสดงออกถึงความโกรธ ความก้าวร้าว การเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ และมีแนวโน้มที่จะมีอาการซึมเศร้า การตวาดมีผลเทียบเท่าการลงโทษด้วยการตี การตวาด ตะโกนมีผลทางอารมณ์ไม่ต่างกับการลงโทษทางกายภาพเลย คุณไม่สามารถที่จะคาดหวังให้ลูกๆ ประพฤติตัวให้ดีขึ้น และเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองก่อน ปล่อยเด็กๆ อยู่ตามลำพัง หากยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้  แม้แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ตะโกน โดยหากคุณรู้สึกว่ากำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ ให้ปล่อยเด็กๆ อยู่ตามลำพังสัก 2 - 3 นาที ให้อภัยตัวเองกับพฤติกรรมของลูก พฤติกรรมไม่ดีที่ลูกของคุณทำ อย่านำมาทำให้ตัวเองรู้สึกผิดพลาดไปซะทั้งหมด ให้คุณให้อภัยตัวเองบ้าง…

บางสิ่งที่มีอิทธิพลนอกจากการเลี้ยงดูสั่งสอนของพ่อแม่

“คุณหมอคะ ลูกดิฉันเป็นออทิสติก ตอนนี้อายุสิบปี รักษามาตั้งแต่เขายังเล็กๆ จนถึงตอนนี้ทั้งพ่อและแม่พยายามร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อจะทำให้ลูกดีขึ้น แต่บางครั้งลูกก็ยังมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสม   ลูกชายของคุณแม่ดูภายนอกก็เป็นเด็กน่ารักปกติ แต่มีการพูดจาที่ไม่ค่อยถูกกาลเทศะ เช่น บางครั้งก็จะพูดอะไรตรงๆ ตามที่คิด เมื่อวานคุณแม่พาเขาไปเที่ยวห้างแห่งหนึ่ง ตอนขึ้นลิฟท์ลูกชายก็พูดกับผู้หญิงคนหนึ่งว่า “อ้วนจัง กินขนมเยอะ ไม่ออกกำลังกายใช่ไหมเนี่ย”ลูกชายอาจจะจำที่แม่เคยสอนไว้ว่า ถ้าอยากแข็งแรงต้องไม่อ้วน ต้องออกกำลังกาย ไม่กินขนมเยอะ แม่ก็ตกใจมากแต่ห้ามลูกไม่ทันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นดูไม่พอใจมาก พูดเสียงดังกับแม่ต่อหน้าทุกคนว่า ทำไมไม่รู้จักสั่งสอนลูกให้พูดจาดีๆ ให้มีมารยาทสังคม เรารู้สึกแย่มากไม่อยากเป็นแม่ที่ไม่ดี   เราคงเคยได้ยินวาทกรรมของใครสักคน เวลาที่คนหนึ่งแสดงออกซึ่งพฤติกรรมที่ไม่ดี ทำความเดือดร้อนให้คนอื่น ก็จะมีพูดออกมาเป็นการตำหนิประมาณว่า ‘เป็นลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน’ ซึ่งคงเป็นการสื่อว่า การที่คนคนหนึ่งมีพฤติกรรมเลวร้ายแบบนั้น…

เลี้ยงลูกไม่ให้ชินชากับความรุนแรง

เดี๋ยวนี้สื่อต่างๆ ในประเทศไทย เช่น ละคร ข่าว ถ้าอะไรที่มีความรุนแรงเข้ามาเกี่ยวข้อง มักจะเป็นที่สนใจสำหรับคนทั่วไปมากเป็นพิเศษ ถ้าพูดกันตามหลักจิตวิทยา ก็คงเป็นเพราะสัญชาตญาณในส่วนลึกของมนุษย์ก็มีความต้องการทำตามใจตัวเองและแนวโน้มจะรุนแรงอยู่ เพียงแต่ถูกขัดเกลาด้วยการเรียนรู้ หล่อหลอมด้วยกฎระเบียบของสังคม ศีลธรรมและมโนธรรมในใจ การขัดเกลาจึงมีความสำคัญ เริ่มที่จุดที่สำคัญที่สุดคือการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนของพ่อแม่ และ สิ่งแวดล้อมที่ไม่สนับสนุนในเรื่องความรุนแรง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง เพราะเราอยู่ในสังคมที่ความรุนแรงถูกมองเป็นเรื่องธรรมดา หรือตลกขบขัน เราเห็นได้จากในสื่อต่าง ๆ ทั้งในยูทูป ภาพยนตร์ รายการตลก จะเห็นบ่อย ๆ ว่า มุขตลกที่ถูกนำมาเล่นบ่อย ๆ คือ การที่คนคนหนึ่งกระทำความรุนแรงกับอีกคน…

เตรียมลูกให้พร้อม..พึ่งพาตัวเอง

ไม่กี่เดือนก่อน หมอได้ดูละครเรื่องหนึ่ง ในละครเป็นฉากที่พ่อและลูกสาวกำลังพูดคุยกัน “ห๊า! รถราคาสิบล้าน” “ค่ะ ถูกมากนะคะ คุณพ่อซื้อให้พิมพ์นะคะ” “แต่ว่า พ่อเพิ่งออกรถให้หนูใหม่ไม่ถึงสามเดือนนี้เองนะ พ่อว่าอะไรที่ไม่จำเป็นอย่าเพิ่งซื้อเลย รถที่บ้านก็มีเยอะแยะ” “โธ่ คุณพ่อ พิมพ์อยากได้คันใหม่ นะคุณพ่อ” ด้วยความที่เป็นลูกสาวสุดที่รักยิ่งกว่าแก้วตา ในที่สุดพ่อก็ซื้อรถให้พิมพ์ แม้ว่าธุรกิจของพ่อจะมีปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก ส่วนพิมพ์ก็ไม่เคยรู้ปัญหาของพ่อมาก่อนเลย แม่ของพิมพ์เสียไปตั้งแต่เด็ก เธอมีแต่พ่อที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งเลี้ยงเธออย่างเอาใจและตามใจทุกอย่าง เพราะพ่อมีฐานะร่ำรวย พิมพ์อยากได้อะไรพ่อก็ไม่เคยขัดใจ ทำให้เธอโตมาอย่างเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ยึดตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ประมาณโลกต้องหมุนรอบตัว วีนเหวี่ยงไปทุกเรื่องที่ไม่ตรงตามใจเธอ โดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกหรือเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาพ่อเป็นที่พึ่งพาและเป็นทุกอย่างของพิมพ์ ทำให้พิมพ์ไม่เคยทุกข์ร้อนหรือผิดหวังจากเรื่องใดๆ เพราะมีพ่อคอยช่วยเหลืออุ้มชูเสมอมา จนวันหนึ่งที่พ่อจากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ พร้อมกับทิ้งหนี้สินไว้กับธุรกิจล้มละลาย ชีวิตของพิมพ์ จากที่เป็นเหมือนกับหงส์ที่เฉิดฉาย…

เตรียมลูกเข้าโรงเรียน

ตั้งแต่คลอด เด็กๆ มักแวดล้อมไปด้วยพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคย หากพ่อแม่และบุคคลใกล้ชิดให้ความรักอย่างสม่ำเสมอ ตอบสนองอย่างเหมาะสม และสนับสนุนพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ลูกก็น่าจะเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่มั่นใจและพร้อมจะเผชิญโลกกว้างได้ เมื่ออายุ 2-3 ปี เด็กส่วนใหญ่จะเริ่มเข้าโรงเรียน การปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ก็ไม่น่ายากนัก แต่หากพ่อแม่ไม่ได้เตรียมพร้อมก็อาจทำให้การปรับตัวเป็นไปได้ยาก พ่อแม่สามารถช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จ ในการปรับตัวกับการเข้าโรงเรียนได้โดยช่วยลูก เตรียมพร้อมในหลายๆ ประเด็น ดังต่อไปนี้ ให้ความสัมพันธ์ที่มั่นคง ความสัมพันธ์หรือความผูกพันที่มั่นคงเกิดจากการที่ลูกกับพ่อแม่มีปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ได้ และเหมาะสม เด็กเล็กต้องการการสัมผัส การโอบกอด การเล่น ที่เขารู้สึกได้ว่ามีความสนุกร่วมกัน มีความสนใจร่วมกัน รวมทั้งมีการชื่นชมด้วยหากมีโอกาส ความผูกพันที่มั่นคงนี้ จะช่วยให้ลูกรู้สึกมั่นคงในอารมณ์และมั่นใจในตนเองตามมา ให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง…

เมื่อคุณแม่ช่างวิตกจริต..

“ต๊าย..ตาย..รองเท้าเปื้อนโคลนหมดแล้วลูก” เสียงคุณแม่ยังสาววัยสามสิบต้นๆ ในชุดกีฬาดูทะมัดทะแมงพูดกับลูกชายวัยสามขวบ ยังไม่ทันสิ้นเสียงของคุณแม่ เสียงของลูกชายอีกคนก็ดังลั่นมาจากอีกด้านที่อยู่ไม่ไกลนัก “มดกัด มดกัด....” เด็กชายวัยห้าขวบร้องพลางขยับเท้าไปมาพลาง มองเผินๆ เหมือนเต้นเบรคแด้นซ์ฝีมือใกล้เคียงมืออาชีพ ไม่กี่วินาทีถัดจากนั้นเสียงคุณแม่ก็ประสานรับ “แย่แล้ว...แย่แล้ว มดกัด มดกัด แตนไปดูน้องบอมหน่อยซิ” คุณแม่หันไปสั่งพี่เลี้ยงให้เข้าไปช่วยเหลือบอมเด็กชายวัยห้าขวบโดยด่วน ภาพที่เห็นในขณะนี้ก็คือ มีนักเต้นอยู่สองคนคือเด็กชายวัยห้าขวบและสาวใหญ่วัยสามสิบกว่า แต่ที่ดูตื่นตระหนกมากกว่า น่าจะเป็นสาวใหญ่วัยสามสิบกว่าครับ เหตุการณ์ข้างต้นเกิดขึ้นที่สวนรถไฟซึ่งเป็นสวนสาธารณะยอดนิยมสำหรับครอบครัวคนกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน และเหตุการณ์นี้ก็น่าจะทำให้คาดเดาได้ว่าผู้เป็นแม่คงมีความกังวล ความกลัว ความไม่แน่ใจ และความตื่นตระหนกอยู่กับตัวจนกลายเป็นบุคลิกที่พร้อมจะแสดงออกให้ได้รับรู้อยู่เสมอ เพราะขนาดผมเองที่กำลังขี่รถจักรยานผ่านกับลูกสาวเพียงไม่กี่นาทียังเป็นพยานรู้เห็นอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ลูกสาววัยเจ็ดขวบของผมยังเผลอแสดงสีหน้าวิตกกังวลร่วมด้วยอยู่พักใหญ่ ลูกชายสองคนของคุณแม่ซึ่งอยู่กับคุณแม่ที่วิตกจริตเช่นนี้ เห็นท่าจะน่าเป็นห่วงไม่ใช่น้อย แม้ว่าครอบครัวนี้จะไม่ได้มาปรึกษากับผมโดยตรง แต่ก็เริ่มเห็นเด่นชัดว่าอาการตื่นตระหนกเริ่มปรากฏที่บอม ลูกชายคนโตแล้วเพราะโดนมดกัดนิดเดียวแต่ร้องโวยวายราวกับโดนสุนัขตัวใหญ่ขย้ำ ทำไมลูกจึงเป็นเช่นนี้? ประการแรกลูกเลียนแบบปฏิกิริยาจากสิ่งที่เห็น เขาไม่ได้ตั้งใจเลียนแบบแต่เป็นการทำงานของสมอง เลียนแบบปฏิกิริยาตื่นตระหนกของคุณแม่ แม่ทนุถนอมลูกเกินไป ด้วยเพราะแม่กังวลกับสิ่งรอบตัว ลูกจึงไม่เรียนรู้ที่จะอดทนกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม่ไม่อนุญาตให้ลูกได้จัดการแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง…

ค้นหาสาเหตุทำไมลูกไม่อยากไปโรงเรียน ?

โรงเรียนเป็นสถานที่สำคัญในการฟูมฟักเด็กทั้งในเรื่องการศึกษา พัฒนาการ นิสัยใจคอ ตลอดจนคุณธรรมต่างๆ หากเด็กสามารถปรับตัวและเข้ากับโรงเรียนได้ดีก็จะเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญที่ช่วยให้สามารถพัฒนาด้านต่าง ๆ ได้อย่างราบรื่น แต่หากปรับตัวไม่ได้ ไม่ชอบโรงเรียนหรือปฏิเสธโรงเรียนก็เป็นเรื่องยากที่จะช่วยให้เด็กรับประโยชน์ในการไปโรงเรียนได้อย่างเต็มที่ มดเป็นเด็กหญิงวัย 11 ปี อยู่ชั้นป.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในรอบ 3 ปีนี้ย้ายโรงเรียนมา 3 แห่ง พูดง่าย ๆ คือ ปีละแห่ง พ่อแม่ตระหนักถึงความสำคัญของโรงเรียนและมองว่า การที่มดปฏิเสธโรงเรียนเป็นเพราะโรงเรียนแต่ละแห่งอาจไม่เหมาะกับลูก ในเดือนสองเดือนแรกของการเปลี่ยนโรงเรียนดูเหมือนจะได้ผล แต่พอเข้าเดือนที่สามอาการเดิม ๆ ก็ปรากฏขึ้น คือ ตอนเช้า…

ช่วยให้ลูกมีความคิดเชิงบวก

พ่อแม่ทุกคนย่อมปรารถนาให้ลูกมีความสุขและประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งสิ้น ปัจจัยสำคัญอันหนึ่งในหลาย ๆ ปัจจัยก็คือการส่งเสริมให้ลูกมีความคิดเชิงบวก ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้เกิดอีกหลายคุณลักษณะในตัวเด็ก ทั้งความมั่นใจในตัวเอง ความรู้สึกไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค สุขภาพจิตที่ดี รวมทั้งมนุษยสัมพันธ์และความมีเสน่ห์ในตนเอง แล้วพ่อแม่จะช่วยลูกได้อย่างไร ใช้ภาษาเชิงบวก บ่อยครั้งที่พ่อแม่ชินกับการใช้ คำสั่งห้าม หรือการพูดตำหนิ ต่อว่าลูก นั่นถือเป็นการตอกย้ำ กับความคิดหรือพฤติกรรมเชิงลบ เช่น “ทำไมถึงสะเพร่าอย่างนี้” “อย่าเกเร และดื้อกับคุณตาคุณยายนะลูก” “อย่ากระโดดเป็นลิงเป็นค่างอย่างนี้” “ทำไมถึงขี้เกียจกันจริง” ตัวอย่างเหล่านี้มักเกิดขึ้นจากความผิดหวังหรือไม่พอใจของพ่อแม่ แต่การพูดเชิงลบเช่นนั้น นอกจากโอกาสที่ลูกจะเชื่อฟังหรือ ทำตามน้อยแล้ว ยังอาจส่งผลในเชิงลบต่อตัวลูกคือลูกเชื่อว่าตนเองเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เพราะพ่อแม่ ที่เขารัก บอกเขาหรือตอกย้ำเสมอว่าเขามีลักษณะเช่นนั้น…