X

เลี้ยงลูกอย่างไรดี ในโลกยุคที่มีเทคโนโลยีใกล้ตัว

ต้องยอมรับจริงๆ ว่าในยุคนี้การใช้มือถือ สมาร์ทโฟน ไอแพด เป็นเรื่องปรกติมากๆ ของการใช้ชีวิต และหลายๆ ครอบครัวก็มักให้ลูกได้ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นเหมือนของเล่นอีกชิ้น จนบางครั้งลูกกลายเป็นเด็กติดจอ และเกิดปัญหาด้านพัฒนาการการเติบโตเลยทีเดียว ซึ่งที่จริงแล้วหากคุณพ่อคุณแม่สามารถจัดการบริหารเวลา และควบคุมการใช้ของลูกได้อย่างดี เทคโนโลยีเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์ได้มากเช่นกัน 

ผลเสียของการที่ลูกติดจอ 

สายตา เรื่องนี้ถือเป็นผลกระทบหลัก และส่งผลโดยตรง เพราะการใช้สมาร์ทโฟนของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี มักเป็นลักษณะการจ้องมองในระยะที่ใกล้มากๆ  จนเกิดภาวะที่เรียกว่า “ตาเพ่งค้าง” อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว ตาพร่าได้ หรือที่เรียกว่าสายตาสั้นเทียมชั่วคราวได้ หรือถ้าจ้องจอนานๆ ติดต่อกัน และทำเป็นประจำก็อาจเกิดเส้นประสาทตาอักเสบได้ 

สมาธิสั้น เคยมีงานวิจัยจากอเมริกาออกมาว่า หากลูกเล่นสมาร์ทโฟน ไอแพดนานขึ้น 1 ชั่วโมง จะทำให้มีความเสี่ยงปัญหาเด็กสมาธิสั้นเพิ่มขึ้นถึง 9% เลยทีเดียว เนื่องจากรับข้อมูลจากหน้าจอที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดปัญหาการใช้สมองในส่วนความทรงจำลดลง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อรับข้อมูลจากหน้าจอไปนานๆ ด้วยสีสันที่สดใสตลอดเวลา เมื่อมาใช้ชีวิตปรกติอาจเกิดความรู้สึกเบื่อ และไม่สนใจสิ่งรอบตัวได้

พัฒนาการช้า ช่วงวัยของเด็กที่ยังต้องเติบโต และมีพัฒนาการด้านต่างๆทั้งร่างกาย การเข้าสังคม หากปล่อยให้ลูกใช้เวลากับหน้าจอมากเกินไป อาจส่งผลทำให้ขาดทักษะในการติดต่อสื่อสารกับผู้อื่น พูดคุย และเข้าสังคมได้ยาก เพราะการจ้องจอนั้นเด็กๆ จะเป็นฝ่ายรับข้อมูลอย่างเดียว ไม่ได้เกิดปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลขึ้น 

แล้วจะดูแลลูกอย่างไรดี ?? 

สิ่งที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ควรทำ ไม่ใช่การห้ามหรือการดุว่า แต่ควรเป็นการอธิบายและสร้างข้อตกลง จนเกิดเป็นความเข้าใจระหว่างกัน ให้ลูกยอมรับและปฏิบัติตามด้วยตัวเอง เช่น การกำหนดเวลาใช้สมาร์ทโฟน และฝึกให้ลูกบริหารสายตา มองวิวระยะไกลๆ บ้าง 

ที่สำคัญควรใช้เวลาอยู่กับลูก และทำกิจกรรมอื่นร่วมกัน เพราะบางครั้งก็เป็นคุณพ่อคุณแม่เองที่ติดจอ เล่นโซเชียลเป็นตัวอย่างให้ลูกดู หรือบางครั้งเมื่อคุณพ่อคุณยุ่งๆ ก็มักยื่นสมาร์ทโฟนให้ลูกไปเล่นเลย จะได้อยู่เงียบๆ เป็นการจัดการที่ใช้ได้ผลจริง แต่ในระยาวจะส่งผลเสียมากกว่า 

การให้เวลาดูแล และใส่ใจลูกถือเป็นเรื่องสำคัญมากของเด็กที่กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่สามารถหากิจกรรมง่ายๆ สนุกๆ ทำด้วยกันอย่างอ่านหนังสือให้ฟัง พาไปปั่นจักรยานรอบๆ บ้าน หรือพาไปเที่ยวให้เด็กๆ ได้เกิดประสบการณ์ใหม่จากการสัมผัสบรรยากาศรอบตัวจริงๆ และเรื่องสำคัญอีกเรื่องคือเลือกสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อการเติบโตของลูกๆ ในทุกๆ วันอย่างวิตามินซี มีใน C-vitt เครื่องดื่มวิตามินซี 200% เพราะช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ไม่ให้เด็กๆ เป็นโรคลักปิดลักเปิดป้องกันการเป็นหวัด และทำให้สร้างกายสมบูรณ์แข็งแรง

เพื่อให้แน่ใจว่าลูกๆ จะได้รับวิตามินซีมากเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในทุกวัน พร้อมสำหรับการเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัย  C-vitt เครื่องดื่มวิตามินซี 200% สูตรน้ำตาลน้อยกว่า สูตรเฉพาะจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมเติมวิตามินซีคุณภาพดีให้เด็กๆ ทุกคน และใหม่ล่าสุด C-vitt mini วิตามินซีสูง พกพาสะดวกในรูปแบบกล่อง มีให้เลือก 2 รสทั้ง เลมอน และออเร้นจ์  สามารถหาซื้อ C-vitt mini ได้ง่ายๆ ที่ จิฟฟี่ ท้อปส์ แมคโคร และร้านค้าทั่วไปใกล้บ้าน สำหรับประโยชน์สาระวิตามินซีเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ทาง

http:// www.facebook.com/Cvitt.vitaminC

#Cvittminiวิตามินซีสูงพกพาสะดวก

motherandcare:
Related Post