มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เกิดขึ้นมามากมายเพื่อตอบสนองความสะดวกสบายของเรา นวัตกรรมบางอย่างก็มีประโยชน์กับเด็ก ๆ มากค่ะ หนึ่งในบรรดาปัญหาที่คุณแม่กังวลใจก็คือจะทำอย่างไรให้ลูกดื่มน้ำพอเพียงในแต่ละวัน ซึ่งตรงผลวิจัยของ Harvard School of Public Health รายงานว่าเด็กเกินกว่า 50 % ในสหรัฐฯ ดื่มน้ำน้อยกว่าที่ร่างกายต้องการ งานวิจัยยังบอกอีกว่าการดื่มน้ำน้อยส่งผลเสียต่อสมองทั้งทางด้านความจำและอารมณ์ นอกจากสมองแล้วน้ำยังมีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างยิ่ง ช่วยให้การทำงานของร่างกายเป็นไปตามปกติ ทั้งระบบไหลเวียนโลหิต การเผาผลาญ การควบคุมอุณหภูมิ และการกำจัดของเสียออกจากร่างกาย บริษัท Bowhead Technology ได้คิดค้นกระติกน้ำสุดไฮเทคชื่อ Gululu ช่วยให้การดื่มน้ำเป็นเรื่องสนุกสนานเพื่อให้เด็ก ๆ ดื่มน้ำกันมากขึ้น ความอัจฉริยะของกระติกน้ำ Gululu ก็คือ เป็นกระติกน้ำที่มีเกมสัตว์เลี้ยงให้เล่น โดยกระติกน้ำจะสามารถวัดปริมาณการดื่มน้ำได้ คุณแม่คงสงสัยใช่มั้ยคะว่าเกมจะชวนให้เด็กสนุกกับการดื่มน้ำอย่างไร ทุกครั้งที่ลูกดูดน้ำจะเป็นการเติมพลังให้สัตว์เลี้ยงมีความสุขและโตขึ้น การดื่มน้ำต้องครบตามลิมิตที่ตั้งไว้ โดยใส่ข้อมูล น้ำหนัก อายุ และ กิจกรรมในแต่ละวันของลูก มีการแบ่งลิมิตการดื่มน้ำให้ครบ ถ้าดื่มครบจะได้ Gems สะสมไว้ซื้อไอเทมแต่งตัวสัตว์เลี้ยงจากใน…
คุณแม่บางท่านอาจสงสัยว่า การดื่มน้ำมีวิธีที่ถูกและผิดด้วยหรือ จะเรียกว่าผิดเสียทีเดียวก็อาจจะไม่ใช่เพียงแต่ว่าบางวิธีที่ใช้อยู่ยังไม่เหมาะสมเท่าใดนัก เช่น บังคับให้ลูกดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ ให้ลูกดื่มน้ำหวานตามใจชอบโดยไม่กำหนดปริมาณที่เหมาะสม ให้ลูกดื่มน้ำอัดลม น้ำแร่ หรือชากาแฟ 3 วิธีฝึกลูกให้ได้ประโยชน์จากการดื่มน้ำ 1.ให้จิบบ่อย ๆ ระหว่างวัน อาจจะครึ่งแก้วบ้าง 1 แก้วบ้าง เฉลี่ยไปทั้งวันยกเว้นใกล้เวลานอนเพราะจะทำให้ปัสสาวะตอนกลางคืน การให้ลูกได้รับน้ำตลอดทั้งวันจะดีต่อร่างกายมากกว่าการให้ดื่มน้ำครั้งละมาก ๆ 2.ฝึกให้ดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก อนุญาตให้ดื่มน้ำหวานได้บ้างแต่ต้องไม่มาก เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกได้รับน้ำตาลเกินและฟันไม่ผุ 3.ฝึกให้ดื่มน้ำในอุณหภูมิห้อง เวลาเป็นไข้ไม่สบายจะไม่ต้องเรียกร้องขอดื่มน้ำเย็น แต่ก็ไม่ควรเคร่งครัดถึงกับห้ามดื่มน้ำเย็นเลย เด็กบางคนชอบน้ำเย็นเพราะดื่มแล้วรู้สึกสดชื่น ดูแลลูกแล้วคุณแม่เองก็อย่าลืมดื่มน้ำนะคะ
ถ้าพูดถึงการบำรุงสมองแล้ว คุณพ่อคุณแม่มักจะนึกถึงเรื่องอาหารการกินของลูกเป็นอันดับแรกใช่ไหมคะ จะคอยดูแลให้เขาได้รับอาหารดี ๆ มีประโยชน์ครบถ้วน แต่ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญมากเรียกได้ว่าถ้าขาดแล้วสมองแย่แน่ นั่นก็คือ “น้ำ” ค่ะ หากในแต่ละวันลูกดื่มน้ำน้อยเกินไป จะส่งผลให้เซลล์ต่าง ๆ ได้รับน้ำไม่เพียงพอ นอกจากจะก่อปัญหากับการทำงานของร่างกายแล้ว ยังมีผลต่อสมองอย่างยิ่งผลเสียเมื่อสมองลูกขาดน้ำ 1.ขาดสมาธิ บทความหนึ่งที่ตีพิมพ์ในเว็บไซต์ Psychology Today กล่าวว่ามีรายงานการวิจัยหลายชิ้นพบว่า ถ้าร่างกายขาดน้ำ สมองของเราจะไม่สามารถมีสมาธิจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง 2.ความจำไม่ดี สมองของคนเราบันทึกทั้งความจำระยะสั้นและความจำระยะยาวค่ะ ความจำระยะสั้นก็คือการจำเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดเมื่อไม่นานมานี้ได้ การขาดน้ำจะทำให้ลืมเรื่องราวที่เพิ่งรับรู้มาเมื่อไม่นาน เช่น จำสิ่งที่เพิ่งบอกไปเมื่อครู่หรือเมื่อเร็ว ๆ นี้ไม่ได้ ส่วนความจำระยะยาวคือเรื่องราวที่สมองบันทึกไว้นานมาแล้ว หากขาดน้ำจะทำให้นึกย้อนไปหาข้อมูลเก่า ๆ ได้ช้าลง 3.เรียนรู้ช้า เมื่อขาดสมาธิและความจำไม่ดี จึงส่งผลต่อการเรียนรู้ของเด็ก ทั้งการเรียนรู้โลกรอบตัวและการเรียนหนังสือ เนื่องจากการเรียนรู้และการคิดต้องอาศัยข้อมูลเก่ากับข้อมูลใหม่ร่วมกันเพื่อประมวลผล ลูกต้องจำคำศัพท์ได้ก่อนถึงจะเรียบเรียงประโยคได้ ลูกต้องจดจำตัวเลขและจำวิธีบวกลบคูณหารได้ก่อนจึงจะตอบโจทย์คำนวณได้ 4.ขาดพลัง สมองมีน้ำเป็นส่วนประกอบ 85% ถ้าสมองขาดน้ำจะรู้สึก ว่าสมองตื้อคิดอะไรไม่ออกและขาดพลังความคิด การได้ดื่มน้ำอย่างพอเพียงจะทำให้การส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองรวดเร็วขึ้น 5.อารมณ์ไม่สดชื่น การดื่มน้ำไม่เพียงพอจะส่งผลต่ออารมณ์ทำให้รู้สึกไม่สดชื่น…