X

การรังแกกันในโรงเรียน ความจริงที่น่าตกใจ

ข่าวคราวเด็กรังแกกันในโรงเรียนมีออกมาเป็นระยะ อย่างล่าสุดรุ่นพี่ม.2 รุมแกล้งน้อง ป.4 นอกจากเล็กกว่ากันหลายชั้นปีแล้วน้องยังเป็นออทิสติก ควรจะได้รับความเห็นอกเห็นใจและการดูแลจากคนรอบข้างด้วยซ้ำค่ะ

ภาพความโหดร้ายของรุ่นพี่ซึ่งเป็นเพียงเด็ก ช็อกความรู้สึกคนทั่วไปก็จริง แต่ขณะเดียวกันคนส่วนหนึ่งมองว่าการรังแกกันเป็นเรื่องธรรมดา แค่ชดใช้เงินเพียงเล็กน้อยก็แล้วกันไป

อาจต้องตั้งคำถามว่าโรงเรียนแก้ไขปัญหาจริงจังแค่ไหน มองเห็นปัญหาหรือเปล่า และสุดท้ายพ่อแม่มีโอกาสรับรู้บ้างไหมว่าลูกเราถูกรังแก หรือเป็นเด็กที่รังแกเด็กคนอื่นเสียเอง

ข้อมูลจากกรมสุขภาพจิตรายงานว่าเด็กไทยถูกรังแกติดอันดับ 2 ของโลก หรือข่าวที่ออกมาว่าหนึ่งในเด็กที่รุมแกล้งเป็นเด็กกตัญญู อาจเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องตั้งคำถามตัวโต ๆ ค่ะว่าสังคมไทยของเราเป็นอย่างไรไปแล้ว

เด็กไทยรังแกกันในโรงเรียนติดอันดับ 2 ของโลก รองจากญี่ปุ่น !

  • สถิติเด็กไทยถูกรังแกถึงปีละกว่า 6 แสนคน !
  • แม้ยังเป็นเด็กแต่ก็มีรูปแบบการรังแกกันด้วยวิธีรุนแรง โหดร้าย และทารุณ !
  • เด็กที่รังแกเพื่อนมีตั้งแต่ชั้นอนุบาล !
  • คนทั่วไปมองว่าการรังแกกันเป็นเรื่องปกติ !
  • โรงเรียนบางแห่งละเลยปัญหาพยายามปกปิดเพราะห่วงชื่อเสียง !
  • เด็กที่ถูกรังแกไม่กล้าบอกพ่อแม่หรือครู !

ถ้าพ่อแม่ ครู และสังคมละเลยการรังแกกันของเด็ก เท่ากับเราอาจกำลังสร้างเด็กที่มีปัญหาปีละ 6 แสนคน X 2 ซึ่งเด็กเหล่านี้จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่สร้างปัญหาให้กับตัวเองและสังคมในอนาคต

ผลร้ายเกิดกับเหยื่อเท่านั้นหรือ ?

โดยทั่วไปแล้วมักเข้าใจกันว่าผลทางจิตใจจะเกิดเฉพาะกับเด็กที่ตกเป็นเหยื่อ ความจริงก็คือ หากเด็กตกอยู่ในสถานการณ์เดิมซ้ำ ๆ ทั้งเด็กที่ถูกรังแกและเด็กที่รังแกคนอื่นจะได้รับผลเสียด้วยกันทั้งสองฝ่าย

เด็กที่ถูกรังแก

  • จะกลายเป็นคนวิตกกังวล ขี้กลัว
  • แยกตัวจากคนอื่น
  • ความภาคภูมิใจในตัวเองต่ำ
  • ไม่มีสมาธิ
  • ผลการเรียนลดลง
  • ไม่อยากไปโรงเรียน
  • ย้ายโรงเรียนหนี
  • มีแนวโน้มการฆ่าตัวตายสูงกว่าคนที่ไม่ถูกรังแก 2-9 เท่าเมื่อโตขึ้น

เด็กที่รังแกคนอื่น

  • มีพฤติกรรมก้าวร้าวใช้ความรุนแรง
  • ต่อต้านสังคม
  • หนีเรียนเมื่อโตขึ้น
  • ใช้แอลกอฮอล์หรือยาเสพติดเมื่อเป็นวัยรุ่น
  • เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่มีแนวโน้มทำร้ายคนในครอบครัว
  • มีแนวโน้มทำผิดกฎหมายหรือก่ออาชญากรรม

5 วิธีหยุดการถูกรังแก

  1. ชวนลูกพูดคุย ถึงเรื่องที่โรงเรียน เล่าเรื่องการถูกรังแกให้ฟัง ถ้าลูกบอกว่าถูกรังแกให้รับฟังและขอความร่วมมือจากครูเพื่อแก้ปัญหา
  2. สอนลูกให้ รู้จักการเข้าสังคม อย่าอยู่คนเดียว
  3. สอนให้ลูกเลี่ยงสถานการณ์หรือจุดเสี่ยงลับตาผู้ใหญ่
  4. ฝึกลูกให้เชื่อมั่นในตัวเอง กล้าพูดปกป้องตัวเอง
  5. สอนให้ลูกกล้าบอกผู้ใหญ่เมื่อมีปัญหา

5 วิธีหยุดลูกรังแกเพื่อน

  1. ให้ลูกรับรู้ว่าการรังแกคนอื่นเป็นสิ่งที่พ่อแม่และทุกคนไม่ยอมรับ และลงโทษเมื่อทำผิด
  2. สอนลูกให้เคารพสิทธิของคนอื่น และยอมรับคนที่แตกต่างจากตัวเอง
  3. ฝึกให้ลูกมีเมตตา ให้มีโอกาสช่วยเหลือคนอื่นรวมทั้งคนที่ด้อยกว่า
  4. หาสาเหตุการรังแกเด็กอื่น
  5. พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ใช้ความรุนแรง

ข้อมูลอ้างอิงhttps://www.stopbullying.gov/http://www.bullyingstatistics.org/content/bullying-and-suicide.html http://taamkru.com/th/ลูกถูกรังแก/#article104https://www.thairath.co.th/content/1395060

ข้อมูลอ้างอิง

  • https://www.stopbullying.gov/
  • http://www.bullyingstatistics.org/content/bullying-and-suicide.html
  • http://taamkru.com/th/ลูกถูกรังแก/#article104
  • https://www.thairath.co.th/content/1395060
motherandcare:
Related Post