ปัญหาสุขภาพช่องปากก็เป็นภาวะหนึ่งที่เกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ อย่ากังวลใจ มาดูว่าปัญหาตรงกับเราไหม และแก้ไขอย่างไรกันดีกว่าค่ะ
1.เลือดออกตามไรฟัน
• ช่วงนี้เหงือกค่อนข้างอ่อนนุ่มกว่าปกติ ถ้ามีเลือดออกก็อาจทำให้เหงือกอักเสบตามมา วิธีที่ช่วยได้ คือดูแลเรื่องความสะอาดช่องปากอย่างสม่ำเสมอ ใช้แปรงสีฟันที่ขนแปรงอ่อนนุ่ม กินอาหารจำพวกผัก ผลไม้ เพิ่มวิตามินซี ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของเหงือก ลดอาการเลือดออกตามไรฟัน
2.เหงือกบวม
• การแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟันผิดวิธี มีโอกาสเกิดโรคเหงือกได้ง่ายอยู่แล้ว และเมื่อระดับฮอร์โมนเพศเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรนในร่างกายเพิ่มขึ้น ส่งผลให้แบคทีเรียเจริญเติบโต มีเลือดออกเวลาแปรงฟัน, มีกลิ่นปาก หรือเกิดอาการเสียวฟัน ทางออกที่ทำได้ คือใช้แปรงสีฟันที่มีขนอ่อนนุ่ม แปรงฟันเบาๆ และใช้ไหมขัดฟันอย่างถูกวิธี
3.แผลหรือกลิ่นปาก
• น้ำลายในช่องปากที่มีมากขึ้นช่วงตั้งครรภ์นั้น (ในน้ำลายมีภาวะเป็นกรด จึงละลายสารเคลือบฟัน) ก็มีส่วนให้เกิดแบคทีเรียในช่องปากได้ง่าย ดังนั้น ควรแปรงฟันหลังมื้ออาหาร ถ้าไม่สะดวก ก็ให้บ้วนปากด้วยน้ำสะอาดแรงๆ หลายๆ ครั้งก็ยังดีค่ะ
4.ฟันผุ
• การสะสมของคราบอาหาร คราบหินปูน มีโอกาสที่จะทำให้เกิดปัญหาดังนั้น ควรไปหาหมอฟันและเช็กสุขภาพฟันเป็นระยะ ไม่รอให้ปวดฟันมากขึ้น เพราะอาจลุกลามเป็นปัญหาอื่นต่อไป
5.ฟันโยก
• อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นช่วงหลังคลอดไปแล้ว เพราะปริมาณฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนเริ่มลดลง ปัญหาเหงือกที่บวมจะยุบและยึดเหนี่ยวซี่ฟันที่โยกให้แข็งแรงขึ้น
6.จัดฟัน
• หากเป็นการจัดฟันก่อนตั้งครรภ์ก็ไม่ส่งผลใดๆ ต่อลูกค่ะ ถ้าเกิดขึ้นระหว่างตั้งครรภ์ต้องใส่ใจเรื่องสุขภาพฟันให้มาก เพราะอาจทำให้เหงือกอักเสบถ้าแปรงฟันไม่สะอาด หรืออาจขาดสารอาหาร เนื่องจากกินอาหารได้ไม่สะดวกเช่นเดิม และระมัดระวังการได้รับรังสี X-Ray
แนะนำว่าควรพบทันตแพทย์อย่างน้อย 1 ครั้ง ช่วงที่คุณตั้งครรภ์ และจะดีมากถ้าสามารถทำได้ 3 เดือนต่อครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพช่องปาก และฟันอย่างถูกวิธี หรือลองสำรวจสุขภาพช่องปาก ถ้าไม่แน่ใจหยิบโทรศัพท์โทรฯ นัดคุณหมอฟันได้เลยค่ะ