ยางกัดคืออะไร แตกต่างจาก จุกหลอก อย่างไร เลือกแบบไหน คำถามเหล่านี้ เชื่อว่า มีคุณพ่อคุณแม่หลายๆ บ้าน ที่อาจจะสงสัยค่ะ ข้อแตกต่างระหว่างจุกหลอกและยางกัดดังนี้ จุกหลอก ใช้เวลาที่น้องกินอิ่มแล้วยังอยากดูดต่อ หรือ งอแงง่วงนอน การใช้จุกหลอกจะทำให้เด็กอารมณ์ดีผ่อนคลายขึ้น ยางกัด แบบทั่วไปจะช่วยนวดเหงือก มีงานวิจัยบางแหล่งเชื่อว่าการนวดเหงือกจะช่วยให้ฟันขึ้นได้ง่าย และ ช่วยผ่อนคลายในช่วงที่ฟันของลูกกำลังขึ้น หรือ ลูกมีอาการคันเหงือก จากการขยายตัวออกของเหงือก ยางกัดเด็กใช้ได้ตั้งแต่อายุเท่าไหร่? ยางกัดใช้ได้ตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป ควรเลือกวัสดุที่เรียบ ไม่คม มีมาตรฐาน มอก. รองรับ เลือกรูปร่างของยางกัดอย่างไหร่? ฟันของเด็กจะเริ่มขึ้นจากฟันหน้า ไล่ไปถึงฟันกราม รูปทรงของยางกัดไม่ควรใหญ่เกินไป มีรูปทรงที่เหมาะกับการนวดเหงือกในแต่ละช่วงวัย หลักการพิจารณาและเลือกยางกัดที่จะมั่นใจว่าปลอดภัยสำหรับลูก วัสดุที่ใช้สำหรับยางกัด จะต้องปลอดสารพิษ 100% ไม่มีการแต้มสีเพิ่มเติมที่ตัวยางกัด เพราะ สีแม้นิดเดียวก็มีส่วนผสมของสารเคมี ทนความร้อนได้ถึง 135 องศา ทำให้นึ่ง ลวกได้ ต้มได้ แบบหายห่วง Anti bacteria ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะของ Santoprene ทำให้แบคทีเรียไม่สามารถเจริญเติบโตบนตัวยางกัดได้
เด็กแรกเกิดถึง 3 ขวบ
เมื่อเบบี๋เข้าสู่ช่วง 3 เดือน คุณพ่อคุณแม่หลายๆ บ้านเลยอาจแปลกใจที่ลูกน้อยมักมีอาการงอแงอย่างไม่มีสาเหตุ บางที ก็อาจมีไข้ อาการเหล่านี้ คือ เป็นช่างที่ลูก คันเหงือก เหงือกขยายเพื่อฟันซี่แรกกำลังจะขึ้นนั้นเองค่ะ สัญญาณที่บอกว่าลูกกำลังฟันขึ้น ลูกน้อยมีอาการขี้หงุดหงิด งอแง และร้องมากขึ้นในเวลากลางคืน มีน้ำลายไหลมากลูกอยากกัดทุกอย่างที่เห็น เช่นนิ้วมือ หรืออื่นๆ ที่เค้าหยิบจับได้ ลูกมีอาการตัวรุมๆ ร้อนๆ เหงือกของลูกจะบวมแดง ร้องโยเย อยากดูดนมแม่ หรือขวดนม ทั้งๆ ที่อิ่มแล้ว ลูกจะนอนหลับไม่สนิท ยางกัด ช่วยเสริมพัฒนาเบบี๋ วิธีช่วยลูกบรรเทาอาการคันเหงือก แบบเสริมพัฒนาการไปด้วย ลูกสนุก แม่แฮปปี้ คือการใช้ “ยางกัด” ค่ะ ยางกัดจัดเป็นของเล่นสำหรับวัยนี้เลยเนื่องด้วย ยางกัด จะมีด้ามจับที่ลูกจับง่าย พอดีกับมือเล็กๆ ของเขา ยางกัด จะมีสีสัน และ รูปทรงต่างๆ ทำให้ฝึกพัฒนาการการมอง การสังเกต ของลูก ฝึกด้านอารมณ์ พัฒนาการทางสมอง ยางกัดทำจากอะไรได้บ้าง ยางกัดพลาสติก ยางกัดยางพารา…
ปกป้องลูกจาก “ยุงร้าย” ต้นเหตุไข้เลือดออก BabyQto สายรัดข้อมือกันยุง จากธรรมชาติ ปลอดภัยผ่านการรับรองมาตรฐานจากอย.
เด็กเล็กตั้งแต่แรกเกิด – 5 ปี เป็นช่วงวัยที่เด็กเจ็บป่วยได้ง่าย เนื่องจากมีภูมิคุ้มกันโรคต่ำกว่าผู้ใหญ่ และอย่างที่รู้กันแบบปฎิเสธไม่ได้เลยว่า ปัจจุบันมีโรคติดต่อในเด็กเยอะ และ ซับซ้อนขึ้น โรคต่างๆ มีความทวีความรุนแรงขึ้น
เมื่อเบบี๋มีอาการท้องอืดเนื่องจากเกิดมีลมในท้องมากเกินไป Mother&Care มี 5 วิธี ป้องกันและแก้ปัญหาเด็กท้องอืด
คุณพ่อคุณแม่คะ เรามาสร้างอารมณ์แจ่มใส อารมณ์ดี หลับสบายให้ลูก แบบเร่งรัดกันค่ะ
ปัญหาการขับถ่ายของลูก นอกจากเป็นอาการไม่ปลื้มของแม่แล้ว ยังสร้างความกังวล ปนสงสัยอยู่บ่อยๆ ว่าแบบไหนที่เข้าค่ายเป็นปัญหาสุขภาพของลูกน้อยที่แม่อยากรู้
ลูกผิวแห้ง แตกเป็นขุยมากแค่ไหน
ไม่ยอมทาครีมบำรุงเพิ่มเติม เพราะกลัวผิวลูกระคายเคือง แพ้ง่าย
คิดว่าอยู่แต่ในห้องแล้วผิวไม่ได้รับมลภาวะใด ๆ น่าจะไม่เป็นไร
แต่ในความเป็นจริงแล้วผิวของลูกนั้นบอบบางเสียยิ่งกว่าพ่อแม่เสียอีก
ก่อนอื่นเราต้องไปทราบสาเหตุกันก่อนว่าทำไมลูกถึงผิวแห้งนะ ลูกผิวแห้ง เพราะ สาเหตุของผิวแห้ง ผิวแตกเป็นขุย
อาจเกิดได้จากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อาทิ การอยู่ในห้องแอร์ที่มีอากาศค่อนข้างแห้ง
หรืออากาศร้อนก็มีส่วนทำให้ผิวของลูกเกิดผื่นแห้งแดงจากเหงื่อได้
หรือการถูสบู่แรงและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นด่างมากเกินไปจนทำร้ายผิวของลูกให้แห้งกร้าน
รวมไปถึงหลังอาบน้ำเสร็จแล้วไม่ยอมบำรุงทาครีมให้ลูกน้อยเลย สาเหตุง่าย ๆ
ใกล้ตัวในชีวิตประจำวันนี้เองที่พวกเราเผลอมองข้ามไปจนทำร้ายผิวของลูกเรา
จนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของลูก ทั้งอาการเกา คัน บริเวณผิว จึงทำให้เกิดเป็นแผลได้ วิธีการบำรุงและหลีกเลี่ยง เมื่อผิวลูกแห้งเป็นขุย 1.เลือกใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสมกับเด็ก ควรเลือกครีมบำรุงที่หลีกเลี่ยงอาการแพ้ให้ลูก ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากออร์แกนิคและเวชสำอางค์เท่านั้น และควรดูส่วนผสมก่อนซื้อด้วยว่าใส่สารกันบูดไหม มีสีสังเคราะห์ และสารลดแรงตึงผิวหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยต่อผิวของลูก 2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่อ่อนโยนต่อเด็ก ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มี 4 อย่างนี้เป็นส่วนประกอบ คือ กลูเตน พาราเบน เอสแอลเอส ซิลิโคน ซึ่งสารเหล่านี้มีผลข้างเคียงต่อการเจริญเติบโต ปัญหาสะสมในร่างกายต่าง ๆ และเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องเลือกให้ดีและถี่ถ้วนก่อนใช้งาน 3.ไม่ควรอาบน้ำบ่อย และใช้น้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป วันไหนลูกน้อยเหงื่อออกไม่มาก แนะนำให้พ่อแม่อาบน้ำให้ลูกแค่วันละหนพอ นอกเหนือจากนี้การอาบน้ำร้อนนั้นยังส่งผลกระทบต่อน้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิวของลูกน้อยด้วย ทำให้ผิวแห้งตึงและขาดความชุ่มชื้นได้นั่นเอง แถมพ่อแม่ห้ามถูและขัดตัวลูกน้อยแรงจนเกินไปด้วย เพราะการกระทำแบบนี้จะยิ่งทำให้ผิวแห้งขึ้น 4.หลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำในสระคลอลีนและน้ำเกลือ สระว่ายน้ำกับเด็ก เป็นของคู่กัน หากหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำของลูกไม่ได้…
ลูกไม่ยอมนอน ตกกลางดึกร้องไหงอแงทุกที
ยิ่งเป็นพ่อแม่มือใหม่กับลูกเล็กเด็กอ่อนวัยไม่เกิน 3-4
เดือนแล้วเนี้ย ถือเป็นปัญหาเบสิคที่ทุกบ้านต้องพบเจอเลยแหละ
แต่อาการมันจะหายไปและพ่อแม่สบายบรื้อเมื่อลูกเริ่มพ้นอายุ 6
เดือนขึ้น แต่การฝึกลูกนอนควรทำแต่เนิ่น ๆ ตอนลูกอายุ 1 กว่า
ๆ จนถึง 2 เดือน
จะมีวิธีฝึกให้ลูกน้อยนอนยาวตอนกลางคืนเพื่อการพักผ่อนและให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ดีจะมีอะไรบ้าง
ไปดูกันเลย ลูกไม่ยอมนอน เกิดจากสาเหตุดังนี้ เนื่องจากเด็กทารกนั้นยังไม่มีความสามารถในการแยกแยะเวลากลางวัน
กลางคืน พ่อแม่จึงอย่ารำคาญลูกกันเลยว่าตื่นกลางดึกกันบ่อยจัง
อีกทั้งยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้ลูกเกิดความไม่สบายตัวในการนอนทั้งบรรยากาศห้องนอน
เสื้อผ้าที่ลูกสวมใส่ หรือแม้แต่อาการผิดปกติทางร่างกาย รวมไปถึงลูกหิวนม
ปวดห้องน้ำอีกด้วย ยิ่งเป็นลูกเล็กอายุไม่ถึง 4 เดือน
พ่อแม่ควรทำใจกับการตื่นกลางดึกบ่อย ๆ ไว้ได้เลย ฝึกลูกนอนยาวตอนกลางคืน ง่าย ๆ ด้วย 1.สอนให้ลูกแยกแยะกลางวันและกลางคืน เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกหลับตอนกลางวันมากเกินไป และตื่นมากลางดึกอีก พ่อแม่ควรสร้างสถานการณ์ให้ลูกเห็นอย่างชัดเจนว่าช่วงเวลากลางวันนั้นจะมีแสงสว่าง มีเสียงดัง และความวุ่นวาย แม้แต่ตอนลูกตื่นอยู่หรือหลับอยู่ก็ตาม และพอตกกลางคืนพ่อแม่ก็ทำให้กลางคืนนั้นเงียบ สงบ เพื่อให้ลูกน้อยแยกแยะกลางวันกลางคืนและปรับตัวได้เองในที่สุด หากลูกงอแงพ่อแม่อาจอุ้มขึ้นมาปลอบเพื่อให้ลูกรู้สึกปลอดภัยได้ 2.สร้างบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสม คุณพ่อคุณแม่ต้องสร้างบรรยากาศในห้องนอนให้เพรียบพร้อม ทั้งการเปิดไฟสลัว ๆ เพื่อป้องกันเวลาลูกงอแงแล้วจะได้ไม่ต้องเปิดไฟสว่างทั่วบ้าน หรือการลดเสียงรบกวนของแอร์ ก็ควรเลือกให้ดี อีกทั้งเสื้อผ้าที่ใส่ต้องสบายลูกใส่แล้วอึดอัด ไม่มีอะไรไปรบกวนและขัดขวางการนอนของเขา พร้อมทั้งเปิดเพลงกล่อมลูกไปช้า ๆ พัฒนาคลื่นสมองของลูกไปในตัว 3.กินอาหารให้อิ่มท้องเพื่อการนอนที่ยาวนาน ลองให้ลูกกินนมสักนิดก่อนนอน ไม่ว่าลูกจะตื่นอยู่หรือหลับไปแล้ว…
ของใช้เด็ก สิ่งที่พ่อแม่ควรเช็คทุกครั้งก่อนใช้
คือ อายุการใช้งาน เพราะความปลอดภัยของลูกน้อยต้องมาเป็นอันดับแรก
หากเผลอใช้ของหมดอายุไปแล้วหล่ะก็ นอกจากคุณภาพจะเสื่อมแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อลูก
บางชนิดอาจทำให้ต้องไปพบแพทย์กันเลยทีเดียว จะมีของจำเป็นอะไรบ้างที่พ่อแม่ต้องจดวันเวลาเดือนปีในการใช้งาน
รีบดูเลย 1.นมแม่ / นมชง มีอายุการใช้งาน 1- 4 ชั่วโมง หากเป็นนมแม่ที่ปั้มไว้ในอุณหภูมิปกติจะสามารถอยู่ได้ 1 ชั่วโมง และถ้าแช่ตู้เย็นจะอยู่ได้นานถึง 4 ชั่วโมง ส่วนนมชงสามารถเก็บทิ้งไว้ 4 ชั่วโมง (ถ้ายังไม่มีใครกิน) แต่ถ้าหากลูกกินแล้วและไม่กินต่อ ควรทิ้งทันทีหลังจากพ้น 1 ชั่วโมง 2.นมผง มีอายุ 1 เดือน (หลังเปิดใช้งานแล้ว) ข้อควรระวังในการเก็บนมผง คือ ความชื้น และน้ำ หากเก็บไม่มิดชิดในที่อับแสงอาจเป็นการลดคุณภาพของนมผงลดได้ด้วย และถ้ามีสีเปลี่ยนไปในทางเหลืองเข้ม รวมไปถึงมีกลิ่นแรง พ่อแม่ควรทิ้งได้แล้ว แถมถ้าเป็นนมผงที่ยังไม่ได้แล้วยังไม่มีอายุแน่ชัดว่าอยู่ได้กี่ปี บางทีก็บอก 18 เดือน หรือปีครึ่ง บางทีก็บอก 10 ปี ทางที่ดีพ่อแม่ควรเช็คก่อนชงให้ลูกดื่มทุกครั้ง 3.อาหารเสริม มีอายุ 2 วัน…