เมื่อไม่กี่วันมานี้ ข่าวพ่อของเด็กที่ถูกวัยรุ่น 5 คนรุมโทรมระงับอารมณ์ไม่อยู่ทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุ เนื่องจากญาติผู้ก่อเหตุที่อ้างตัวว่าเป็นอบต.พยายามจ่ายเงินโดยไม่ต้องแจ้งความ ยังมีมีตำรวจช่วยไกล่เกลี่ยเพื่อให้เรื่องจบ สร้างความโกรธแค้นให้กับคนในสังคม และรู้สึกสะใจเมื่อผู้ทำผิดโดนพ่อเหยื่อทำร้ายเอาคืนบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกครั้งที่มีข่าวคราวเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกข่มขืน สะเทือนความรู้สึกคนเป็นพ่อเป็นแม่และทุกคนในสังคม มีคำถามว่าเมื่อไหร่ปัญหานี้จะหมดไป แล้วเราจะปกป้องเด็ก ๆ ของเราอย่างไร ไทยติดอันดับ 10 โลกคดีข่มขืน ไทยติดอันดับ 10 ของโลกจากการคำนวณจำนวนคดี แต่ถ้าคำนวณจากอัตราเฉลี่ยคดีต่อประชากรหญิงจะติดอันดับ 29 ของโลก รายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติล่าสุด สถิติคดีข่มขืนในไทย พ.ศ. 2552-2556 เฉลี่ยปีละ 4,000 คดี ซึ่งหมายความว่ามีเหตุเกิดขึ้นทุก 2 ชั่วโมง ตำรวจจับได้ปีละ 2,400 คดี แต่ข้อมูลจากศูนย์พัฒนาข้อมูลกระบวนการยุติธรรมสำนักงานกิจการยุติธรรมรายงานว่าคดีข่มขืนเกิดขึ้นจริงมากกว่า 30,000 ดีต่อปี เท่ากับว่าเกิดขึ้นทุก ๆ 15 นาที คดีข่มขืนที่ไม่ได้แจ้งความมีถึง 87% สถิติเรื่องราวร้องทุกข์ข่มขืนอนาจารผ่านมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ปี 2558 มี 658 ราย …
เด็กแรกเกิดถึง 3 ขวบ
สถานการณ์ของหมอกควันฝุ่นพิษ PM 2.5 ดีขึ้นเป็นพัก ๆ แต่ก็ยังไม่หมดสิ้นไปซักที เดี๋ยวมีรายงานว่าจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ประกันมีฝุ่นหนาตึ้บเด็กเล็ก โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ โรคเยื่อบุตาอักเสบ โรคผิวหนัง ยิ่งน่าเป็นห่วงเพราะมีโอกาสได้รับอันตรายจากฝุ่นพิษได้มากที่สุด การให้ลูกสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ไม่ออกไปอยู่กลางแจ้งในวันที่มีฝุ่นหนาแน่น การใช้เครื่องกรองอากาศ และปิดประตูหน้าต่างบ้านเป็นวิธีป้องกันเด็ก ๆ จากฝุ่นพิษที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนทำได้ แต่หมดที่ว่ามานี้เป็นการป้องกันจากภายนอกค่ะ การดูแลสุขภาพลูกให้แข็งแรงก็เป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างเกราะป้องกันอันแข็งแกร่งเพื่อต่อสู้กับฝุ่นพิษในอากาศ คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลร่างกายของร่างกายของลูกให้แข็งแรงอย่างไรได้บ้างมาฟังกันค่ะ 1.กินอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน นอกจากการให้ลูกกินอาหารครบทั้ง 5 หมู่แล้ว เลือกอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารเหล่านี้ วิตามินซี : ผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น บร็อคโคลี คะน้า ปวยเล้ง ฝรั่ง ลิ้นจี่ สตรอว์เบอร์รี ส้ม กีวี มะละกอสุก ฯลฯ วิตามินอี : อาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น ผักโขม เมล็ดทานตะวัน น้ำมันคาโนล่า มะเขือเทศ มะม่วง…
การดูแลลูกแรกเกิดมีเรื่องให้ทำหลายอย่างจนคุณแม่ยุ่งไปทั้งวันทั้งคืน จากเคยนอนยาว 8 ชั่วโมงรวดอาจต้องตื่นมาทุก 2 ชั่วโมงเพื่อให้นมลูก ถ้าไม่มีผู้ช่วยคุณแม่ต้องดูแลจัดการทุกเรื่องเกี่ยวกับลูกอยู่คนเดียว ทั้งให้นม อาบน้ำ ป้อนข้าว ล้างขวดนม ซักผ้า ตากผ้า เตรียมอาหาร ฯลฯ พอวิ่งไปทำอย่างนึงลูกร้องก็ต้องวิ่งกลับมาดูแล ตื่นขึ้นมาไม่เห็นแม่คุณลูกยิ่งร้องบ่อย หัวหมุนเลยใช่มั้ยคะ ขอแนะนำวิธีลดความยุ่งยากให้คุณแม่มือใหม่มีเวลาดูแลลูกอย่างใกล้ชิดเวลาเขาตื่นเพิ่มขึ้นค่ะ 1.ย้ายออฟฟิศมานั่งทำงาน อย่างงานเอกสาร คิดบัญชีรายรับรายจ่าย ใกล้ ๆ ลูก 2.ทำงานบ้านบางอย่างใกล้กับลูก อาจจะนั่งพับผ้า เตรียมอาหารที่ไม่มีกลิ่นแรง เช่น หั่นผักหรือปอกเปลือกผักผลไม้ในห้องเดียวกับลูก แทนที่จะเข้าไปทำครัวเป็นเวลานาน ๆ 3.จัดวางของใช้ไว้เป็นเซ็ทเก็บให้อยู่ใกล้ ๆ กัน จะหยิบใช้อะไรไม่ต้องเดินไปมาหลายที่ เช่น เซ็ทเสื้อผ้าและอุปกรณ์อาบน้ำลูก เช็ทอาหารลูกอย่างขวดนมหรือจานชามลูก 4.ถ้าทำอาหารเองอาจเตรียมหั่นวัตถุดิบที่หั่นเก็บไว้ได้อย่างเนื้อสัตว์แยกใส่กล่องเข้าช่องแข็งในตู้เย็นไว้ หรือทำน้ำซุปใส่กล่องแยกเก็บไว้สำหรับใช้ในแต่ละครั้ง 5.จดรายการฝากคุณพ่อไปชอปปิง หรือฝากจ่ายค่าบัตรเครดิต ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ ไม่ต้องไปเอง แบบไหนเรียกว่าเวลาคุณภาพ ถ้าอยู่ใกล้…
คุณแม่ทราบไหมคะว่าตั้งแต่แรกคลอดสมองของลูกน้อยก็พร้อมรู้ทุกสิ่งรอบตัวเขาแล้วค่ะ อย่างที่คุณแม่เคยได้ยินบ่อย ๆ ค่ะว่าการเลี้ยงดูลูกให้เติบโตมาเป็นเด็กฉลาดเริ่มได้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ แรกคลอดก็แช่นกัน ให้ลูกเรียนรู้อย่างเหมาะสมตามวัย เติมประสบการณ์ดี ๆ ให้กับลูก ซึ่งการเรียนรู้ของเด็กจะพัฒนาไปได้ไม่ดีถ้าขาดความรักความอบอุ่นจากคุณแม่ค่ะ อ้อมกอดอันอบอุ่น สัมผัสรักระหว่างคุณแม่กับลูกส่งผลต่อความเฉลียวฉลาดของลูกได้อย่างไร เส้นใยประสาทภายในสมองของลูกจะมีการแตกแขนงเป็นจำนวนมาก การส่งผ่านข้อมูลความรู้ทำได้รวดเร็วขึ้น การเรียนรู้จึงง่ายขึ้นค่ะ คำพูดการโอบกอดสัมผัสด้วยความรักความอ่อนโยน ลูกรับรู้ได้นะคะ พอเขารับรู้สิ่งนี้เขาจะรู้มั่นคงปลอดภัยและมีความสุข เมื่อมีความสุขสมองก็สามารถเรียนรู้ได้ดี ในอ้อมกอดคุณแม่นี้แหละที่จะทำให้ลูกวัยทารกเติบโตเป็นเด็กฉลาดค่ะ
การเยี่ยมคุณแม่คนใหม่และทารกแรกเกิด ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องง่าย ก่อนไปเยี่ยมควรทราบสักนิดว่าต้องใส่ใจในเรื่องใดบ้าง นอกจากเป็นมารยาทอันดีงามแล้วควรป้องกันการนำเชื้อโรคไปสู่ทารกด้วยค่ะ 1.ดูความพร้อมคุณแม่ แม่หลังคลอดมักจะอ่อนเพลีย และยุ่งอยู่กับการเลี้ยงเบบี๋ คุณแม่บางคนจนตาเป็นแพนด้า ก่อนไปเยี่ยมควร ส่ง Message หรือโทรถามแม่ก่อนหรือว่าพร้อมให้ไปเยี่ยมหรือเปล่า นัดวันและเวลา เพราะแม่อาจกำลังให้นมลูก หรืองีบหลับอยู่ โอกาสพักผ่อนมีน้อยพยายามอย่ากวนแม่ ถ้าแม่บ่นว่าอยากเม้าใจจะขาด อย่ารอช้ารีบไปให้กำลังใจแม่ค่ะ 2.อย่านำเชื้อโรคไปฝาก เชื้อโรคธรรมดา ๆ อาจเป็นอันตรายต่อทารกและคลอดเพราะภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรง ถ้าป่วยให้หายก่อนค่อยไปเยี่ยม ไม่ป่วย แต่คนรอบข้างป่วย อย่าเพิ่งไปเยี่ยม เลี่ยงการพาเด็กไปเยี่ยมทารกช่วงแรกคลอด เมื่อไปถึงขอล้างมือฟอกสบู่ก่อน 3.ห้ามหอมทารก การหอมหรือจูบทารก อาจเกิดอันตรายได้ เชื้อโรคธรรมดาที่เกิดกับผู้ใหญ่หรือเด็กทั่วไปเป็นแล้วหายง่ายไม่รุนแรง แต่เมื่อทารกรับเชื้อโรคอาจก่อให้เกิดการติดเชื้อรุนแรง ทารกมีอาการป่วยหนักหรือแม้กระทั่งเสียชีวิตได้ มีรายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นระยะจากหลายประเทศทั่วโลกรวมทั้งบ้านเราด้วย 4.อย่าทำให้แม่เครียด คุณแม่บางคนมีอาการซึมเศร้าหลังคลอด บางคำพูดกอาจทำให้แม่จิตตก ละเอียดอ่อนซักนิดค่ะ ถามถึงสุขภาพแม่ลูกพอสมควร ชวนคุยเรื่องดี ๆ เลี่ยงหัวข้อชวนเครียด เช่น รูปร่างแม่…
น้ำมีคุณประโยชน์หลากหลายรวมทั้งการบำบัดรักษาค่ะ เรามาดูกันว่าในแนวทางของธรรมชาติบำบัดนั้นใช้น้ำเป็นตัวช่วยคุณแม่และลูกอย่างไรกันบ้าง แม่ท้องและหลังคลอด การออกกำลังกายในน้ำช่วยให้จิตใจสดชื่น ลดความวิตกกังวล และอาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว เช่น เหนื่อยง่าย แน่นอึดอัด นอนหลับไม่ค่อยสนิท เท้าบวม ปวดหลัง เป็นตะคริว น้ำจะช่วยพยุงน้ำหนักตัวลดแรงกดของข้อต่อ ช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรง คลอดง่ายขึ้น และยังช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังคลอดให้กลับสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้น เด็กและทารก เด็กทุกวัยสามารถออกกำลังกายในน้ำได้ การเคลื่อนไหวในน้ำได้อย่างอิสระเด็กจะรู้สึกผ่อนคลาย สบาย เด็กทารกจะรู้สึกคุ้นเคยเพราะสภาพคล้ายอยู่ในท้องแม่ การออกกำลังกายในน้ำยังช่วยเพิ่มพัฒนาการของสมอง ระบบหายใจ ระบบย่อย ช่วยขับลม และยังช่วยเสริมทักษะการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อเพราะเวลาเดินในน้ำจะต้องออกแรงมากกว่าปกติถึง 5 เท่า เด็กพิเศษ เด็กที่มีพัฒนาการช้า เด็กกลุ่มอาการดาวน์ซินโดม ธาราบำบัดจะช่วยเพิ่มพัฒนาการและสติปัญญาของเด็กได้เป็นอย่างดี ส่วนเด็กที่มีปัญหาเกี่ยวกับกล้ามเนื้อ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและเพิ่มประสิทธิภาพการเคลื่อนไหว ลดอาการเกร็งของแขนและขาได้ การออกกำลังกายในน้ำเด็กสามารถเคลื่อนไหวข้อพร้อม ๆ กันได้หลายทิศทาง ช่วยให้เด็กรู้สึกมั่นใจ การผ่อนคลาย และสร้างความภูมิใจให้แก่ผู้ป่วยเด็กที่สามารถขยับตัวโดยไม่ต้องพึ่งพาใคร มีกำลังใจในการพัฒนาความสามารถให้ดีขึ้น ข้อควรรู้ก่อนการออกกำลังกายในน้ำ ควรอบอุ่นร่างกายประมาณ 5-10 นาทีร่วมกับการยืดเหยียดกล้ามเนื้อก่อนลงน้ำเสมอ ควรใช้เวลาในการออกกำลังกายต่อเนื่องประมาณ 20-30 นาที โดยอาจเริ่มจากการเดินในน้ำตื้น เมื่อชำนาญแล้วจึงออกกำลังกายในน้ำลึกโดยใช้อุปกรณ์พยุงตัวและวิ่งในน้ำลึกได้ ควรออกกำลังกายต่อเนื่องให้ได้เวลารวมมากกว่า 150 นาทีต่อสัปดาห์…
ควันบุหรี่มือสองที่ผู้สูบสร้างพิษภัยในอากาศ และทำร้ายผู้สูดดมที่อยู่ใกล้ไปด้วยโดยเฉพาะลูกวัยเบบี๋และแม่ท้อง เมื่อได้รับสารพิษจากควันบุหรี่มือสองนาน ๆ จะทำให้เกิดโรคต่างๆ ง่ายขึ้น พบว่าผู้ไม่สูบบุหรี่หลายแสนคนต้องเสียชีวิต เนื่องจากได้รับควันบุหรี่มือสอง แม่ท้อง หากได้รับควันบุหรี่มือสองก็จะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนในขณะตั้งครรภ์และการคลอดได้สูง อาจเกิดครรภ์เป็นพิษ แท้ง คลอดก่อนกำหนด เด็กที่เกิดมาก็จะมีความเสี่ยง มีน้ำหนักตัวน้อย ตัวเล็ก มีความยาวน้อยกว่าเด็กปกติ พัฒนาการทางสมองล่าช้า อาจมีความผิดปกติทางระบบประสาท ความจำ เป็นต้น เด็กเล็ก อาจป่วยด้วยโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น หลอดลมอักเสบ ปอดบวม และมีอัตราการเป็นโรคหืดเพิ่มขึ้น เกิดการติดเชื้อของหูส่วนกลาง และในระยะยาวก็จะมีพัฒนาการของปอดน้อยกว่าเด็กที่ไม่ด้รับควันบุหรี่ ป้องกันแม่ท้องและลูกน้อยจากควันบุหรี่มือสอง อยู่ให้ห่างหรือเดินเลี่ยงไปไม่อยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่ พยายามหลีกเลี่ยงการเข้าไปในสถานที่ที่มีคนสูบบุหรี่ บอกคนที่บ้านหรือคนที่สูบบุหรี่ใกล้ตัวให้เลิกสูบบุหรี่ พยายามทำให้บ้าน รถยนต์ส่วนตัว และที่ทำงานปลอดบุหรี่ ดูว่าสถานที่รับเลี้ยงเด็กที่นำลูกไปฝาก หรือโรงเรียนเป็นสถานที่ปลอดบุหรี่หรือไม่ ถ้าไม่ควรเปลี่ยนสถานที่ สอนให้ลูกอยู่ห่างจากควันบุหรี่มือสอง และไม่อยู่ใกล้ชิดกับคนสูบบุหรี่ ในระยะยาว คนที่ได้รับควันบุหรี่มือสองเป็นเวลานาน ๆ มีโอกาสเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็งคล้ายกับคนที่สูบบุหรี่เอง เด็ก แม่ท้อง และทุกคนจึงควรหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ค่ะ ข้อมูลอ้างอิง…
ผิวเบบี๋ทั้งอ่อนบางและมีโอกาสแพ้ง่าย คุณแม่จึงต้องทะนุถนอมผิวของลูกน้อยในวัยนี้เป็นพิเศษโดยเฉพาะเบบี๋ในช่วงแรกเกิดปัญหาผิวที่มักกวนใจเป็นประจำก็คือผื่นผ้าอ้อมค่ะ เเมื่อมีผื่นผ้าอ้อมลูกน้อยอาจร้องโยเยเนื่องจากไม่สบายเนื้อสบายตัวสร้างความกังวลใจให้คุณแม่ปัญหานี้แก้ไข้ได้ไม่ยากค่ะเรามาทำความรู้จักกับสาเหตุกันก่อนสักนิด สาเหตุที่พบได้บ่อย 1.เกิดจากความเปียกชื้น ทั้งจากความชื้นเกิดจากการใส่ผ้าอ้อมในขณะที่ตัวยังไม่แห้งสนิท 2.การแช่อยู่ในผ้าอ้อมที่เปียกฉี่หรืออึนานเกินไป 3.การติดเชื้อแบคทีเรียหรือยีสต์อาจทำให้เกิดผื่นผ้าอ้อมได้ ทารกที่รับประทานยาปฏิชีวนะมักจะไวต่อการเกิดผื่นผ้าอ้อมจากเชื้อยีสต์ แนะนำ 5 วิธีปกป้องผิวอันบอบบางของลูกจากผื่นผ้าอ้อม 1.หมั่นดูผ้าอ้อมลูกบ่อย ๆ ดูว่าเปียกชื้น ลูกอึฉี่หรือยัง อย่าปล่อยให้นอนแช่ผ้าอ้อมเปื้อนอยู่นาน ๆ ให้รีบเปลี่ยน 2.ล้างทำความสะอาดผิวลูกบริเวณที่อยู่ในผ้าอ้อมไม่จำเป็นต้องใช้สบู่ทุกครั้งอาจใช้น้ำเปล่าบ้าง หรือใช้สบู่เด็กที่อ่อนโยนต่อผิวเด็ก ปราศจากน้ำหอมหรือสารเคมีที่ก่อให้เกิดความระคายเคือง อาจเลือกผลิตภัณฑ์ประเภทออแกนิกเพื่อความปลอดภัยต่อลูกกน้อย 3.ใช้ผ้าสะอาดนุ่ม ๆ เช็ดผิวลูกอย่างอ่อนโยน เลี่ยงการใช้ทิชชู่เปียกที่ผสมน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์เพื่อป้องกันการระคายเคือง 4.ปล่อยให้บริเวณผ้าอ้อมแห้งสนิทก่อนใส่ผ้าอ้อม 5.ทาปิโตรเลียมเจลลี่ หรือครีมป้องกันผื่นผ้าอ้อมก่อนให้ลูกใส่ผ้าอ้อม หากผื่นยังไม่หายไปภายใน 2-3 วัน หรือเป็นผื่นแดงมากขึ้นควรพาไปพบคุณหมอเพราะอาจติดเชื้อแบคทีเรียหรือยีสต์ค่ะ
ทุกวันนี้แดดแรงทุกฤดู หรือในช่วงวันฟ้าครึ้มแดดไม่แรงจัดก็ตามแต่รังสียูวีก็ยังสามารถทำร้ายผิวได้ แม่ ๆ มักจะทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้านเพื่อปกป้องผิวสวย แต่ทราบไหมคะว่าเด็ก ๆ ก็ต้องการการปกป้องผิวเช่นกัน เพราะหากไม่ปกป้องผิวลูกจากอันตรายของรังสียูวี ผิวของลูกอาจมีโอกาสถูกทำร้าย โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับแสงแดดแรงกล้ายามเที่ยงวันมีโอกาสที่ผิวจะแสบแดงและร้อนได้ 6 เดือนขึ้นไป Dr. Lawrence Gibson แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังเมือง Rochester รัฐ Minnesota ประเทศสหรัฐฯ เขียนบทความหนึ่งลงเว็บไซต์ Mayoclinic.org ว่า เด็กวัยตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไปจึงจะสามารถใช้ครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว คุณแม่จำเป็นต้องอ่านฉลากบนครีมกันแดดด้วยค่ะ เนื่องจากบางแบรนด์อาจมีคำแนะนำในการใช้ว่าเหมาะกับเด็กในวัยต่างกันไป เช่น 6 เดือน หรือ 12 เดือน เป็นต้น วิธีเลือกครีมกันแดดให้ลูกน้อย การเลือกครีมกันแดด (Sunscreen) สำหรับลูกน้อยวัย 6 เดือนขึ้นไป จำเป็นต้องมีความละเอียดอ่อนสักนิด เนื่องจากผิวเด็กยังอ่อนบางกว่าผู้ใหญ่ แนะนำวิธีเลือกดังนี้ค่ะ 1.มี SPF อย่างน้อยตั้งแต่ 30 ขึ้นไป 2.ปราศจากน้ำหอม สี แอลกอฮอล์ และสารเคมีต่าง ๆ 3.ผ่านการทดสอบค่า SPF…
เมื่อต้องออกไปสัมผัสกับแสงแดด แม่ ๆ หรือเด็กโตเมื่อออกนอกบ้านสามารถทาครีมกันแดดปกป้องผิวจากการทำลายของรังสียูวี แต่สำหรับทารกก่อนวัย 6 เดือนแล้ว ผิวหนังยังอ่อนบางและมีโอกาสแพ้ได้ง่าย จึงยังไม่เหมาะกับการทาครีมกันแดด (Sunscreen) เพื่อปกป้องผิว แต่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ ถึงแม้ทารกน้อยจะยังใช้ครีมกันแดดไม่ได้ เรายังมีวิธีอื่นในการดูแลปกป้องผิวลูกน้อย โดยการเลี่ยงพาลูกออกไปสัมผัสกับแสงแดดจัดนอกบ้านในช่วง 9 โมงเช้าถึงบ่าย 3 โมงซึ่งเป็นช่วงแดดจัด หรือดูว่าก่อนและหลังเวลาดังกล่าวแดดยังแรงอยู่ก็ควรเลี่ยงเช่นกัน กางร่ม ใส่เสื้อผ้าปกปิดผิวลูกไม่ให้โดนแสงแดดโดยตรง หรือสวมหมวกให้ลูกจะได้ไม่ต้องสัมผัสกับรังสียูวีโดยตรง คุณแม่ควรดูสักนิดว่าการสวมเสื้อผ้าหรือหมวกเพื่อป้องกันแสงแดดนั้นจะทำให้ลูกร้อนอบอ้าวเกินไปหรือไม่นะคะ