คุณแม่คนใหม่มีความตั้งใจเต็มที่ว่าจะให้ลูกกินนมแม่ แต่เอ๊ะ ทำไมพยายามตั้งหลายวิธีแล้วนำนมยังออกมานิดเดียว มาดูกันว่าเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้หรือเปล่า จะได้แก้ไขให้ตรงจุดค่ะ 1.แม่เครียด แก้ไข - พยายามผ่อนคลายร่างกายและจิตใจขณะให้นมลูกหรือปั๊มนม โดยหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ หรือนึกถึงเรื่องราวที่เป็นสุข ฟังเพลงสบาย ๆ ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ 2.ให้ลูกดูดกระตุ้นหลังคลอดช้าเกินไป แก้ไข - พยายามให้นมลูกบ่อยขึ้นและนานขึ้น ไม่ควรน้อยกว่า 8 ครั้งต่อวัน 3.ลูกดูดผิดวิธีอาจงับหัวนมไม่ลึกพอ แก้ไข -ให้ลูกอมหัวนมและลานนมได้ลึกพอ โดยคุณแม่ขยับให้ลูกแนบตัวมากขึ้น ให้ลูกอ้าปากกว้างก่อนจับเข้าเต้า คางลูกชิดเต้านมแม่ ท้องแม่แนบท้องลูก 4.ลูกได้ดูดนมแม่ไม่บ่อยพออาจเป็นเพราะคุณแม่ทำงานนอกบ้าน ปั๊มนมน้อยเกินไป หรือทิ้งระยะห่างนานเกิน 3 - 4 ชั่วโมง แก้ไข - ควรปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมง และกระตุ้นเต้านมโดยใช้ผ้าอุ่นจัดประคบเต้านม 3 - 5 นาทีก่อนให้นม นวดเต้านมและคลึงหัวนมเบา ๆ 5.พักผ่อนน้อยและกินอาหารน้อย …
คุณแม่มือใหม่
การซื้อของใช้สำหรับเด็กอ่อนควรซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วงตั้งครรภ์เดือนที่ 5-7 เป็นเวลาที่เหมาะเพราะเลิกแพ้ท้องแล้วช่วงนี้ท้องยังไม่โตมากเดินทางสะดวก ไม่เหนื่อยง่าย มาดูกันค่ะว่ารายการของใช้ลูกมีอะไรบ้าง ของใช้ทั่วไป แพมเพิร์ส ทิชชู่ ทิชชู่เปียก สำลีก้อนกลม กล่องเก็บสำลีชุบน้ำอุ่น …
คุณแม่มือใหม่อาจกังวลว่าจะมีน้ำนมไม่เพียงพอให้ลูก น้ำนมคุณแม่มาน้อยทำยังไงถึงจะน้ำนมมากมาก อย่ากังวลใจไปค่ะมีเคล็ดลับดี ๆ มาฝาก 1.ให้ลูกดูดนมบ่อย ๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง 2.การปั๊มนมแม่ก็จะเป็นอีกทางในการช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนม 3.ดื่มน้ำให้พอเพียงในแต่ละวัน ในปริมาณปกติก็พอค่ะไม่ต้องมากหลาย ๆ ลิตร ให้สังเกตดูปัสสาวะถ้าเป็นสีเหลืองเข้มแสดงว่าขาดน้ำ 4.คุณแม่อาจดื่มน้ำขิง น้ำหัวปลีเดี๋ยวนี้มีบรรจุขวดขาย กินแกงเลียง แกงจืดใบตำลึง แกงใบกระเพรา ฯลฯ 5.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ให้คุณพ่อช่วยดูแลลูกตอนกลางคืนคุณแม่จะได้มีเวลาหลับยาวสักนิด 6.รับประทานอาหารให้ครบหมวดหมู่และปริมาณพอเพียง ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่คนใหม่ทุกท่านค่ะ
การทำสต๊อกน้ำนมแม่มีประโยชน์กับคุณแม่สายออฟฟิศ และบางครั้งก็จำเป็นสำหรับคุณแม่เลี้ยงลูกเต็มตัวค่ะ เนื่องจากคุณแม่อาจจำเป็นต้องออกไปธุระข้างนอกหลายชั่วโมงหรือต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ก็จะมั่นใจได้ว่าลูกได้กินนมแม่ทุกมื้อ มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการจัดเก็บสต๊อกน้ำนมมาฝากคุณแม่ 5 ข้อค่ะ 1.คุณแม่สามารถเริ่มเก็บน้ำนมได้ตั้งแต่วันแรก ๆ หลังคลอด ช่วงนี้ลูกนอนมากกว่าตื่นมาดูดนมการปั๊มจะช่วยกระตุ้นน้ำนม 2.สำหรับตู้เย็นแยกประตูช่องแข็ง แช่ถุงเก็บน้ำนมไว้ภายในช่องแช่แข็งจะรักษาความเย็นได้ดีกว่าเก็บไว้ตรงประตูตู้ค่ะ 3.วิธีละลายน้ำนมแช่แข็งมาใช้ คือย้ายมาแช่ช่องธรรมดาให้ละลาย แช่ในภาชนะใส่น้ำอุณหภูมิห้อง หรือเปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านแล้วแช่ไว้ในภาชนะ แล้วเช็ดถุงให้สะอาดก่อนเปิดใช้ 4.ห้ามอุ่นโดยไมโครเวฟหรืออุ่นบนเตาโดยตรงเพราะจะทำลายคุณค่าสารอาหารในน้ำนม 5.นมที่นำออกมาละลายแล้วห้ามนำกลับไปแช่ช่องแข็งใหม่ ใช้สำหรับมือถัดไปก็พอ ถ้าเหลือทิ้งไปอย่าเสียดายค่ะ ทราบเคล็ดลับดี ๆ อย่างนี้แล้วคุณแม่สบายใจได้เลยค่ะว่าลูกไม่ขาดนมแม่แน่นอน
คุณแม่ทราบมั้ยคะว่าเหตุใดแกงเลียงจึงจัดว่าเป็นเมนูเด็ดสำหรับคุณแม่คนใหม่ นั่นก็เพราะในแกงเลียงอุดมไปด้วยพืชผักสมุนไพรนานาชนิดที่มีช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ พืชผักสมุนไพรเหล่านี้นอกจากช่วยเพิ่มน้ำนมแม่แล้วยังมีคุณค่าทางอาหารสูงอีกด้วย 1.หัวปลี ช่วยดูแลกระดูกและฟัน ดูแลกระเพาะอาหาร อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอและซี ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อกเต่งตึงไม่หย่อนคล้อย 2.ฟักทอง อุดมด้วยวิตามินเอ ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน เส้นใยอาหาร ดีต่อระบบขับถ่าย บำรุงผิว บำรุงสายตา ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 3.ใบตำลึง มีเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ฯลฯ ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง บำรุงกระดูกและฟัน บำรุงเลือด บำรุงน้ำนมแม่ ลดไข้ 4.ใบแมงลัก ช่วยขับลม ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เป็นยาระบาย ลดอาการวิงเวียนศีรษะ 5.น้ำเต้า ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือด แก้อาการไอ ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ลดอาการปัสสาวะอักเสบ 6.บวบหอม บวบหอมคนละอย่างกับบวบเหลี่ยมนะคะ เหมือนมะเขือยาวลายทางสีเขียวผิวด้าน ๆ…
หัวปลีเป็นอาหารอย่างแรกที่คุณแม่นึกออกเมื่อต้องการเพิ่มน้ำนมลูกใช่มั้ยคะ ความจริงแล้วยังมีอาหารอีกหลายชนิดช่วยเพิ่มน้ำนมแม่ได้ มาดูกันเลยค่ะว่า Super Food เพิ่มน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง และนอกจากจะคุณสมบัติในการเพิ่มน้ำนมแม่แล้วยังมีคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ก่อนอื่นขอเล่าถึงหัวปลีซักนิดเพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารชั้นเลิศ 1.หัวปลี ช่วยให้ฟันให้สะอาดแข็งแรง ดูแลกระเพาะอาหาร อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอและซี ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยการไหลเวียนของเลือด ดูแลผิวพรรณอกเต่งตึงไม่หย่อนคล้อย 2.ขิง สมุนไพรฤทธิ์ร้อน ช่วยให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ บรรเทาหวัด สมานแผล ทำให้ร่างกายอบอุ่น 3.ใบกะเพรา มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ช่วยย่อย แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยป้องกันหวัด แก้อาการอาเจียน ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร 4.ฟักทอง อุดมด้วยวิตามินเอ ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน เส้นใยอาหาร ดีต่อระบบขับถ่าย บำรุงผิว บำรุงสายตา ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 5.กุยช่าย มีฟอสฟอรัสสูง ช่วยบำรุงกระดูก บรรเทาอาการฟกช้ำ อาการปัสสาวะกะปริบกะปรอย ทั้งต้นและใบช่วยบำรุงน้ำนม 6.อินทผลัม ช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า ช่วยเพิ่มสารอาหารสำคัญในน้ำนม ช่วยย่อย…
แนะนำวิธีการเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมสำหรับคุณแม่สายตุน จะลือกแบบไหนและต้องดูอะไรบ้างก่อนตัดสินใจมีคำแนะนำดี ๆ มาฝากค่ะ แบบใช้มือปั๊ม ข้อดี - ราคาไม่แพง คุณแม่ที่คิดแล้วว่าน่าจะไม่ได้ใช้บ่อยแบบปั๊มมือก็เป็นตัวเลือกที่ดี ข้อด้อย - ต้องใช้มือช่วยบีบ กว่าจะได้น้ำนมในปริมาณพอเพียง อาจทำให้คุณแม่เหนื่อยและท้อกับการปั๊มได้ง่าย ไม่เหมาะกับคุณแม่ลูกแฝดที่ต้องการน้ำนมมากเป็น 2 เท่า แบบไฟฟ้า ข้อดี – สะดวกสบายกว่า ไม่ต้องเหนื่อยปั๊มเอง มีให้เลือกหลายรุ่น ต้องดูว่าแบบไหนเหมาะกับการใช้งานขนาดใหญ่เหมาะกับใช้ที่บ้านไม่สะดวกต่อการพกพารุ่นสองหัวปั๊มสะดวกรวดเร็วกว่าหัวเดียว และกระตุ้นการหลั่งของฮอร์โมนโปรแลกตินได้มากกว่า แต่แพงกว่ารุ่นหัวเดียว ข้อด้อย - ราคาค่อนข้างสูง 12 ข้อแนะนำการเลือกเครื่องปั๊มนม ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก ทำความสะอาดง่าย ส่วนประกอบไม่มากจนเกินไป แต่ละส่วนถอดล้างและประกอบกลับได้ง่าย มีโหมดให้เลือกหลากหลาย เวิร์กกิ้งมัมควรเลือกชนิดพกพาสะดวกน้ำหนักเบา ควรมีอะไหล่เปลี่ยน ในกรณีชำรุดจะได้ไม่ต้องซื้อใหม่ทั้งชุด ดูว่าใช้ได้ทั้งไฟฟ้าและแบตเตอรี่หรือต้องใช้ไฟฟ้าเท่านั้น เสียงดังหรือไม่เวลาใช้งาน ควรมีแรงดูดอย่างน้อย 200 มม.ปรอท จังหวะในการดูดอย่างน้อย 40-60 รอบต่อนาที จึงจะใกล้เคียงการดูดของทารก ถ้าประเมินดูว่าใช้น้อยอาจซื้อรุ่นเล็กหรือแบบปั๊มมือ…
คุณแม่อาจเป็นกังวลว่าหน้าอกจะหย่อนคล้อยหลังคลอด เพราะน้ำหนักที่ลดลงก็จะรวมเอาขนาดหน้าอกให้ลดลงมาเท่ากับขนาดเดิมเท่ากับก่อนคลอดด้วย ส่วนการให้นมลูกไม่ได้ทำให้หน้าอกหย่อนคล้อยนะคะสำหรับการดูแลให้อกคุณแม่ยกกระชับเป๊ะเรามี 5 เคล็ดลับดี ๆ มาบอกต่อค่ะ 1.บริหารกล้ามเนื้อรอบเต้านม อยู่ว่าง ๆ ทำได้เลยค่ะ โดยประกบฝ่ามือทั้ง 2 ข้างเข้าหากันคล้ายกับท่าพนมมือ แต่เหยียดข้อศอกทั้ง 2 ข้างออกให้สุดเท่าที่จะทำได้ นับ 1 - 5 แล้วผ่อนคลาย ทำซ้ำ 5 ครั้ง 2.โยคะท่าธนู ท่างูเห่า และท่าหน้าวัว เป็นท่าที่ได้บริหารกล้ามเนื้อหน้าอกรวมทั้งผ่อนคลายความตึงเครียดได้ดี คุณแม่เลือกท่าที่สามารถทำได้ อย่าฝืนค่ะเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ 3.การว่ายน้ำโดยเฉพาะท่าผีเสื้อและการกระโดดเชือก ช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าอกแข็งแรง กระชับกล้ามเนื้อหน้าอกที่อยู่ด้านหลังของเต้านม 4.การหายใจเข้าออกอย่างถูกต้อง จะช่วยบริหารกล้ามเนื้ออกไม่ให้หย่อนยาน ขณะหายใจเข้าเต็มที่กล้ามเนื้อกะบังลมควรลดตัวลงไปในช่องท้อง ส่วนไหล่ควรยกขึ้น 5.งดอาหารรสเค็มจัด ช่วยลดการคั่งของน้ำในเต้านม ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการคัดเต้านม 6.กินผักและผลไม้สดให้มาก เพื่อรับวิตามินอย่างเพียงพอ โดยเฉพาะวิตามินบี 6 ที่ช่วยลดการคั่งของน้ำ และยังช่วยปรับฮอร์โมนเอสโตรเจนให้สมดุลอีกด้วย 7.ชุดชั้นในพอดีตัว ช่วยโอบอุ้มทรวงอกให้กระชับและป้องกันการหย่อนยานของเต้านมได้
การเข้าใจผิดในบางเรื่องอาจทำให้คุณแม่ไม่สามารถลดน้ำหนักได้ซักที แถมน้ำหนักยังอยู่ใกล้เคียงกับตอนท้องอีก น่าหนักใจใช่มั้ยคะความจริงแล้วแค่ปรับความเข้าใจให้ถูกต้องก็สามารถกลับมาหุ่นเป๊ะเหมือนเดิมได้แล้วค่ะ มาดูข้อเท็จจริง 4 ข้อกันค่ะ 1.ลดน้ำหนักไม่ใช่แค่ลดอาหาร การลดน้ำหนักไม่ใช่การลดจำนวนอาหารที่กินเข้าไป ปริมาณสำคัญแล้วต้องดูด้วยว่าลดอาหารพลังงานสูงหรือไขมันไปด้วยจึงจะได้ผล การรับประทานอาหารไขมันสูง หรืออาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น ขนม น้ำหวาน น้ำอัดลม กาแฟเย็น ฯลฯ เป็นอุปสรรคต่อหุ่นสวยของคุณแม่ 2.ผิวแย่เพราะกินแต่ผัก ผลไม้ ความเชื่อผิดๆ ที่ว่า การกินผัก ผลไม้ โดยไม่แตะแป้ง โปรตีน หรือไขมันแล้วจะช่วยให้ผอมลง ถ้ากินแบบนี้ไปนาน ๆ จะทำให้ร่างกายขาดโปรตีน ไขมัน และวิตามินที่อยู่ในโปรตีน ทำให้สุขภาพผิวไม่แข็งแรงแลดูไม่สดใส และอาจก่อให้เกิดโรคภูมิแพ้เพราะร่างกายขาดภูมิต้านทาน 3.น้ำหนักไม่ลงเพราะนอนไม่พอ เมื่อไม่ได้พักผ่อนนอนหลับในตอนกลางคืน ฮอร์โมนที่เร่งการเผาผลาญพลังงานจะทำงานได้ไม่เต็มที่ คุณแม่ที่ทำงานตอนกลางคืนหรือนอนหลับไม่เพียงพอ (6-8 ชั่วโมง) จึงมีปัญหาลดน้ำหนัก ควรจัดระเบียบการนอนใหม่เพื่อความงามค่ะ 4.ขจัดไขมันไม่ใช่แค่ออกกำลังกาย การออกกำลังกายอย่างหนักในเวลาสั้น ๆ ร่างกายจะดึงพลังงานจากไกลโคเจนที่อยู่ในกล้ามเนื้อและตับไปใช้ แทบไม่ได้ลดไขมันเลย อาจทำให้กล้ามเนื้ออักเสบด้วยซ้ำ การออกกำลังกายที่เหมาะที่สุดคือค่อยเป็นค่อยไปจะทำให้ร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพดี รูปร่างก็จะดีตามไปด้วย…
การลดน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยาก แค่มีคีย์เวิร์ดสำคัญนั่นก็คือ ”วินัย” ค่ะ เพื่อให้มีรูปร่างกลับมาเพรียวบางเหมือนก่อนคลอดเป็นจริง เรามีเทคนิคง่าย ๆ แต่ “ต้องทำ” มาฝาก 1.ต้องกินครบ 5 หมู่ กินให้หลากหลาย โดยเฉพาะอาหารมื้อเช้า มื้อสำคัญจะช่วยให้การเผาผลาญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยทำให้น้ำหนักคงที่ 2.ต้องกินอาหารครบ 3 มื้อ กินให้ตรงเวลา ระหว่างมื้อหากห่างกันมากเกิน 6 ชั่วโมง หาผลไม้หรือของว่างที่ดีต่อสุขภาพรองท้องด้วยนะคะ 3.ต้องจัดระบบเผาพลาญพลังงานใหม่ โดยดื่มน้ำเปล่าให้มาก เคี้ยวอาหารช้า ๆ เคี้ยวให้ละเอียด และออกกำลังกายเป็นประจำ เลือกการออกกำลังที่ง่ายและสะดวก เพื่อช่วยกระชับกล้ามเนื้อให้แข็งแรง 4.ต้องเลือกอาหารพลังงานต่ำ เพราะการที่น้ำหนักเพิ่มไม่ใช่ปริมาณอาหารเท่านั้น ต้องระวังพลังงานเกินค่ะ แป้งขัดขาวแป้งแปรรูป ไขมัน และอาหารรสหวานจัดนี่ละตัวดี อย่ากินเกิน เน้นผักและผลไม้รสหวานน้อยค่ะ 5.ต้องนอนหลับพักผ่อนให้พอ การนอนหลับพักผ่อนอย่างพอเพียงโดยเฉพาะในตอนกลางคืนจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ดี ไม่ยากใช่มั้ยคะ เริ่มทำตั้งแต่วันนี้เพื่อคืนหุ่นเป๊ะให้กลับมาดังใจ