คนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคนเป็นห่วงความปลอดภัยของลูกในทุกเรื่อง รวมทั้งขณะเดินทางโดยรถยนต์ด้วยใช่ไหมคะ คำถามก็คือ…เราปกป้องลูกให้ปลอดภัยจากอันตรายหากเกิดอุบัติเหตุแล้วหรือยัง หากไม่แน่ใจหรือคิดว่าลูกปลอดภัยในยามเดินทางเพียงพอแล้ว มาดูข้อเท็จจริง 6 ข้อนี้กันค่ะ
1.การที่ในรถไม่มีที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็กหรือคาร์ซีท หากเกิดอุบัติเหตุรถชน โอกาสเกิดอันตรายจะมีสูง ทั้งจากตัวเด็กกระแทกกับตัวรถหรือกระเด็นออกนอกรถ
2.WHO องค์การอนามัยโลกให้ข้อมูลว่า การใช้คาร์ซีทช่วยลดอันตรายจากอุบัติเหตุและลดโอกาสเสียชีวิตได้ถึง 70 %
3.เด็กอายุต่ำกว่า 13 ปีควรนั่งเบาะหลังเท่านั้น และใช้คาร์ซีท หากตัวโตพอจะใช้เข็มขัดนิรภัยที่ติดมากับรถยนต์ สายรัดจะต้องอยู่ในจุดที่ไม่เป็นอันตรายกับตัวเด็ก
4.การอุ้มเด็กนั่งเบาะหลังไม่ปลอดภัยเพียงพออย่างแน่นอน หากเกิดอุบัติเหตุรถชนรุนแรงรถจะหยุดกะทันหัน มักพบอุบัติเหตุที่เด็กไม่ได้อยู่ในที่นั่งนิรภัยจึงไม่มีสิ่งยึดตัวไว้ จะกระแทกกับตัวรถ หรือหลุดกระเด็นออกนอกรถ
5.ไม่ควรให้เด็กอายุไม่ถึง 13 ปีหรือตัวยังไม่โตพอคาดเข็มขัดนิรภัยที่ติดมากับรถยนต์ เพราะเป็นของที่ทำขึ้นมาเพื่อให้พอดีกับขนาดตัวของผู้ใหญ่ หากเกิดอุบัติเหตุสายเข็มขัดนิรภัยอาจบาดหน้าหรือคอเด็ก เสี่ยงต่อการบาดเจ็บและชีวิตของเด็ก
6.เด็กทุกวัยควรใช้คาร์ซีท ซึ่งควรเลือกให้เหมาะสมกับขนาดตัวของเด็ก
- เด็กแรกเกิดถึง 2 ขวบควรใช้คาร์ซีทแบบหันหน้าไปทางท้ายรถ เพราะเด็กวัยนี้ศีรษะใหญ่กระดูกคออ่อนอยู่ การนั่งหันไปข้างหน้าเวลาเกิดอุบัติเหตุศีรษะจะสะบัดไปด้านหน้าและกลับมาข้างหลังกระดูกต้นคอหักได้ง่าย
- ควรปรับเปลี่ยนขนาดคาร์ซีทให้เหมาะกับตัวลูกเมื่อโตขึ้น
- คาร์ซีทพกพาเหมาะกับเด็กวัย 4-12 ขวบ เพราะเป็นการใช้ร่วมกับสายคาดนิรภัยที่ติดอยู่กับรถยนต์สามารถปรับขนาดสายให้เหมาะกับตัวเด็ก
ทั้ง 6 ข้อนี้น่าจะเป็นตัวช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ประเมินได้ว่าดูแลความปลอดภัยให้ลูกยามเดินทางเพียงพอแล้วหรือยัง ถ้ายังควรเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยให้ลูกโดยด่วนค่ะ