เมื่อลูกๆ เริ่มโตขึ้น ฟันเริ่มทยอยขึ้นครบทุกซี่ ปัญหาที่สร้างความหนักใจรองจากเรื่องดูแลรักษาฟันในเด็กก็คือ จะทำยังไงดีให้ลูกยอมออกไปพบหน้าหมอฟัน และเพื่อให้ลูกของเราเกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อการหาหมอฟันไปตลอดกาลนั้น คนเป็นพ่อแม่ต้องทำยังไงบ้างนั้น มาดูเทคนิคนี้กัน สุดง่าย แถมได้ผลทันตาเห็นกันเลย!
1. เฟ้นหาสถานที่ไม่ต้องไกลมาก
หากใครไม่เคยคำนึงถึงประเด็นนี้มาก่อนล่ะก็ ต้องเตรียมหาข้อมูลกันให้หนักเลยนะแม่ๆ เพราะเด็กเค้าไม่ชอบนั่งรถนานๆ อยู่แล้ว ยิ่งรู้ว่าปลายทางข้างหน้าต้องไปพบกับคุณหมอฟันด้วยนะ ยิ่งงอแงเข้าไปใหญ่
ดังนั้น การเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลที่เดินทางสะดวก และมีมุมของเล่นเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ลูกได้ ยิ่งดีใหญ่เลย เพราะเค้าจะลืมความกลัวที่อยู่ตรงหน้า และเพลิดเพลินไปกับกองของเล่นของทางโรงพยาบาลซะแทน
2. พูดปลอบให้ลูกรู้สึกดี
ห้ามเด็ดขาด! กับคำพูดที่ส่อถึงความน่ากลัวหรือเรื่องโหดร้าย ที่จะทำให้ลูกของเรานั้น ขยาดกับการมาหาหมอฟันไปอีกยาว ซึ่งเทคนิคการพูดนั้น ง่ายนิดเดียว แค่พูดยังไงก็ได้ให้ลูกรู้สึกดี เช่น ให้หมอส่องฟันดูนิดเดียวนะลูก หลับตายังไม่ถึง 2 นาทีเองก็เสร็จแล้วล่ะ อะไรทำนองนี้ ก็จะทำให้ลูกอุ่นใจขึ้นได้มากแล้วล่ะ
3. เข้าไปให้กำลังใจถึงในห้องหมอกันไปเลย
หากลูกน้อยต้องการให้เราเข้าไปในห้องคุณหมอด้วยนั้น คุณพ่อคุณแม่ห้ามปฎิเสธเด็ดขาดเลย เพราะการเข้าไปให้กำลังใจถึงในห้องนั้น เด็กๆ จะรู้สึกอุ่นใจ ต่อให้ต้องอยู่กับคุณหมอนานเท่าไหร่ ลูกก็จะทนต่อไปได้ เพราะตรงนั้น ยังมีคนที่เค้ารักยืนอยู่ด้วยทั้งคนนั่นเอง
แต่บางช่วงเวลาที่คุณหมอต้องการสมาธิเป็นพิเศษ อาจจะขอความร่วมมือจากผู้ปกครองให้ออกไปรอด้านนอกก่อน อันนี้ก็แล้วแต่ด้วยว่าเคสของลูกเรานั้นใหญ่หรือเล็กอีกเช่นกัน
4. ห้ามใช้คำพูดน่าหวาดกลัวกับเด็ก
เด็ก ยังไงก็คือเด็ก หากเราไปพูดดักว่า เดี๋ยวจะให้คุณหมอถอนฟัน ฉีดยา หรืออะไรต่างๆ ที่ทำให้เค้ารู้สึกถึงความหวาดกลัวล่ะก็ เตรียมใจไว้ได้เลย ว่าลูกก็จะไม่ยอมไปหาคุณหมออีกแล้ว
แต่ถ้าเราสร้างภาพลักษณ์ดีๆ คุณหมอดูแปปเดียว ฟันก็จะสวยปิ๊งแล้ว หรือพูดหลอกล่อว่าเดี๋ยวทำเสร็จจะพาลูกไปซื้อของเล่น หรือพาไปกินของอร่อยๆ ต่อ เพื่อทำให้เค้ารู้สึกใจชื้น หรือความสุขที่จะเกิด อะไรแบบนี้ก็ได้เหมือนกัน และดีไม่ดี ต่อไปในภายภาคหน้า อาจจะเข้าไปเผชิญกับคุณหมอได้เอง โดยไม่ต้องการเราอีกแล้วก็เป็นได้
เหนือสิ่งอื่นใด เรื่องของการดูแลรักษาฟันในเด็ก ก็ยังเป็นเรื่องที่ง่ายกว่าในผู้ใหญ่ และการปลูกฝังให้ลูกหันมารักการแปรงฟันและหยุดทานขนมหวานๆ นั้นก็เป็นเรื่องสำคัญอีกเช่นเดียวกัน ดังนั้น ต้องชี้ให้ลูกเห็นว่า ถ้าเค้าดูแลฟันดี เค้าก็จะเจอหมอฟันน้อยลง นี่จึงเป็นแรงดึงดูดชั้นเยี่ยมที่จะทำให้ลูก หันมาใส่ใจดูแลฟันมากขึ้นไปในตัวนั่นเอง