BBB…Baby & Kids Best Buy ครั้งที่ 36 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 2563 ที่ IMPACT เมืองทองธานีชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 การออกไปเที่ยวนอกบ้าน นอกจากได้ใช้เวลาด้วยกันแล้ว ยังเป็นการเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ให้กับลูกน้อย เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์ชีวิต รวมถึงพัฒนาการด้านทักษะต่าง ๆ จะไปเที่ยวกันทั้งครอบครัวทั้งที ก็ต้องมีการเตรียมตัวกันนิดนะคะ ยิ่งช่วงนี้อากาศเย็นลงด้วย คงต้องเตรียมเครื่องกันหนาวให้พร้อมกันไว้ก่อน เรามาไล่เรียงกันดูดีกว่า ว่า 12 สิ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อยที่จะออกไปเที่ยวนอกบ้าน มีอะไรกันบ้าง
- กระเป๋าเก็บสัมภาระ หากเป็นกระเป๋าที่สามารถเก็บอุณหภูมิได้ ยิ่งมีประโยชน์มาก เมื่อต้องออกไปนอกบ้าน สามารถเก็บสัมภาระต่าง ๆ ของลูกน้อย รวมไปถึงการเก็บน้ำนมของคุณแม่ หรืออาหารที่เตรียมไว้สำหรับลูกน้อย ที่ต้องรักษาอุณหภูมิไว้ก่อนจะถึงเวลารับประทาน เราควรต้องเลือกกระเป๋าที่มีวัสดุการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีช่องให้ใส่เพื่อเก็บอุณหภูมิได้ทั้งแบบเย็น และร้อนได้เป็นอย่างดี และไม่รั่วซึม รูปทรงพกพาสะดวก นอกจากจะแข็งแรง และได้มาตรฐานแล้ว รูปแบบ และสีสันก็ยังน่ารักน่าใช้อีกด้วย ตอนนี้มีหลายแบรนด์ที่ผลิตออกมา อาทิเช่น CiPU, Chitida, V-Cool, YOUHA, Attitude Mom, Colorland
- นม ขนม สำหรับลูกน้อย หลายครั้งการติดของว่างให้ลูกน้อยใส่กระเป๋าไว้ ก็ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ ไม่ต้องกังวลมากนัก หากมื้อถัดไปจะล่าช้าสักหน่อย ไหนจะการจราจรที่ติดขัด ไหนจะร้านอาหารที่คนแน่นจนต้องรอคิวยาว แต่ขนมที่เตรียมไปควรจะต้องพิถีพิถันเลือกกันหน่อยค่ะ ว่าเป็นขนมที่นอกจากจะมีประโยชน์แล้ว ยังต้องไม่มีสารกันบูด ไม่มีผงชูรส เป็นรสชาติที่ลูกน้อยโปรดปราน และดีต่อลูกน้อยของเราจริง ๆ ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ที่ทำได้ออกมาอร่อย น่ากิน และมีคุณภาพ เช่น Greenday, Peachy, Wel-B, Bebedang, Dozo, Picnic Baby, Easy-V, Sook กระเจี๊ยบอบกรอบ, ข้าวคุณหมอ
- ผ้าอ้อมผ้าหรือผ้าอ้อมสำเร็จรูป (แพมเพิส) เป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้เช่นกันนะคะ นอกเหนือไปจากการเลือกผ้าอ้อมเด็กที่ทำจากวัสดุที่มีการซึมซับได้ดี ควรเลือกให้เหมาะสมกับอายุ และรูปร่างของเด็กแล้ว ก็ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ผ้าอ้อมเด็กที่ใช้สารที่อาจทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองได้ง่าย เช่น น้ำหอม สี กาว หรือสิ่งปนเปื้อนจากวัตถุดิบหรือกระบวนการผลิตเป็นต้น ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ที่ใส่ใจ ดูแลในเรื่องเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น MamyPoko, Cherry Baby, Bambies, BabyLove, Genki, Enfant ผ้าอ้อมผ้าใยไผ่
- ทิชชูเปียก (Baby Wipes-เบบี้ไวพส์) ถือเป็นกระดาษเช็ดอเนกประสงค์ที่ควรมีติดกระเป๋าไว้ แต่การเลือกซื้อเบบี้ไวพส์นอกจากจะดูประโยชน์ของการใช้งานแล้ว ยังต้องเลือกให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูกด้วย เพราะเด็กในแต่ละช่วงวัย จะมีพัฒนาการ มีกิจกรรมที่แตกต่างกัน แต่ยังมีผิวกายที่บอบบางมากๆ ดังนั้นคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่จำเป็นต้องแยกประเภทการใช้งานให้เหมาะสม เช่น เด็กทารกแรกเกิด – 6 เดือน ควรเป็นเบบี้ไวพส์ที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูง เพื่อใช้ทำความสะอาดก้นเด็กในช่วงเปลี่ยนผ้าอ้อม เมื่อถึงวัย 6 เดือน ควรเลือกใช้เบบี้ไวพส์ที่มีส่วนผสมจากผักและผลไม้ 100% เพื่อใช้เช็ดทำความสะอาดมือ ปาก และคราบสกปรกของเล่น เป็นต้น หรืออายุตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป สามารถใช้เบบี้ไวพส์ที่สะดวกแก่การทำความสะอาดได้หลากหลาย แต่ยังคงความอ่อนโยนด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ ปราศจากแอลกอฮอล์ ปราศจากน้ำหอม และปราศจากสารพาราเบน เช่น D-nee, Pigeon, Nanny, Lamoon Baby, Baby Moby, Pureen, Tiny Nose, Natural Organic, Lullaby, Luna Bebe, Polar Spray, Klean & Kare, Karisma
- กระติกน้ำสุญญากาศแบบพกพา ไอเทมนี้ขาดไม่ได้เลย ซึ่งมีทั้งรูปแบบเก็บความเย็น และความร้อน การเลือกซื้อกระติกควรใช้ของที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เพราะกระติกเก็บความเย็น หรือร้อนที่มีราคาถูก มักผลิตจากวัสดุคุณภาพไม่ดี สารเคลือบในกระติกไม่ทนต่ออุณหภูมิที่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงเร็ว ทำให้หลุดออกมาปนเปื้อนกับน้ำในภาชนะได้ ก่อให้เกิดอันตรายกับลูก และตัวคุณพ่อ คุณแม่เอง ฉะนั้นจึงควรเลือกแบรนด์ที่ทำให้เราไว้ใจในเรื่องนี้ได้ เช่น Ateera, Kidsociety, Nuebabe, Drink In The Box, Nikko
- ผลิตภัณฑ์กันยุง เพราะอย่างที่รู้กันดีว่า โรคไข้เลือดออกเป็นโรคที่น่ากลัวและอันตรายมากสำหรับเด็ก เด็กบางคนแพ้ยุง การพกผลิตภัณฑ์กันยุงจึงถือเป็นไอเทมที่ควรติดกระเป๋าลูกน้อยไว้ตลอดเวลา และนับเป็นข่าวดีที่ทุกวันนี้ ยากันยุงหลายยี่ห้อพัฒนาจากรูปแบบโลชั่น เป็นรูปแบบสติ๊กเกอร์ แบบสวมใส่เหมือนนาฬิกาข้อมือ อีกทั้งส่วนผสมก็เป็นแบบออร์แกนิค 100% เพื่อให้สามารถใช้กับลูกน้อยของเราได้อย่างปลอดภัยไร้กังวล แถมคุณพ่อ คุณแม่บางคนที่ผิวแพ้ง่ายก็ยังสามารถใช้ได้ด้วย ดังนั้นยากันยุงที่ดีจึงไม่ควรมีสารเคมีที่จะซึมเข้าสู่ผิว และไม่ทำให้ผิวระคายเคือง ซึ่งมีหลายยี่ห้อที่ตอบโจทย์ตรงนี้ เช่น Ing Organic, Kindee, Morepure, Buga Buga
- เสื้อผ้าธีมครอบครัว ซึ่งจะทำให้ภาพถ่ายครอบครัวออกมาน่ารักอย่างที่สุด ที่คุณพ่อ คุณแม่ คุณลูกจะได้ใส่เสื้อสี และรูปแบบเดียวกัน สกรีนเหมือนกัน แนะนำเสื้อผ้าของ Sweet Pae, Little Mojo ซึ่งทางแบรนด์ก็รับออกแบบให้ด้วย
- ผ้าห่ม/อุปกรณ์กันหนาวหรือกันแดด ( หมวก, เสื้อคลุม, ถุงเท้า) ควรเลือกที่ทำจากเส้นใยธรรมชาติ อ่อนโยนต่อผิว หลีกเลี่ยงผ้าที่มีชิ้นส่วนเล็ก ๆ หรือมีการออกแบบตกแต่งที่ไม่จำเป็น เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหรือสามารถไปพันเกี่ยวกับนิ้วหรือเล็บของลูกได้ มีหลายแบรนด์ที่ตอบโจทย์ เช่น ศุภมงคล๑๕, Shuerbeibi, Iflin, Cotton Q, Healthway
- รองเท้าเด็ก การเดินทางไปเที่ยวนอกบ้าน ต้องมองหารองเท้าที่ใส่สบายเท้าที่สุดสำหรับลูกน้อย ที่สำคัญต้องไม่ทำให้เท้าเสียรูปทรงในขณะเดิน ฉะนั้นวัสดุที่ใช้ต้องนุ่ม ไม่ทำร้ายเท้าน้อย ๆ ของลูก ไม่ทำร้ายกระดูกอันแสนเปราะบางของลูกให้ผิดรูป จึงต้องเลือกแบรนด์ที่มั่นใจได้ว่าผ่านการออกแบบมาอย่างถูกต้อง และเลือกใช้วัสดุที่ดีต่อเท้าของลูกคุณ แนะนำแบรนด์ Babybotte, Dr.Kong, Attipas, Bella Baby
- เป้อุ้มเด็กหรือรถเข็น แน่นอนว่า 2 ไอเทมนี้จำเป็นมาก เพราะถือเป็นตัวช่วยสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ที่ดีมาก ๆ ยิ่งไปในที่คนเยอะ การใช้เป้อุ้ม จะทำให้คุณพ่อคุณแม่คล่องตัว ลูกน้อยก็แฮปปี้เหมือนเดินกับคุณพ่อ คุณแม่ ดังนั้นเราควรเลือกเป้อุ้มที่ออกแบบมาให้เหมาะสมกับช่วงวัยของอายุ ไม่ว่าจะเป็นการหันหน้าออก หรือสามารถหันหน้าเข้าหาตัวคุณพ่อ คุณแม่ได้ เพื่อรองรับกระดูกสันหลังและศีรษะทารก แต่ไม่ควรรัดแน่นจนเกินไปเพราะจะทำให้ลูกอึดอัด รวมถึงควรมีความยืดหยุ่น เด็กสามารถเอนตัว และขยับเคลื่อนไหวสะโพกได้ด้วย แนะนำแบรนด์ Pognae, Ergo, I-Angle, Ecleve, Glowy Star, Ficco, MiaMily
- รถเข็น ก็เพื่อประหยัดแรงของคุณพ่อ คุณแม่ ทั้งยังเพื่อความสบายของลูกน้อยหากหลับก็สามารถนอนหลับสบายภายในรถเข็นได้ คุณแม่จะช็อปปิ้ง คุณพ่อจะนั่งรอที่ร้านกาแฟ ก็หมดความกังวลใด ๆ แฮปปี้กันทั้งครอบครัว ซึ่งก่อนจะซื้อรถเข็นสำหรับลูกสักคัน คุณพ่อ คุณแม่ควรจะเลือกรถเข็นที่มีคุณสมบัติดังนี้
– มั่นคงแข็งแรง ไม่มีส่วนที่แหลมคม ไม่มีรูที่เด็กจะเอานิ้วมือหรือเท้าแหย่เข้าไปได้
– จุดล็อกที่ควรมี ได้แก่ ล็อกเอว ระหว่างขา และไหล่ ซึ่งตัวล็อกควรจะแน่นหนา แต่ไม่แน่นสำหรับเด็กจนเกินไป และปลดเข้าออกได้ไม่ยากระบบเบรกหรือห้ามล้อ ตัวล็อกรถ หรือห้ามล้อหยุดดีหรือเปล่า และควรทดสอบในขณะที่พื้นเอียง และวางน้ำหนักในรถเข็น และทดสอบดูว่ารถเข็นจะไม่ไหลไปเอง
– ล้อต้องมีความแข็งแรง และสามารถเคลื่อนตัวได้ดีควรเลือกรถเข็นแบบที่สามารถปรับระดับเบาะนั่งและนอนได้ควรมีน้ำหนักเบา ใช้งาน และเก็บพับง่าย เพราะบางทีคุณแม่อาจต้องเดินทางคนเดียว การใช้งาน การเก็บพับควรเป็นอะไรที่ง่ายที่สุด ทั้งนี้ก็มีหลายแบรนด์ที่อยากแนะนำ เช่น GB, Babyzen, Super wings, Nuna, Egg, Camera, Farlin
- คาร์ซีท ที่ช่วยในเรื่องของความปลอดภัยในการขับรถบนท้องถนน ดังนั้นคาร์ซีท จึงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยบนท้องถนน ให้แก่ลูกน้อย การเลือกซื้อคาร์ซีทควรเลือกให้เหมาะกับสรีระของอายุ และรองรับกับขนาดตัวของเด็ก คุณพ่อ คุณแม่ต้องคำนึงถึงอุปกรณ์ และองค์ประกอบอื่น ๆ ของคาร์ซีทด้วย เช่น เข็มขัดนิรภัย ควรผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และควรเป็นเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด และการันตีการใช้งาน ซึ่งก็มีหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อ อาทิเช่น Chicco, Daiichi, Maxi-Cosi, Aprica, Arpamo, Baby ERIN, Mifold, OMP
- ไอเทมสุดท้าย เหมือนไม่จำเป็น แต่จำเป็น นั่นก็คือ “ไม้เซลฟี่” สำหรับถ่ายรูปครอบครัว พร้อมหน้าพร้อมตา เก็บเป็นภาพความประทับใจกับลูกน้อยในวัยนั้น ๆ เมื่อย้อนกลับมาดูอีกครั้งความรู้สึกอบอุ่นใจก็ย้อนกลับมาอีกครั้งเลยล่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับการเตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ให้ลูกน้อย มีครบกันทุกข้อหรือยังเอ่ย อาจจะเหมือนเยอะเกินไป แต่คุณพ่อ คุณแม่เชื่อเถอะค่ะว่าอุปกรณ์ที่ครบและพร้อม จะทำให้ทริปท่องเที่ยวของครอบครัวมีความสุข สนุกสนาน จนลืมความเหนื่อยในการตระเตรียมของเลยค่ะ และอย่าลืมนะคะ ทุกไอเทมที่เราแนะนำไปสามารถหาซื้อได้ในราคาพิเศษที่งาน BBB…Baby & Kids Best Buy ครั้งที่ 36 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 30 ม.ค. – 2 ก.พ. 2563 ที่ IMPACT เมืองทองธานีชาเลนเจอร์ฮอลล์ 3 เป็นงานเดียวที่รวบรวมสินค้าแม่และเด็กล้วน ๆ นับล้าน ๆ รายการ พร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 90% กันเลยทีเดียว เป็นงานที่คุณพ่อ คุณแม่ไม่ควรพลาด สามารถติดตามรายละเอียดงาน BBB ได้ที่ Facebook Fanpage: thailandbabybestbuy หรือดูรายละเอียดโปรโมชั่น และสมัครเข้าร่วมกิจกรรมภายในงานได้ที่ www.babyBBB.com
#BBB…Baby & Kids Best Buy