โรคสมาธิสั้นมีสาเหตุและวิธีดูแลรักษาอย่างไรมาดูกันค่ะ สาเหตุของสมาธิสั้น โรคสมาธิสั้นเกิดจากความผิดปกติของสมอง คือ มีปริมาณสารเคมีบางตัวในสมอง (Dopamine, Noradrenaline) น้อยกว่าเด็กปกติ ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับหลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์ การได้รับพิษสารตะกั่ว การสูบบุหรี่ของมารดาระหว่างตั้งครรภ์ การคลอดก่อนกำหนด ภาวะแทรกซ้อนอื่นระหว่างตั้งครรภ์ เป็นต้น ส่วนการเลี้ยงดู การดูทีวี การเล่นเกมส์ไม่ได้เป็นสาเหตุโดยตรงของโรคสมาธิสั้น แต่อาจส่งผลให้อาการสมาธิสั้นมากขึ้นได้ การดูแลรักษาเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น เป้าหมายของการรักษาโรคสมาธิสั้นคือการช่วยให้ผู้ป่วยสามารถควบคุมตัวเองให้มีความตั้งใจเรียนและทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งอาจต้องได้รับการรักษาหลายด้านร่วมกัน 1.การรักษาด้วยยา 2.การปรับพฤติกรรมและการช่วยเหลือด้านจิตใจสำหรับเด็กและครอบครัว เช่น จัดทำตารางเวลากิจกรรมในแต่ละวัน สั่งงานทีละขึ้นตอน ให้เด็กพูดทวนคำสั่ง จัดหาสถานที่ที่เหมาะสมในการทำการบ้านโดยไม่มีสิ่งรบกวน ลดการลงโทษหากพฤติกรรมที่ไม่ดีเกิดจากอาการของโรค และเพิ่มการชื่นชมเมื่อเด็กมีพฤติกรรมดี เป็นต้น 3.การดูแลจากทางโรงเรียน เช่น จัดที่นั่งใกล้โต๊ะครู ห่างจากประตู หน้าต่าง เขียนการบ้านบนกระดานให้ชัดเจน หลีกเลี่ยงการสั่งงานด้วยวาจา ตรวจสมุดจดงานว่าทำงานได้ครบถ้วนหรือไม่ หากเด็กหมดสมาธิอาจจัดกิจกรรมเพื่อเปลี่ยนอิริยาบท เช่น ช่วยลบกระดานดำ หรือแจกหนังสือ เป็นต้น หากสงสัยว่าเด็กมีโอกาสเป็นโรคสมาธิสั้นควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อการรักษาที่ถูกต้องและเหมาะสมค่ะ ข้อมูลจาก : พญ.กุลนิดา เต็มชวาลา จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น…
Knowledge
ความรู้ ทั้งอัพเดท และ How to การเลี้ยงดูลูก รวมถึงการดูแลตัวเอง ฉบับคุณแม่ คุณพ่อ ยุคใหม่ ที่ครบคลุมตั้งแต่ ช่วงตั้งครรภ์ จนถึง ลูกอยู่ในวัยประถม
เมื่อไม่กี่วันมานี้ ข่าวพ่อของเด็กที่ถูกวัยรุ่น 5 คนรุมโทรมระงับอารมณ์ไม่อยู่ทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุ เนื่องจากญาติผู้ก่อเหตุที่อ้างตัวว่าเป็นอบต.พยายามจ่ายเงินโดยไม่ต้องแจ้งความ ยังมีมีตำรวจช่วยไกล่เกลี่ยเพื่อให้เรื่องจบ สร้างความโกรธแค้นให้กับคนในสังคม และรู้สึกสะใจเมื่อผู้ทำผิดโดนพ่อเหยื่อทำร้ายเอาคืนบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกครั้งที่มีข่าวคราวเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศ ถูกข่มขืน สะเทือนความรู้สึกคนเป็นพ่อเป็นแม่และทุกคนในสังคม มีคำถามว่าเมื่อไหร่ปัญหานี้จะหมดไป แล้วเราจะปกป้องเด็ก ๆ ของเราอย่างไร ไทยติดอันดับ 10 โลกคดีข่มขืน ไทยติดอันดับ 10 ของโลกจากการคำนวณจำนวนคดี แต่ถ้าคำนวณจากอัตราเฉลี่ยคดีต่อประชากรหญิงจะติดอันดับ 29 ของโลก รายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติล่าสุด สถิติคดีข่มขืนในไทย พ.ศ. 2552-2556 เฉลี่ยปีละ 4,000 คดี ซึ่งหมายความว่ามีเหตุเกิดขึ้นทุก 2 ชั่วโมง ตำรวจจับได้ปีละ 2,400 คดี แต่ข้อมูลจากศูนย์พัฒนาข้อมูลกระบวนการยุติธรรมสำนักงานกิจการยุติธรรมรายงานว่าคดีข่มขืนเกิดขึ้นจริงมากกว่า 30,000 ดีต่อปี เท่ากับว่าเกิดขึ้นทุก ๆ 15 นาที คดีข่มขืนที่ไม่ได้แจ้งความมีถึง 87% สถิติเรื่องราวร้องทุกข์ข่มขืนอนาจารผ่านมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ปี 2558 มี 658 ราย …
สถานการณ์ของหมอกควันฝุ่นพิษ PM 2.5 ดีขึ้นเป็นพัก ๆ แต่ก็ยังไม่หมดสิ้นไปซักที เดี๋ยวมีรายงานว่าจังหวัดโน้นจังหวัดนี้ประกันมีฝุ่นหนาตึ้บเด็กเล็ก โดยเฉพาะคนที่เป็นโรคทางเดินหายใจ โรคภูมิแพ้ โรคเยื่อบุตาอักเสบ โรคผิวหนัง ยิ่งน่าเป็นห่วงเพราะมีโอกาสได้รับอันตรายจากฝุ่นพิษได้มากที่สุด การให้ลูกสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น ไม่ออกไปอยู่กลางแจ้งในวันที่มีฝุ่นหนาแน่น การใช้เครื่องกรองอากาศ และปิดประตูหน้าต่างบ้านเป็นวิธีป้องกันเด็ก ๆ จากฝุ่นพิษที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนทำได้ แต่หมดที่ว่ามานี้เป็นการป้องกันจากภายนอกค่ะ การดูแลสุขภาพลูกให้แข็งแรงก็เป็นอีกทางหนึ่งในการสร้างเกราะป้องกันอันแข็งแกร่งเพื่อต่อสู้กับฝุ่นพิษในอากาศ คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลร่างกายของร่างกายของลูกให้แข็งแรงอย่างไรได้บ้างมาฟังกันค่ะ 1.กินอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกัน นอกจากการให้ลูกกินอาหารครบทั้ง 5 หมู่แล้ว เลือกอาหารที่อุดมไปด้วยสารอาหารเหล่านี้ วิตามินซี : ผักผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี เช่น บร็อคโคลี คะน้า ปวยเล้ง ฝรั่ง ลิ้นจี่ สตรอว์เบอร์รี ส้ม กีวี มะละกอสุก ฯลฯ วิตามินอี : อาหารที่มีวิตามินอีสูง เช่น ผักโขม เมล็ดทานตะวัน น้ำมันคาโนล่า มะเขือเทศ มะม่วง…
คุณแม่คนใหม่อย่าลืมตรวจสอบสิทธิประกันสังคมนะคะ จะได้ไม่พลาดสิทธิรับค่าคลอดบุตรค่ะ 1.ใครเบิกได้บ้าง ? คุณแม่ที่ทำประกันสังคมจ่ายงินสมทบมาแล้ว ไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายในเวลา 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตรเบิกได้ค่ะ 2.เบิกได้เท่าไหร่ ? เบิกค่าคลอดบุตรแบบเหมาจ่าย 13,000 บาทต่อครั้ง 3.เบิกได้กี่ครั้ง ? เบิกได้โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง คุณแม่จะมีลูกกี่คนเบิกได้หมดค่ะ 4.หยุดงานเพื่อลาคลอดเบิกประกันสังคมได้มั้ย ? ได้ค่ะ ประกันสังคมจ่ายเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ย เป็นเวลา 90 วัน คิดจากฐานค่าจ้างที่นำส่งประกันสังคม โดยฐานสูงสุดไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท เงินตรงส่วนนี้เบิกได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ลูกคนที่ 3 เบิกไม่ได้ค่ะ 5.ฝากท้องและคลอดโรงพยาบาลอื่นที่ไม่ใช่โรงพยาบาลตามที่แจ้งประกันสังคมไว้ได้มั้ย ? ได้ทุกโรงพยาบาลค่ะ คุณแม่ต้องสำรองเงินจ่ายไปก่อน แล้วรวบรวมเอกสารยื่นเรื่องเบิกที่สำนักงานประกันสังคมในพื้นที่ของคุณแม่ 6.ทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ใช้สิทธิ์เบิกของใคร ? ใช้สิทธิในการเบิกค่าคลอดบุตรฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่จำกัดจำนวนบุตร และไม่จำกัดจำนวนครั้งค่ะ 7.ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับสามีเบิกค่าคลอดบุตรได้มั้ยถ้าสามีเป็นผู้ประกันตนและมีภรรยาเพียงคนเดียว ? สามีภรรยาที่อยู่กันกันโดยเปิดเผยแต่ไม่ได้จดทะเบียนสมรส…
คุณแม่คนใหม่มีความตั้งใจเต็มที่ว่าจะให้ลูกกินนมแม่ แต่เอ๊ะ ทำไมพยายามตั้งหลายวิธีแล้วนำนมยังออกมานิดเดียว มาดูกันว่าเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้หรือเปล่า จะได้แก้ไขให้ตรงจุดค่ะ 1.แม่เครียด แก้ไข - พยายามผ่อนคลายร่างกายและจิตใจขณะให้นมลูกหรือปั๊มนม โดยหายใจเข้าออกลึกๆ ช้าๆ หรือนึกถึงเรื่องราวที่เป็นสุข ฟังเพลงสบาย ๆ ช่วยผ่อนคลายอารมณ์ 2.ให้ลูกดูดกระตุ้นหลังคลอดช้าเกินไป แก้ไข - พยายามให้นมลูกบ่อยขึ้นและนานขึ้น ไม่ควรน้อยกว่า 8 ครั้งต่อวัน 3.ลูกดูดผิดวิธีอาจงับหัวนมไม่ลึกพอ แก้ไข -ให้ลูกอมหัวนมและลานนมได้ลึกพอ โดยคุณแม่ขยับให้ลูกแนบตัวมากขึ้น ให้ลูกอ้าปากกว้างก่อนจับเข้าเต้า คางลูกชิดเต้านมแม่ ท้องแม่แนบท้องลูก 4.ลูกได้ดูดนมแม่ไม่บ่อยพออาจเป็นเพราะคุณแม่ทำงานนอกบ้าน ปั๊มนมน้อยเกินไป หรือทิ้งระยะห่างนานเกิน 3 - 4 ชั่วโมง แก้ไข - ควรปั๊มนมทุก 3 ชั่วโมง และกระตุ้นเต้านมโดยใช้ผ้าอุ่นจัดประคบเต้านม 3 - 5 นาทีก่อนให้นม นวดเต้านมและคลึงหัวนมเบา ๆ 5.พักผ่อนน้อยและกินอาหารน้อย …
การซื้อของใช้สำหรับเด็กอ่อนควรซื้อเตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ช่วงตั้งครรภ์เดือนที่ 5-7 เป็นเวลาที่เหมาะเพราะเลิกแพ้ท้องแล้วช่วงนี้ท้องยังไม่โตมากเดินทางสะดวก ไม่เหนื่อยง่าย มาดูกันค่ะว่ารายการของใช้ลูกมีอะไรบ้าง ของใช้ทั่วไป แพมเพิร์ส ทิชชู่ ทิชชู่เปียก สำลีก้อนกลม กล่องเก็บสำลีชุบน้ำอุ่น …
คุณแม่มือใหม่อาจกังวลว่าจะมีน้ำนมไม่เพียงพอให้ลูก น้ำนมคุณแม่มาน้อยทำยังไงถึงจะน้ำนมมากมาก อย่ากังวลใจไปค่ะมีเคล็ดลับดี ๆ มาฝาก 1.ให้ลูกดูดนมบ่อย ๆ ทุก 2-3 ชั่วโมง 2.การปั๊มนมแม่ก็จะเป็นอีกทางในการช่วยกระตุ้นการสร้างน้ำนม 3.ดื่มน้ำให้พอเพียงในแต่ละวัน ในปริมาณปกติก็พอค่ะไม่ต้องมากหลาย ๆ ลิตร ให้สังเกตดูปัสสาวะถ้าเป็นสีเหลืองเข้มแสดงว่าขาดน้ำ 4.คุณแม่อาจดื่มน้ำขิง น้ำหัวปลีเดี๋ยวนี้มีบรรจุขวดขาย กินแกงเลียง แกงจืดใบตำลึง แกงใบกระเพรา ฯลฯ 5.นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ให้คุณพ่อช่วยดูแลลูกตอนกลางคืนคุณแม่จะได้มีเวลาหลับยาวสักนิด 6.รับประทานอาหารให้ครบหมวดหมู่และปริมาณพอเพียง ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่คนใหม่ทุกท่านค่ะ
การทำสต๊อกน้ำนมแม่มีประโยชน์กับคุณแม่สายออฟฟิศ และบางครั้งก็จำเป็นสำหรับคุณแม่เลี้ยงลูกเต็มตัวค่ะ เนื่องจากคุณแม่อาจจำเป็นต้องออกไปธุระข้างนอกหลายชั่วโมงหรือต้องเดินทางไปต่างจังหวัด ก็จะมั่นใจได้ว่าลูกได้กินนมแม่ทุกมื้อ มีเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการจัดเก็บสต๊อกน้ำนมมาฝากคุณแม่ 5 ข้อค่ะ 1.คุณแม่สามารถเริ่มเก็บน้ำนมได้ตั้งแต่วันแรก ๆ หลังคลอด ช่วงนี้ลูกนอนมากกว่าตื่นมาดูดนมการปั๊มจะช่วยกระตุ้นน้ำนม 2.สำหรับตู้เย็นแยกประตูช่องแข็ง แช่ถุงเก็บน้ำนมไว้ภายในช่องแช่แข็งจะรักษาความเย็นได้ดีกว่าเก็บไว้ตรงประตูตู้ค่ะ 3.วิธีละลายน้ำนมแช่แข็งมาใช้ คือย้ายมาแช่ช่องธรรมดาให้ละลาย แช่ในภาชนะใส่น้ำอุณหภูมิห้อง หรือเปิดก๊อกให้น้ำไหลผ่านแล้วแช่ไว้ในภาชนะ แล้วเช็ดถุงให้สะอาดก่อนเปิดใช้ 4.ห้ามอุ่นโดยไมโครเวฟหรืออุ่นบนเตาโดยตรงเพราะจะทำลายคุณค่าสารอาหารในน้ำนม 5.นมที่นำออกมาละลายแล้วห้ามนำกลับไปแช่ช่องแข็งใหม่ ใช้สำหรับมือถัดไปก็พอ ถ้าเหลือทิ้งไปอย่าเสียดายค่ะ ทราบเคล็ดลับดี ๆ อย่างนี้แล้วคุณแม่สบายใจได้เลยค่ะว่าลูกไม่ขาดนมแม่แน่นอน
คุณแม่ทราบมั้ยคะว่าเหตุใดแกงเลียงจึงจัดว่าเป็นเมนูเด็ดสำหรับคุณแม่คนใหม่ นั่นก็เพราะในแกงเลียงอุดมไปด้วยพืชผักสมุนไพรนานาชนิดที่มีช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ พืชผักสมุนไพรเหล่านี้นอกจากช่วยเพิ่มน้ำนมแม่แล้วยังมีคุณค่าทางอาหารสูงอีกด้วย 1.หัวปลี ช่วยดูแลกระดูกและฟัน ดูแลกระเพาะอาหาร อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอและซี ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อกเต่งตึงไม่หย่อนคล้อย 2.ฟักทอง อุดมด้วยวิตามินเอ ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน เส้นใยอาหาร ดีต่อระบบขับถ่าย บำรุงผิว บำรุงสายตา ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 3.ใบตำลึง มีเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ วิตามินบี แคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก ฯลฯ ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง บำรุงกระดูกและฟัน บำรุงเลือด บำรุงน้ำนมแม่ ลดไข้ 4.ใบแมงลัก ช่วยขับลม ลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เป็นยาระบาย ลดอาการวิงเวียนศีรษะ 5.น้ำเต้า ลดความดันโลหิต ลดน้ำตาลในเลือด แก้อาการไอ ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร ลดอาการปัสสาวะอักเสบ 6.บวบหอม บวบหอมคนละอย่างกับบวบเหลี่ยมนะคะ เหมือนมะเขือยาวลายทางสีเขียวผิวด้าน ๆ…
หัวปลีเป็นอาหารอย่างแรกที่คุณแม่นึกออกเมื่อต้องการเพิ่มน้ำนมลูกใช่มั้ยคะ ความจริงแล้วยังมีอาหารอีกหลายชนิดช่วยเพิ่มน้ำนมแม่ได้ มาดูกันเลยค่ะว่า Super Food เพิ่มน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง และนอกจากจะคุณสมบัติในการเพิ่มน้ำนมแม่แล้วยังมีคุณค่าสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ก่อนอื่นขอเล่าถึงหัวปลีซักนิดเพราะอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหารชั้นเลิศ 1.หัวปลี ช่วยให้ฟันให้สะอาดแข็งแรง ดูแลกระเพาะอาหาร อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอและซี ป้องกันโรคโลหิตจาง ช่วยการไหลเวียนของเลือด ดูแลผิวพรรณอกเต่งตึงไม่หย่อนคล้อย 2.ขิง สมุนไพรฤทธิ์ร้อน ช่วยให้เจริญอาหาร ขับเหงื่อ ขับลม แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ บรรเทาหวัด สมานแผล ทำให้ร่างกายอบอุ่น 3.ใบกะเพรา มีแคลเซียมและฟอสฟอรัสสูง ช่วยย่อย แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ช่วยป้องกันหวัด แก้อาการอาเจียน ช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร 4.ฟักทอง อุดมด้วยวิตามินเอ ฟอสฟอรัส เบต้าแคโรทีน เส้นใยอาหาร ดีต่อระบบขับถ่าย บำรุงผิว บำรุงสายตา ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน 5.กุยช่าย มีฟอสฟอรัสสูง ช่วยบำรุงกระดูก บรรเทาอาการฟกช้ำ อาการปัสสาวะกะปริบกะปรอย ทั้งต้นและใบช่วยบำรุงน้ำนม 6.อินทผลัม ช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้า ช่วยเพิ่มสารอาหารสำคัญในน้ำนม ช่วยย่อย…