Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

5 พิพิธภัณฑ์เปิดโลกให้ลูกรัก

การส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อยทำได้หลายวิธี และหนึ่งในตัวช่วยที่น่าสนใจก็คือ พิพิธภัณฑ์ เพราะผ่านการคิดค้นและสร้างสรรค์โดยผู้เชี่ยวชาญมาแล้วในการจัดกิจกรรมให้เหมาะสมกับช่วงวัย พิพิธภัณฑ์ 5 แห่งต่อไปนี้ เหมาะแก่การพาลูกน้อยไปเปิดโลก ซึ่งนอกจากจะช่วยส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ และเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ให้แก่เด็กๆ แล้ว ยังเป็นการสร้างความทรงจำร่วมกันและพัฒนาความสัมพันธ์ภายในครอบครัวอีกด้วย  พิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครแห่งที่ 1 (จตุจักร)  พื้นที่การเรียนรู้ เน้นการเล่นสนุกให้สอดคล้องกับพัฒนาการและศักยภาพของเด็กแต่ละวัย ทุกกิจกรรมผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ให้เหมาะกับการบ่มเพาะความคิดสร้างสรรค์และส่งเสริมทักษะด้านต่างๆ ภายใต้สภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ที่ปลอดภัย แต่ละเดือนจะมีกิจกรรมพิเศษ เช่น ครัวไทยสำหรับวัยจิ๋ว ละครโรงเล็ก คลาสศิลปะ คลาสวิทยาศาสตร์ คลาสนักประดิษฐ์ ส่วนใหญ่เหมาะกับเด็กอายุ 3-12 ปี  เปิดวันอังคาร-วันอาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) 10.00 - 16.00 น. ไม่เสียค่าใช้จ่าย www.cdm-bangkok.com พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ คลอง 5 ปทุมธานี…

3 เก็บ ป้องกัน 3 โรคฤดูฝนให้ลูกน้อย

ย่างเข้าฤดูฝนทีไร คุณพ่อคุณแม่คงกังวลกับการดูแลสุขภาพลูกน้อย เพราะฤดูนี้อากาศจะเย็นลงและมีความชื้นสูง ทำให้เชื้อไวรัสและแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดีกว่าปกติ  มีโรคติดต่อที่ต้องระวังหลายโรค โดยเฉพาะโรคจากยุงเป็นพาหะ ไม่ว่าจะเป็น โรคไข้เลือดออก โรคติดเชื้อไวรัสซิกา และโรคไข้ปวดข้อยุงลาย แทนที่จะเอาแต่กังวลใจ ลองทำตามคำแนะนำกับ 3 เก็บที่จะช่วยป้องกันโรคจากยุงร้ายได้  เก็บที่หนึ่ง เก็บบ้านให้สะอาด ขจัดมุมอับทึบซึ่งยุงมักชอบเข้าไปแอบเกาะพัก โดยเฉพาะตามห้องนอนที่ไม่ค่อยเปิดม่านเพราะต้องการให้ห้องมืดเพื่อจะได้ไม่มีแสงสว่างรบกวน ในเวลากลางวัน ควรเปิดม่านทิ้งไว้ และก่อนเข้านอนควรตรวจตราให้แน่ใจว่าว่าไม่มียุงร้ายแอบอยู่ เก็บที่สอง เก็บขยะและเศษภาชนะ ไม่ใช่แค่แหล่งน้ำเท่านั้น แต่ถังขยะที่มีเศษอาหารหรือขยะอยู่ด้วยก็อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงได้เช่นกัน ทุกคืนหลังรับประทานอาหารเสร็จ ควรมัดปากถุงขยะแล้วนำไปทิ้งในถังขยะนอกบ้านหรือจุดที่จัดไว้ปิดฝาให้มิดชิด เก็บที่สาม เก็บน้ำ เก็บภาชนะทุกชนิดที่มีน้ำขัง เช่น ถังรองน้ำฝน ถังในห้องน้ำ ต้องหาฝามาปิดให้มิดชิด ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ส่วนขารองตู้ให้เปลี่ยนมาใส่แป้งแทนน้ำ ก็สามารถใช้กันมดได้ผลดีไม่แพ้กันและไม่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงด้วย หากทำตามคำแนะนำนี้จะสามารถป้องกันโรคจากยุงตัวร้ายได้ถึง 3 โรคในคราวเดียว ในอีกทางหนึ่งอย่าลืมเตรียมอุปกรณ์ต่อสู้กับยุง เช่น สเปรย์ตะไคร้ ไม้ช็อตไฟฟ้า ยาทากันยุง…

หนังสือนิทาน ควรเริ่มอ่านตั้งแต่ตอนไหน

การอ่านหนังสือนิทานให้ลูกน้อยฟัง เป็นวิธีใช้เวลาร่วมกันในครอบครัวที่อบอุ่นและช่วยส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้อย่างดีเยี่ยม เป็นการพาลูกน้อยท่องโลกกว้างผ่านตัวอักษร อีกทั้งยังเป็นจุดเริ่มต้นในการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน ซึ่งการอ่านจะช่วยให้เขาเข้าใจโลกและผู้คนได้ง่ายขึ้น ประโยชน์ของการอ่านนิทานให้ลูกฟัง การอ่านนิทานมีประโยชน์ในการช่วยพัฒนาสายสัมพันธ์อันใกล้ชิด ถ้าคุณพ่อคุณแม่โอบกอดเขาไว้บนตักขณะอ่านไปด้วย ลูกจะรับรู้ได้ถึงความรักความเอาใจใส่ ทำให้เขารู้สึกปลอดภัย ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการทางด้านอารมณ์และการเข้าสังคม แม้จะอยู่ในวัยที่เด็กยังไม่สามารถโต้ตอบได้ แต่ถ้อยคำต่างๆ ที่ได้ยิน ล้วนมีส่วนช่วยพัฒนาทักษะการใช้ภาษาให้ดียิ่งขึ้นในภายหลัง และทักษะด้านภาษาที่ดีก็เป็นพื้นฐานสำคัญที่ส่งเสริมให้เด็กๆ เรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรเริ่มอ่านนิทานให้ลูกฟังตอนไหนดี ช่วงเวลาตั้งแต่เริ่มปฏิสนธิในครรภ์จนถึงอายุ 8 ปี เป็นช่วงเวลาที่สมองมนุษย์เติบโตและพัฒนารวดเร็วที่สุด ดังนั้น เราจึงเริ่มอ่านนิทานให้ลูกน้อยฟังได้ตั้งแต่ที่เขายังอยู่ในท้อง นับตั้งแต่วินาทีแรกที่ถือกำเนิด ลูกน้อยก็รักการฟังเสียงของคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นเสียงร้องเพลง เสียงพูดคุย หรือเสียงเล่านิทาน ซึ่งมีงานวิจัยระบุว่ายิ่งอ่านนิทานให้ลูกน้อยฟังเร็วเท่าไร ก็ยิ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการของเด็กๆ เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น เด็กแรกเกิดอาจยังไม่เข้าใจความหมายของสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่พูด แต่จังหวะและโทนเสียงที่แตกต่าง ก็มีส่วนในการช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการฟังซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ควรอ่านนิทานให้ลูกฟังอย่างไร ช่วงที่ทารกยังอยู่ในครรภ์ คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกอ่านหนังสือหรือคอนเทนต์ตามเว็บไซต์ต่างๆ ที่สนใจได้ตามชอบ หากคุณพ่อคุณแม่เพลิดเพลินกับสิ่งที่อ่าน ลูกน้อยก็มีแนวโน้มที่จะสนุกไปด้วยเช่นกัน ต่อมาเมื่อลูกน้อยโตขึ้น เริ่มมีพัฒนาการด้านการมองเห็น เขาจะสนใจหนังสือภาพที่มีสีสันสดใสลายเส้นคมชัด ซึ่งบางทีอาจหยิบจับหรือเอาเข้าปาก จึงควรเลือกหนังสือที่แข็งแรงไม่ฉีกขาดง่าย เวลาเลือกซื้อหนังสือนิทาน ควรเลือกเล่มที่มีฟังก์ชันสนุกๆ ซ่อนอยู่ เช่น สามารถเปิดประตูหรือหน้าต่างเพื่อดูภาพที่ซ่อนอยู่ในนั้น และหากมีเพลงประกอบด้วยก็จะยิ่งดี เพราะเพลงเป็นสิ่งที่จดจำง่ายและทำให้เด็กๆ สนุกมากขึ้น …

ลูกหกล้ม ปล่อยหรือปลอบ

เมื่อเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ขึ้นกับลูกวัยกำลังซน เช่น หกล้ม เดินชนโต๊ะ ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่มักแสดงปฏิกิริยาตกอกตกใจออกมาโดยอัตโนมัติ ตามสัญชาตญาณความห่วงใยที่มีต่อลูก ขณะเดียวกันเด็กๆ ก็มักจะมองหาคุณพ่อคุณแม่ทันทีที่รู้สึกเจ็บ กลัว หรือตกใจ ด้วยเหตุนี้ท่าทีที่ผู้ปกครองแสดงออก จึงเป็นสิ่งสำคัญที่กำหนดว่าเด็กน้อยจะตอบสนองต่อสถานการณ์นั้นอย่างไร  หากคุณพ่อคุณแม่โวยวายเสียงดัง เด็กจะรู้สึกว่าการหกล้มเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งนั่นอาจทำให้เขายิ่งร้องไห้จ้าเสียงดังลั่น ดังนั้น อันดับแรกผู้ปกครองจึงไม่ควรโวยวาย แม้จะรู้สึกใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่มก็ต้องสงบสติอารมณ์ไว้ เพื่อแสดงออกให้ลูกรับรู้ว่าการหกล้มเป็นเรื่องปกติธรรมดาของชีวิต เมื่อล้มแล้วก็สามารถลุกขึ้นใหม่ได้  นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ ยังไม่ควรซ้ำเติมลูกด้วยการตำหนิว่าไม่ระมัดระวังหรือซุกซนเกินเหตุ เพราะเขาอาจสูญเสียความมั่นใจและรู้สึกไม่ดีกับตัวเอง ถ้าเด็กๆ ล้มโดยไม่ได้บาดเจ็บอะไรมากนัก คุณพ่อคุณแม่ควรยืนมองอยู่ห่างๆ และคอยให้กำลังใจ เมื่อเขาสามารถลุกขึ้นเองได้ ก็เอ่ยปากชมสักหน่อยว่า “เก่งมากๆ เลยนะลูก ที่ล้มแล้วลุกขึ้นเองได้”  แต่ถ้าลูกร้องไห้ออกมาด้วยความรู้สึกเจ็บ ก็ไม่ควรไปโกหกว่า “ไม่เจ็บหรอก ไม่เห็นเป็นอะไรเลย” เพราะเด็กจะรู้สึกว่าเขาถูกปฏิเสธตัวตนและไม่ได้รับการยอมรับความรู้สึก อาจทำให้เขายิ่งร้องไห้และไม่กล้าบอกความรู้สึกที่แท้จริงกับคุณพ่อคุณแม่ในครั้งต่อๆ ไปที่เกิดปัญหา สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำคือการโอบกอดและปลอบโยนโดยไม่โอ๋มากเกินไป ไม่ต้องบอกเขาว่าจะตีพื้นหรือโต๊ะที่ทำให้หนูเจ็บ หรือกล่าวโทษพี่เลี้ยงที่ดูแลไม่ดี เพราะยิ่งจะเป็นการปลูกฝังนิสัยโทษคนอื่นเมื่อเกิดความผิดพลาด แค่ถามลูกว่าเขาโอเคไหม อธิบายให้ลูกเข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดของหนู และไม่นานความเจ็บนี้ก็จะหายไป เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว ยิ่งถ้าไม่ได้บาดเจ็บรุนแรง ร้องไห้ไม่กี่นาทีเดี๋ยวเด็กๆ ก็กลับไปวิ่งปร๋อได้แล้ว สิ่งสำคัญในการประคับคองลูกน้อยยามหกล้ม คือการสอนให้เขาตระหนักว่าถ้าล้มแล้วจะเจ็บ ครั้งต่อไปต้องระมัดระวังมากขึ้น…

คุณแม่ทำสวยได้ไหมขณะตั้งครรภ์

สาวๆ ทุกคนไม่ว่าจะอยู่ช่วงวัยใดหรือสถานภาพอะไร มักรักสวยรักงามและชอบดูแลตัวเองให้ดูดีอยู่เสมอ หลายคนเมื่อรู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์ อาจเกิดความกังวลใจ จะทำนั่นดีไหม ทำนี่ดีหรือเปล่า และคำถามที่ว่า “ฉันแต่งหน้าได้ไหม หรือเปลี่ยนสีผมได้หรือเปล่า” ก็เป็นคำถามที่บรรดาว่าที่คุณแม่มักสงสัยอยู่เสมอๆ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ระหว่างตั้งครรภ์ ระบบต่างๆ ในร่างกายจะมีการปรับสภาพเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง ซึ่งหลักๆ ก็คือเรื่องของฮอร์โมน ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบเมตาบอลิซึม และระบบภูมิคุ้มกัน รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านผิวหนังที่เห็นได้ชัดเจนจากภายนอก เช่น หน้าท้องลาย ผิวนูนขึ้นมาคล้ายใยแมงมุม บริเวณแขน ขา และใบหน้า มีสิวฝ้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงสามเดือนสุดท้ายสิวอาจขึ้นเยอะเป็นพิเศษ ซึ่งอาการเหล่านี้จะบรรเทาลงและหายเองได้หลังคลอด  หลายคนรู้สึกหมดความมั่นใจเมื่อต้องพบกับสภาพที่เปลี่ยนไป อาจต้องการที่จะหาวิธีเรียกความสวยงามให้กลับคืนมา ซึ่งการเสริมสวยเพื่อเติมความมั่นใจนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ไม่ผิดกติกาว่าที่คุณแม่ เพียงแต่สิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มความระมัดระวังในการใช้สารเคมีบางอย่างที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อย และควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อความสวยความงามที่เราไม่มั่นใจว่าปลอดภัย 100% หรือไม่ ข้อควรระวังได้แก่  การใช้ยารักษาสิว ยากลุ่มวิตามินเอ (Ratinol) หรือ Isotretinoin และ Tretinoin เป็นสิ่งต้องห้ามเด็ดขาด ไม่ว่าจะกินหรือทาก็ต้องงดไปก่อนเพราะอาจส่งผลต่อความพิการของทารกได้  ยาอีกตัวที่ใช้รักษาสิวกันมาก แต่ไม่แนะนำให้ใช้ในช่วงเดือนที่ 4-9…

เลี้ยงลูกอย่างไรดี ในโลกยุคที่มีเทคโนโลยีใกล้ตัว

ต้องยอมรับจริงๆ ว่าในยุคนี้การใช้มือถือ สมาร์ทโฟน ไอแพด เป็นเรื่องปรกติมากๆ ของการใช้ชีวิต และหลายๆ ครอบครัวก็มักให้ลูกได้ใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นเหมือนของเล่นอีกชิ้น จนบางครั้งลูกกลายเป็นเด็กติดจอ และเกิดปัญหาด้านพัฒนาการการเติบโตเลยทีเดียว ซึ่งที่จริงแล้วหากคุณพ่อคุณแม่สามารถจัดการบริหารเวลา และควบคุมการใช้ของลูกได้อย่างดี เทคโนโลยีเหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์ได้มากเช่นกัน  ผลเสียของการที่ลูกติดจอ  สายตา เรื่องนี้ถือเป็นผลกระทบหลัก และส่งผลโดยตรง เพราะการใช้สมาร์ทโฟนของเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี มักเป็นลักษณะการจ้องมองในระยะที่ใกล้มากๆ  จนเกิดภาวะที่เรียกว่า “ตาเพ่งค้าง” อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว ตาพร่าได้ หรือที่เรียกว่าสายตาสั้นเทียมชั่วคราวได้ หรือถ้าจ้องจอนานๆ ติดต่อกัน และทำเป็นประจำก็อาจเกิดเส้นประสาทตาอักเสบได้ …

Peppa Pig Live Celebration 2019 in Bangkok ครอบครัว รูปถ่าย ความทรงจำ ร่วมส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้แข็งแรงและงดงาม

ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในชีวิตมักเป็นช่วงเวลาที่เราทุกคนได้ใช้เวลาร่วมกับคนในครอบครัว การมีโอกาสได้นั่งชมรายการโทรทัศน์ร่วมกัน การไปเที่ยวด้วยกัน หรือทำกิจกรรมอื่นๆ ร่วมกัน และสถาบันครอบครัวที่แข็งแรงนำมาซึ่งสังคมที่งดงาม เพราะเล็งเห็นความสำคัญในสถาบันครอบครัว คุณณัฐา คุณปิติลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คณปติ โฮลดิ้ง จำกัด และคุณแอน พิกุลแก้ว เพ็ชร์สีสม กรรมการผู้จัดการ บริษัท คลิมโก้ พลัส จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เด็กและทิชชูเปียก แบรนด์ Bebesup พร้อมผู้สนับสนุนอีกมากมายนำโชว์หมูน้อยสีชมพูเปปป้า การ์ตูนซีรีส์ที่โด่งดังจากประเทศอังกฤษเข้ามาจัดแสดงในประเทศไทยเป็นครั้งแรกกับ Peppa Pig Live…

สอนลูกยุค 4G ให้รวยกว่าพ่อแม่

คุณพ่อคุณแม่ที่มองว่า เรื่องของการปลูกฝังการใช้เงินในเด็กเป็นเรื่องไกลตัว ไว้โตค่อยสอนก็ได้ จะบอกว่าความคิดนี้ควรจะล้มเลิกโดยด่วน เพราะการสอนให้ลูกใช้เงินเป็น ตั้งแต่อายุยังน้อยนั้น ถือเป็นรากฐานการฝึกลูกให้ใช้เงินเป็นได้ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และเมื่อเค้าเติบใหญ่ขึ้น เค้าก็จะกลายเป็นผู้ใหญ่ ที่ใช้เงินยังชาญฉลาด จนรวยแซงหน้าพ่อแม่ไปโดยปริยาย 1. สอนลูกให้ใช้เงินเป็น สอนให้ลูกหัดเก็บเงินที่เหลือจากค่าขนมในแต่ละวัน และไม่ตามลูกเด็ดขาด ในกรณีที่ลูกอยากได้ของที่ไม่จำเป็น ก็ต้องสอนให้เค้ารู้จักเก็บเงิน ถ้าอยากได้ ให้พยายามเก็บเงินให้ถึงเป้า แล้วพ่อกับแม่จะพามาซื้อ เพราะถึงตอนนั้น ลูกอาจจะลืมไปแล้วก็ได้ ว่าเคยอยากจะซื้อมัน 2. ลูกต้องแยกแยะให้เป็นระหว่าง “ความจำเป็น” กับ…

ไวรัสเมิร์สคอฟ ศัตรูร้ายสำหรับลูกน้อย ที่พ่อแม่ต้องระวัง

ถึงแม้ว่าชื่อของไวรัสเมิร์สคอฟ จะยังเป็นชื่อแปลกและใหม่สำหรับคนไทยหลายๆ คน แต่สำหรับในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ก็ได้เสียน้ำตาให้กับมันไปแล้วนักต่อนัก เพราะมันคือไวรัสตัวร้าย ที่ใครๆ ก็ต่างกลัว โดยเฉพาะกับเด็ก เพราะได้รับการประกาศศักดาออกมาแล้วว่า มันคือไวรัส ที่ยังไม่มียาสักตัว ที่สามารถขจัดมันได้ ฟังแล้วก็น่ากลัวอยู่ไม่น้อยเลย ถึงแม้ว่ามันจะยังเดินมาไม่ถึงประเทศไทยของเราก็เถอะ แต่กันไว้ดีกว่าแก้จะดีกว่านะทุกคน ไวรัสเมิร์สคอฟ มาจากไหน ไวรัสเมิร์สคอฟ หรือโรคไข้หวัดอูฐ เป็นโรคที่มีต้นกำเนิดมาจากแถบตะวันออกกลาง โดยพบเชื้อนี้ได้โดยตรงในค้างคาวและเลือดอูฐ ซึ่งอาศัยการติดต่อกันได้ผ่านคนสู่คนทางน้ำลายและน้ำมูก ซึ่งอาการนั้น หลายๆ คนมักแยกไม่ออกระหว่างอาการไข้หวัดธรรมดากับไข้หวัดอูฐ ทำให้มันถูกขนานนามว่าเป็นโรคที่น่ากลัวโรคหนึ่งเลยล่ะ เพราะเมื่อเชื้อเข้าสู่ร่างกายแล้วนั้น จะนำไปซึ่งการเสียชีวิตได้มากถึง…

ก่อนจะสอนลูกด้วยวิธี Homeschool รู้ครบตามนี้แล้วหรือยัง?

ในยุคสมัยนี้ คุณพ่อคุณแม่สมัยใหม่ คงรู้จักใกล้ชิดกันดีกับคำว่า “Homeschool” ทำให้หลายๆ บ้านต่างก็อยากลองให้ลูกของเรานั้น ได้มาคลุกคลีกับการเรียนกับโฮมสคูลมากขึ้น ซึ่งเราจะมาบอกเล่าให้พ่อๆ แม่ๆ ได้รู้กันว่า แท้จริงแล้ว Homeschool ดีจริงมั้ย? แล้วถ้าอยากให้ลูกโฮมสคูลดูบ้างล่ะ ต้องเตรียมตัวยังไง มาทำความรู้จักพร้อมๆ กันเลย! Homeschool คือ? โฮมสคูลหรือแปลกันแบบตรงๆ ก็คือ การเรียนที่บ้าน เน้นพัฒนาทักษะชีวิต เพื่อโตเป็นผู้ใหญ่ที่เก่งแบบรอบด้าน และพร้อมแก้ปัญหาในชีวิตได้ด้วยตนเอง แล้วโฮมสคูล…