Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

Author page: motherandcare

นวัตกรรมสำหรับพ่อแม่ ปี 2018

ชีวิตยุคใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น สิ่งประดิษฐ์ข้าวของเครื่องใช้ขึ้นเพื่อพ่อแม่ยุคใหม่ ที่จะมาอำนวยความสะดวกสบายในการเลี้ยงลูกมากยิ่งขึ้น Mother and Care ได้รวบรวมนวัตกรรมสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ในปี 2018 ที่น่าสนใจมาให้ชมกัน 1.คาร์ซีทพกพา คาร์ซีทพกพา mifold เป็นอุปกรณ์ใหม่ที่ช่วยให้เด็กสามารถคาดเข็มขัดนิรภัยในรถได้อย่างเหมาะสมตามร่างกาย สำหรับเด็กที่มีความสูง 100 ซ.ม. เป็นต้นไป โดยสามารถใช้แทน Car Seat ทั่วไปได้ ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า น้ำหนักเบากว่า และพับเก็บได้อย่างง่ายดาย ภาพจาก : Mifold Thailand 2.สมาร์ทวอทช์  นาฬิกาสมาร์ทวอทช์ สำหรับเด็ก เป็นทั้งอุปกรณ์ที่ช่วยบอกพิกัดของลูกด้วยระบบ GPS ป้องกันเด็กหาย กล้องถ่ายภาพ วีดีโอ บันทึกเสียง รวมไปถึงโทรศัพท์หาพ่อแม่ ที่มีรูปทรงและสีสันสดใส และเด็กๆ สามารถใช้งานได้อย่างง่ายๆ ภาพจาก  : www.vtechkids.com 3.กระปุกออมสินแสนฉลาด กระปุกออมสินรูปหมูแสนฉลาดจาก Wiggy ที่จะช่วยให้เด็กๆ รู้จักการออมเงิน โดยเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือผ่านทางแอพพลิเคชั่น ช่วยเด็กๆ ในการตั้งเป้าหมายการออมเงิน และภารกิจพิเศษที่พ่อแม่สามารถเพิ่มเงินให้ หากเป็นเด็กดีและช่วยงานบ้าน ภาพจาก  : www.wiggytoy.com 4.กระติกน้ำอินเตอร์แอคทีฟ กระติกน้ำจาก Gululu ที่มีระบบอินเตอร์แอคทีฟ…

Read more

เด็กชาย 6 ขวบ ขายน้ำมะนาวระดมทุนได้กว่า 4 แสนบาท ช่วยเด็กต่างด้าวถูกพรากจากพ่อแม่

เว็บไซต์ ดิ อินดิเพนเดนท์ รายงานว่า เด็กชายอายุ 6 ขวบจากแอตแลนต้า รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ขายน้ำมะนาวเพื่อระดมเงินช่วยเด็กต่างด้าวราว 2,300 คน ที่ถูกจับแยกจากพ่อแม่ที่ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายตามนโยบายความอดทนเป็นศูนย์ต่อผู้อพยพผิดกฎหมาย ภายใต้รัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ทรัมป์   โดยปรากฏว่า ได้เงินถึง 13,000 เหรียญหรือราว 430,000 บาท แชนนอน คอฟริน แจ็กเกอร์โร แม่เด็กชายวัย 6 ขวบ ได้เล่าให้ลูกฟังว่าหลายครอบครัวต้องแยกจากกันโดยเจ้าหน้าที่ ในรัฐบาลของทรัมป์ ที่จุดพรมแดนประเทศสหรัฐฯ กับเม็กซิโก แจ็กเกอร์โรกล่าวว่า เมื่อบอกลูกๆ ว่าเด็กถูกจับแยกจากพ่อแม่ที่พรมแดนสหรัฐ ลูกๆ เศร้าไปด้วยอย่างเห็นได้ชัด ลูก 6 ขวบ เกิดความคิดว่าจะขายน้ำมะนาวเพื่อระดมเงินที่ได้จากการขายไปสนับสนุนคนที่ทำงานอย่างหนักเพื่อต่อต้านนโยบายอพยพที่ไร้ความเป็นมนุษย์ พอร้านน้ำมะนาวเปิดขาย ก็โด่งดังอย่างมากในโลกออนไลน์และมีคนสนใจกันอย่างล้นหลาม โดยจากเดิมที่ลูกชายตั้งเป้าระดมทุน 1,000 เหรียญ (33,000 บาท) กลับมียอดบริจากอย่างรวดเร็ว ได้ยอดเงินช่วยเหลือรวม 13,000 เหรียญ (430,000 บาท) เกินเป้าถึง 13 เท่า   เงินช่วยเหลือนี้จะถูกนำไปให้ศูนย์บริการด้านการศึกษาและกฎหมายสำหรับผู้อพยพและผู้ลี้ภัย หรือRAICES ซึ่งเป็นศูนย์ช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้อพยพ ที่รัฐเท็กซัส พรมแดนสหรัฐฯ กับเม็กซิโก     ที่มา : Independent

Read more

เด็ก 9 ขวบ ซนจนเกือบบอด จ้องเลเซอร์ตาทะลุ

เด็กชายวัย 9 ขวบคนหนึ่งในประเทศกรีซ ต้องสูญเสียมองเห็นบางส่วน หลังหยิบเลเซอร์ที่อยู่ในของเล่นที่พ่อซื้อให้ มาส่องตาตัวเอง จนลำแสงเผาตาเป็นหลุม แพทย์ได้สแกนดวงตาของเด็กคนนี้พบว่า มีหลุมขนาดใหญ่ที่บริเวณจอตาซ้าย ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าเด็กชายคนนี้มีปัญหาด้านการมองเห็น โดยเฉพาะการแยกแยะใบหน้าคน และอ่านคำต่างๆ แพทย์ผู้รักษาเด็กระบุว่า หลุมในดวงตาสามารถรักษาได้ด้วยการผ่าตัด แต่เด็กคนนี้มีอาการรุนแรงกว่านั้น เนื่องจากเส้นประสาทรอบดวงตาเสียหาย ไม่สามารถผ่าตัดได้ ทำให้เด็กชายคนนี้มีค่าสายตาแค่ 6/30 เท่ากับว่าเขาจะต้องเข้ามาดูวัตถุใกล้ๆ ในระยะ 6 เมตร จากคนที่มีสายตาปกติ สามารถมองเห็นได้ในระยะ 30 เมตร แพทย์เตือนว่า แสงเลเซอร์ที่อยู่ในของเล่นอันตรายมาก เพราะแสงเลเซอร์ไม่เหมือนกับแสงไฟฉายทั่วไป ซึ่งแสงเลเซอร์เป็นแสงตรงที่มีลำแสงเข้มข้น ขณะที่แสงไฟฉายจะกระจายออกทุกทิศทาง พ่อแม่จึงไม่ควรซื้อของเล่นที่เป็นเลเซอร์ให้ลูก และไม่แนะนำให้มองแสงนี้โดยตรง ที่มา : New England Medical Journal

Read more

หยุดตะโกนใส่ลูกๆ ของคุณ

จะเกิดอะไรขึ้นหากคุณตวาดลูกๆ แทนที่จะสอนดีๆ เมื่อคุณพบพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกๆ หรือไม่สามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ในขณะนั้น การตวาดจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูก  งานวิจัยจากมหาวิทยาลัย พิตส์เบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เผยว่า การตวาดลูกแทนที่จะสอนดีๆ จะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของลูกอย่างมีนัยยะสำคัญ โดยเด็กๆ ที่ถูกตวาดมักจะแสดงออกถึงความโกรธ ความก้าวร้าว การเห็นคุณค่าในตัวเองต่ำ และมีแนวโน้มที่จะมีอาการซึมเศร้า การตวาดมีผลเทียบเท่าการลงโทษด้วยการตี การตวาด ตะโกนมีผลทางอารมณ์ไม่ต่างกับการลงโทษทางกายภาพเลย คุณไม่สามารถที่จะคาดหวังให้ลูกๆ ประพฤติตัวให้ดีขึ้น และเรียนรู้ที่จะควบคุมอารมณ์ของตัวเองก่อน ปล่อยเด็กๆ อยู่ตามลำพัง หากยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้  แม้แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ตะโกน โดยหากคุณรู้สึกว่ากำลังควบคุมตัวเองไม่ได้ ให้ปล่อยเด็กๆ อยู่ตามลำพังสัก 2 - 3 นาที ให้อภัยตัวเองกับพฤติกรรมของลูก พฤติกรรมไม่ดีที่ลูกของคุณทำ อย่านำมาทำให้ตัวเองรู้สึกผิดพลาดไปซะทั้งหมด ให้คุณให้อภัยตัวเองบ้าง เรียนรู้จากความผิดพลาด อย่าลืมว่าความสัมพันธ์ของคุณกับลูก มีผลอย่างมากในการอบรมสั่งสอนลูก ถ้าเราอยากให้ลูกๆ เป็นเด็กที่ มีสุขภาพจิตที่ดี ให้หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรง จะเป็นทางออกที่ดีที่สุด

Read more

บางสิ่งที่มีอิทธิพลนอกจากการเลี้ยงดูสั่งสอนของพ่อแม่

“คุณหมอคะ ลูกดิฉันเป็นออทิสติก ตอนนี้อายุสิบปี รักษามาตั้งแต่เขายังเล็กๆ จนถึงตอนนี้ทั้งพ่อและแม่พยายามร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อจะทำให้ลูกดีขึ้น แต่บางครั้งลูกก็ยังมีพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่เหมาะสม   ลูกชายของคุณแม่ดูภายนอกก็เป็นเด็กน่ารักปกติ แต่มีการพูดจาที่ไม่ค่อยถูกกาลเทศะ เช่น บางครั้งก็จะพูดอะไรตรงๆ ตามที่คิด เมื่อวานคุณแม่พาเขาไปเที่ยวห้างแห่งหนึ่ง ตอนขึ้นลิฟท์ลูกชายก็พูดกับผู้หญิงคนหนึ่งว่า “อ้วนจัง กินขนมเยอะ ไม่ออกกำลังกายใช่ไหมเนี่ย”ลูกชายอาจจะจำที่แม่เคยสอนไว้ว่า ถ้าอยากแข็งแรงต้องไม่อ้วน ต้องออกกำลังกาย ไม่กินขนมเยอะ แม่ก็ตกใจมากแต่ห้ามลูกไม่ทันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นดูไม่พอใจมาก พูดเสียงดังกับแม่ต่อหน้าทุกคนว่า ทำไมไม่รู้จักสั่งสอนลูกให้พูดจาดีๆ ให้มีมารยาทสังคม เรารู้สึกแย่มากไม่อยากเป็นแม่ที่ไม่ดี   เราคงเคยได้ยินวาทกรรมของใครสักคน เวลาที่คนหนึ่งแสดงออกซึ่งพฤติกรรมที่ไม่ดี ทำความเดือดร้อนให้คนอื่น ก็จะมีพูดออกมาเป็นการตำหนิประมาณว่า ‘เป็นลูกพ่อแม่ไม่สั่งสอน’ ซึ่งคงเป็นการสื่อว่า การที่คนคนหนึ่งมีพฤติกรรมเลวร้ายแบบนั้น น่าจะเกิดจาก ‘การอบรมสั่งสอนของพ่อแม่ที่ไม่ดีและไม่เหมาะสม’ เป็นแน่แท้   ในความเป็นจริง การที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาเป็นคนแบบไหน คงไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงดูอย่างเดียวอย่างกรณีของลูกคุณแม่ ลูกชายมีโรคออทิสติกซึ่งเป็นความผิดปกติทางสมองอย่างหนึ่ง และถึงแม้จะเป็นเด็กทั่วไป ก็ไม่ใช่มีเฉพาะการเลี้ยงดูอย่างเดียวที่จะเป็นตัวกำหนดหลักว่าคนคนนั้นจะเป็นอย่างไร มีการทำวิจัยมากมายในสากลที่ต้องการพิสูจน์ความจริงข้อนี้   Nature VS Nurture ? หมายถึง ‘ธรรมชาติกำหนด’ หรือ ‘การอบรมดูแล’ อะไรจะมีผลมากกว่ากับการหล่อหลอมเด็กคนหนึ่งจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ งานวิจัยต่างๆ พบว่า คงไม่มีปัจจัยอย่างหนึ่งอย่างใดหรอกที่จะกำหนดว่า เด็กคนหนึ่งจะโตมาเป็นแบบไหน ทุกอย่างเป็น ‘ปัจจัยร่วมกัน’ ที่หล่อหลอมคนคนหนึ่งให้มาเป็นเช่นที่เห็นอยู่ในทุกวันนี้ แล้วปัจจัยอะไรบ้าง…

Read more

เลี้ยงลูกไม่ให้ชินชากับความรุนแรง

เดี๋ยวนี้สื่อต่างๆ ในประเทศไทย เช่น ละคร ข่าว ถ้าอะไรที่มีความรุนแรงเข้ามาเกี่ยวข้อง มักจะเป็นที่สนใจสำหรับคนทั่วไปมากเป็นพิเศษ ถ้าพูดกันตามหลักจิตวิทยา ก็คงเป็นเพราะสัญชาตญาณในส่วนลึกของมนุษย์ก็มีความต้องการทำตามใจตัวเองและแนวโน้มจะรุนแรงอยู่ เพียงแต่ถูกขัดเกลาด้วยการเรียนรู้ หล่อหลอมด้วยกฎระเบียบของสังคม ศีลธรรมและมโนธรรมในใจ การขัดเกลาจึงมีความสำคัญ เริ่มที่จุดที่สำคัญที่สุดคือการเลี้ยงดู อบรมสั่งสอนของพ่อแม่ และ สิ่งแวดล้อมที่ไม่สนับสนุนในเรื่องความรุนแรง แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง เพราะเราอยู่ในสังคมที่ความรุนแรงถูกมองเป็นเรื่องธรรมดา หรือตลกขบขัน เราเห็นได้จากในสื่อต่าง ๆ ทั้งในยูทูป ภาพยนตร์ รายการตลก จะเห็นบ่อย ๆ ว่า มุขตลกที่ถูกนำมาเล่นบ่อย ๆ คือ การที่คนคนหนึ่งกระทำความรุนแรงกับอีกคน ไม่ว่าจะเป็น การแกล้ง รังแก ทำให้อีกฝ่ายเจ็บตัว ที่หมอจำได้เลย เห็นบ่อย ๆ ตอนเด็ก ๆ คือ ภาพดาราตลกในรายการทีวีที่เอาถาดตีไปหัวอีกคน แล้วก็ขำกันไป หมอเคยคุยกับเด็กผู้ชายคนหนึ่ง พ่อแม่พามาตรวจเพราะเด็กชอบแกล้งเพื่อน เช่น ตบศีรษะ ผลักที่ตัว ใช้ขาขัดเวลาเพื่อนเดินผ่าน เพื่อนที่ถูกแกล้งมักจะมีอาการเจ็บเนื้อเจ็บตัว เพราะเด็กตัวใหญ่ แรงมาก ตอนที่คุยกับเด็ก ถามว่าทำไมถึงไปแกล้งเพื่อนล่ะ เด็กก็ตอบแบบไม่คิดอะไรว่า “ผมก็แค่อยากจะทำสนุก ๆ…

Read more

เตรียมลูกให้พร้อม..พึ่งพาตัวเอง

ไม่กี่เดือนก่อน หมอได้ดูละครเรื่องหนึ่ง ในละครเป็นฉากที่พ่อและลูกสาวกำลังพูดคุยกัน “ห๊า! รถราคาสิบล้าน” “ค่ะ ถูกมากนะคะ คุณพ่อซื้อให้พิมพ์นะคะ” “แต่ว่า พ่อเพิ่งออกรถให้หนูใหม่ไม่ถึงสามเดือนนี้เองนะ พ่อว่าอะไรที่ไม่จำเป็นอย่าเพิ่งซื้อเลย รถที่บ้านก็มีเยอะแยะ” “โธ่ คุณพ่อ พิมพ์อยากได้คันใหม่ นะคุณพ่อ” ด้วยความที่เป็นลูกสาวสุดที่รักยิ่งกว่าแก้วตา ในที่สุดพ่อก็ซื้อรถให้พิมพ์ แม้ว่าธุรกิจของพ่อจะมีปัญหาเรื่องการเงินอย่างหนัก ส่วนพิมพ์ก็ไม่เคยรู้ปัญหาของพ่อมาก่อนเลย แม่ของพิมพ์เสียไปตั้งแต่เด็ก เธอมีแต่พ่อที่เลี้ยงเธอมาตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งเลี้ยงเธออย่างเอาใจและตามใจทุกอย่าง เพราะพ่อมีฐานะร่ำรวย พิมพ์อยากได้อะไรพ่อก็ไม่เคยขัดใจ ทำให้เธอโตมาอย่างเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ยึดตัวเองเป็นจุดศูนย์กลาง ประมาณโลกต้องหมุนรอบตัว วีนเหวี่ยงไปทุกเรื่องที่ไม่ตรงตามใจเธอ โดยไม่สนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกหรือเป็นอย่างไร ที่ผ่านมาพ่อเป็นที่พึ่งพาและเป็นทุกอย่างของพิมพ์ ทำให้พิมพ์ไม่เคยทุกข์ร้อนหรือผิดหวังจากเรื่องใดๆ เพราะมีพ่อคอยช่วยเหลืออุ้มชูเสมอมา จนวันหนึ่งที่พ่อจากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ พร้อมกับทิ้งหนี้สินไว้กับธุรกิจล้มละลาย ชีวิตของพิมพ์ จากที่เป็นเหมือนกับหงส์ที่เฉิดฉาย ก็กลายเป็นดั่งหงส์ปีกหัก มีคำพูดหนึ่งของพ่อที่พูดไว้ก่อนที่จะจากไป “พิมพ์ ชีวิตของคนเรามันไม่แน่นอน พ่ออยากให้ลูกจำไว้ว่า ถ้าวันหนึ่งพ่อไม่มีเงินให้ลูกใช้เหมือนทุกวันนี้ แต่พ่อก็ยังรักลูกที่สุด” แต่การที่เด็กคนหนึ่งจะเติบโตมาเป็นคนที่พึ่งพาตัวเองได้ ความรักของพ่อแม่อย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ คงจะต้องมีทักษะชีวิตอื่นๆ ที่พ่อแม่ต้องปลูกฝังให้เด็กคนหนึ่งเรียนรู้ เพราะในชีวิตจริง ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ เวลาที่เป็นเด็กเล็กๆ สิ่งที่เด็กๆ อยากได้อาจจะเป็นของเล่น พอโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่นอาจอยากได้เสื้อผ้าใหม่ๆ รองเท้าสวยๆ หรืออย่างพิมพ์ที่อยากได้รถราคาแพง สิ่งของเหล่านี้ เงินซื้อมาได้ ถ้าหากมีเงินพอก็คงไม่ยากที่จะทำตามความต้องการ แต่ในชีวิตเราของบางอย่างที่ปรารถนา เงินอาจซื้อหามาไม่ได้ เช่น เพื่อนที่จริงใจ ความรักที่ดี สิ่งเหล่านี้ต้องแลกมาด้วยความจริงใจ…

Read more

เตรียมลูกเข้าโรงเรียน

ตั้งแต่คลอด เด็กๆ มักแวดล้อมไปด้วยพ่อแม่ ญาติพี่น้อง และสิ่งแวดล้อมที่คุ้นเคย หากพ่อแม่และบุคคลใกล้ชิดให้ความรักอย่างสม่ำเสมอ ตอบสนองอย่างเหมาะสม และสนับสนุนพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง ลูกก็น่าจะเติบโตขึ้นเป็นเด็กที่มั่นใจและพร้อมจะเผชิญโลกกว้างได้ เมื่ออายุ 2-3 ปี เด็กส่วนใหญ่จะเริ่มเข้าโรงเรียน การปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่ก็ไม่น่ายากนัก แต่หากพ่อแม่ไม่ได้เตรียมพร้อมก็อาจทำให้การปรับตัวเป็นไปได้ยาก พ่อแม่สามารถช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จ ในการปรับตัวกับการเข้าโรงเรียนได้โดยช่วยลูก เตรียมพร้อมในหลายๆ ประเด็น ดังต่อไปนี้ ให้ความสัมพันธ์ที่มั่นคง ความสัมพันธ์หรือความผูกพันที่มั่นคงเกิดจากการที่ลูกกับพ่อแม่มีปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ได้ และเหมาะสม เด็กเล็กต้องการการสัมผัส การโอบกอด การเล่น ที่เขารู้สึกได้ว่ามีความสนุกร่วมกัน มีความสนใจร่วมกัน รวมทั้งมีการชื่นชมด้วยหากมีโอกาส ความผูกพันที่มั่นคงนี้ จะช่วยให้ลูกรู้สึกมั่นคงในอารมณ์และมั่นใจในตนเองตามมา ให้ลูกช่วยเหลือตัวเอง พ่อแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้ช่วยเหลือตัวเองเท่าที่จะทำได้ในกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตัวเขาเอง เช่น การอาบน้ำ การแต่งตัว การใส่รองเท้า การกินข้าว การเก็บของเล่น เป็นต้น แน่นอนในวัย 2-3 ปี ยังทำกิจวัตรเหล่านี้ได้ไม่สมบูรณ์ แต่พ่อแม่ก็ควรเปิดโอกาสให้ทำเองโดยไม่ต้องคาดหวังผลเลิศนัก ในการกินลูกอาจจะยังใช้ช้อนไม่คล่อง อาจใช้มือหยิบจับของเข้าปากบ้าง อาจหกเลอะเทอะบ้าง พ่อแม่ต้องยอมให้เกิดขึ้นได้โดยไม่หงุดหงิด พร้อมทั้งแสดงความชื่นชมหากลูกทำได้ดี ในการ แต่งตัวลูกอาจเก้ ๆ กัง ๆ พ่อแม่ก็คงต้องเข้าไปช่วยบ้างตามความเหมาะสม…

Read more