เกมฝึกสมองสุดฮิตตลอดกาลที่ทุกบ้านมักหามาให้เด็ก ๆ ได้เล่นกันก็คือบัตรคำหรือ Flash Card นั่นเอง เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านน่าจะคุ้นเคยกับบัตรคำกันมาพอสมควรค่ะเหตุผลอันดับต้น ๆ ของคุณพ่อคุณแม่ที่เลือกสรรหาบัตรคำมาให้ลูกเล่น เพราะต้องการให้ฝึกฝนด้านความจำไปพร้อม ๆ กับการเรียนรู้ลูกเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ บัตรคำอาจจะมีภาษาเดียวหรือหลายภาษาและสำหรับเด็กเล็กแล้วต้องมีรูปเพื่อให้เด็กเชื่อมโยงคำกับภาพจึงจะเกิดความเข้าใจในศัพท์คำนั้นง่ายยิ่งขึ้น
มาดูประโยชน์ของบัตรคำต่อการเรียนรู้และพัฒนาการของลูกน้อยกันค่ะ
ฝึกความจำ เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์ในภาษาไทย หากบัตรคำมีหลายภาษาก็จะเรียนรู้ภาษาอื่น ๆ ไปด้วยในตัว เรียนรู้เกี่ยวกับเลขจากบัตรคำตัวเลข ช่วยให้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย เนื่องจากบัตรคำมีหลายหมวดหมู่นอกจากตัวอักษรหรือเลขแล้วยังมี หมวดเกี่ยวกับ สัตว์ต่าง ๆ ยานพาหนะ อาชีพ พืช สิ่งของ ฯลฯ พกพาไปเล่นที่ไหนก็ได้สะดวกทุกที่เพราะมีขนาดเล็กและเบา ช่วยให้มีกิจกรรมเพลิดเพลินทำระหว่างเดินทาง ลูกไม่เบื่อหากต้องรอคอยนาน ๆ
ถ้าจะให้การเล่นบัตรคำหรือ Flash Card ของลูกได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ อย่าทำให้เป็นเรื่องวิชาการอันแสนจะเคร่งเครียดค่ะ ชวนลูกในบรรยากาศผ่อนคลายสบาย ๆ ให้ลูกรู้สึกว่าเป็นเกมหนึ่งที่ลูกสามารถใช้เวลาอย่างมีความสุขสนุกสนานร่วมกับคุณพ่อคุณแม่ การเรียนรู้ของเด็กก็จะเกิดขึ้นได้ไม่ยากค่ะ
ทราบข้อดีทั้ง 5 ข้อนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่อย่าลืมหาบัตรคำมาให้ลูกเล่นนะคะ
มาดูกันว่ามีไอเทมใดจำเป็นบ้างเมื่อต้องพาลูกไปเที่ยวไกล ๆ ไม่ว่าจะเป็นต่างจังหวัดหรือต่างประเทศค่ะ
1.คาร์ซีท เพื่อความปลอดภัยของลูกยามเดินทาง เด็กควรจะนั่งอยู่บนเบาะนิรภัยเสมอ การอุ้มเด็กนั่งเบาะหลังก็ไม่ปลอดภัยนะคะหากเกิดอุบัติเหตุเด็กมีโอกาสกระเด็นออกนอกรถได้ *แนะนำ : คาร์ซีทขนาดพกพา mifold เป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยม ด้วยขนาดเล็กนิดเดียวแต่คุณภาพมาตรฐานยุโรปและยังราคาเบา ๆ
2.ทิชชู่เปียกทิชชู่แห้ง ทิชชู่โดยเฉพาะทิชชู่เปียกเป็นตัวช่วยที่ดีของแม่ ๆ ค่ะ เพราะมันช่างสารพัดประโยชน์ เช็ดทำความสะอาดได้ตั้งแต่ใบหน้าปากมือลูก มือแม่ เช็ดโต๊ะ เช็ดกระเป๋า ไม่มีน้ำก็ทำความสะอาดได้ อย่าลืมเลือกยี่ห้อที่ปราศจากน้ำหอมและสารเคมีที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองสำหรับเด็กนะคะ
3.ผ้าอ้อมสำเร็จรูป พกไปให้พอค่ะ มีประโยชน์มากสำหรับการเดินทางไกล ตอนจัดกระเป๋าทำ checklist เอาไว้ก็ดีค่ะกันลืม ของสำคัญอย่างนี้ขาดไม่ได้ ถ้าไม่ค่อยได้ใช้พยายามเลือกที่ขอบขากระชับ ซึมซับดี ไม่อับชื้น และลูกเคลื่อนไหวสบาย
4.เสื้อผ้า จัดเสื้อผ้าพกติดกระเป๋าสะพายติดตัวไว้ด้วยค่ะ เผื่อเจ้าตัวเล็กทำเสื้อผ้าเพื่อนจะได้มีเปลี่ยน เสื้อผ้าคุณแม่ด้วยนะคะบางทีคุณลูกเผื่อแผ่ความเลอะเทอะมาถึงคุณแม่ด้วย
5.กระติกน้ำ ระหว่างเดินทางเด็กไม่ควรขาดน้ำเพราะอาจเป็นอันตรายได้ โดยเฉพาะถ้าอาการร้อนจัด การให้เขาพกกะติกน้ำเป็นการฝึกให้เขารู้จักดูแลตัวเอง *แนะนำ : Gululu…
ลูกไม่กินผักเป็นปัญหาคลาสสิคทุกบ้าน เวลาลูกไม่กินผักคุณแม่มักจะกังวล กลัวลูกขาดสารอาหารอย่างวิตามินและเกลือแร่ต่าง ๆ ที่มักจะมีอยู่ในผักและผลไม้ การบังคับ ติดสินบน หลอกล่อ หรือพูดซ้ำซาก ปัญหาที่ตามมาคือลูกต่อต้าน แล้วเราจะทำยังไงดี
มีข้อแนะนำมาฝาก 6 ข้อค่ะ
1.อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ อย่าให้ลูกรู้สึกว่าการไม่กินผักของเขาเป็นเรื่องซีเรียส การบังคับขู่เข็ญหรือการพยายามเชียร์ลูกมากเกินไป บ่อยไป อาจจะทำให้ลูกแอนตี้ผักไปเลย เพราะผักมาทีไรบรรยากาศเครียด
2.ฝึกตั้งแต่เล็ก ตั้งแต่ลูกยังไม่ถึงวัยปฏิเสธ พออายุลูกเลย 6 เดือนไปแล้ว เป็นเวลาที่คุณแม่จะเริ่มให้ลูกทำความรู้จักกับอาหารอย่างอื่นนอกเหนือจากการให้นมเพียงอย่างเดียว ระหว่างช่วง 6 เดือนถึง 1 ปีแรก ค่อย ๆ ให้เขาเริ่มทำความรู้จักกับผักทีละชนิดเลือกที่รับประทานง่าย พอคุ้นเคยแล้วค่อยให้เขาได้รับประทานผักหลากหลายชนิด
3.สร้างบรรยากาศการกินผัก บนโต๊ะอาหารต้องมีผักที่ผู้ใหญ่และเด็กรับประทานง่ายด้วย ให้ลูกนั่งโต๊ะอาหารพร้อมคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่เล็ก จัดเมนูผักต่าง ๆ สับเปลี่ยนหมุนเวียนให้เขาเห็นและทำความรู้จัก พอเขาโตหน่อยอาจให้เขาลองบ้างไม่บังคับ
4.เป็นตัวอย่างของคนรักผัก คุณพ่อคุณแม่ต้องกินผักด้วย ระหว่างมื้ออาหารคุณพ่อคุณแม่อาจพูดคุยกันเองถึงความอร่อยของผักเป็นการเชิญชวนเขาอย่างหนึ่งโดยไม่ต้องบังคับลูก
5.เมนูมัดใจ ทำอาหารหน้าตาน่ารักน่ารับประทาน ปรับเปลี่ยนเมนูหลาย ๆ…
เส้นใยอาหารมีมากในผักและผลไม้ ทำอย่างไรจึงจะให้ลูกได้รับอย่างเพียงพอ มาฟังข้อแนะนำค่ะ
ใยอาหาร คือ อะไร
เป็นคาร์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่ มีทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ พบมากในผัก ผลไม้ และธัญพืช ใยอาหารจะไม่ถูกดูดซึมในระบบทางเดินอาหาร แต่จะเดินทางไปจนถึงลำไส้ ทำหน้าที่กวาดสิ่งที่ร่างกายไม่ต้องการขับถ่ายออกมา เพื่อไม่ให้มีสิ่งตกค้างในลำไส้
เส้นใยอาหารมีประโยชน์สูง
ร่างกายคนเราต้องการใยอาหาร ที่มีในผัก ผลไม้ ธัญพืช ถ้าได้รับพอเพียงสิ่งที่ได้แถมมาก็คือวิตามินเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
การกินอาหารที่มีเส้นใยในปริมาณที่เพียงพอ จะช่วยให้การทำงานของลำไส้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นระบบทางเดินอาหาร กระตุ้นการขับถ่าย ช่วยกำจัดของเสียหรือสารพิษออกจากร่างกาย เส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์นี้ยังช่วยป้องกันปัญหาท้องผูก โดยเฉพาะในเด็กที่กินผักผลไม้และน้ำน้อย
กินเส้นใยเท่าไหร่ดี
โดยทั่วไปใน 1 วัน เด็กควรได้รับอาหารหลัก 3 มื้อ โดย 1 มื้อควรประกอบด้วย ข้าวกล้อง หรือข้าวสวยนิ่ม ๆ 1 - 1.5 ทัพพี เนื้อสัตว์ต่างๆ สลับกับไข่หรืออาหารทะเล 1 ช้อนโต๊ะใยอาหารจากผักใบเขียว…
คุณแม่คงเคยเห็นเด็กบางคนเพลิดเพลินกับการกินผักโดยไม่ต้องให้ผู้ใหญ่คอยกำกับเลยแม้แต่น้อย เห็นแล้วปลื้ม แต่พอย้อนกลับมามองลูกเราเอง คุณแม่หลายคนรู้สึกว่าการจะทำให้ลูกกินผักนั้นเป็นโจทย์ยากและโจทย์ใหญ่ในใจของคุณแม่มาตลอด อย่าเพิ่งท้อใจไปค่ะ ลองหลาย ๆ วิธีค่อย ๆ ทำทีละน้อยก็จะช่วยให้ลูกกินผักได้
มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากค่ะ
1.คุณพ่อคุณแม่ต้องเป็นต้นแบบที่ดีภายในบ้าน ให้ลูกนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับคุณพ่อคุณแม่ตั้งแต่เด็กๆให้เขาเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่เองก็กินผักเป็นเรื่องปกติและเอร็ดอร่อยไปกับผักต่าง ๆ
2.เมื่อลูกถึงวัยเริ่มต้นกินอาหารเสริม ไม่มีกลิ่นฉุนรถไม่ขมก่อน เพื่อสร้างความประทับใจในรสชาติของผัก ผักที่รับประทานง่ายอย่าง เช่น แคร์รอต ฟักทอง ตำลึง ผักกาดขาว ฯลฯ
3.ตกแต่งเมนูผักให้น่ารับประทาน ใช้สีเขียว แดง ส้ม เหลือง หรือม่วง ในอาหารเพื่อดึงดูดความสนใจของลูก เพราะเด็ก ๆ ชอบสีสันสดใสค่ะ
4.เด็ก ๆ มักจะชอบกินอาหารที่มีรสสัมผัสกรอบ คุณแม่ลองคิดค้นเมนูผักกรอบ อาจจะชุบแป้งทอด อบกรอบ หรือหั่นผักและผลไม้สดที่มีความกรอบแช่เย็นไว้ให้ลูกรับประทาน
5.ชวนลูกปลูกผักในกระถางน่ารัก ๆ เลือกผักที่โตง่าย จะเพาะเมล็ดหรือซื้อมาทั้งกระถางเลยก็ได้ ให้เขามีส่วนร่วมดูแล รดน้ำต้นไม้ และตัดมารับประทาน
สู้ ๆ…
ในสายตาของแม่ ๆ และหลายคน ขนมกรุบกรอบมักจะเป็นผู้ร้ายทำลายสุขภาพลูก ความจริงแล้วขนมกรุบกรอบไม่ได้เป็นผู้ร้ายไปเสียทั้งหมด ขึ้นอยู่กับการเลือกด้วยค่ะและทุกวันนี้ก็มีขนมที่ดีกับเด็กให้เลือกอยู่มิใช่น้อย เพียงแค่คุณแม่มองหาเท่านั้นเองค่ะ
ทำไมถึงแนะนำขนมกรุบกรอบ นั่นก็เพราะเมื่อเด็ก ๆ หรือแม้แต่ผู้ใหญ่ก็ตามถ้าได้กินอะไรกรอบ ๆ บ้างก็จะรู้สึกมีความสุข และความสุขนั้นก็ต้องมาพร้อมกับสุขภาพที่ดีด้วยค่ะ
กรุบกรอบแบบนี้ควรเลี่ยง
ไขมันสูง รสหวานจัดมีน้ำเป็นส่วนผสมมาก รสเค็มจัด มีแต่แป้งล้วน ๆ ใส่ผงชูรส ปรุงแต่งสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นสีกลิ่นรสชาติสารกันบูด
กรุบกรอบแบบนี้ OK
ไขมันและน้ำตาลน้อย ใช้ผักหรือผลไม้แท้ ๆ หรือมีส่วนผสมของผักและผลไม้ไม่ใช่แป้งไม่ใช่แป้งผัดขาวล้วน ๆ ทำให้กรอบด้วยการอบแห้งหรือทอดกรอบด้วยน้ำมันน้อยหรือกำจัดน้ำมันออกไปแล้ว ธัญพืชต่าง ๆ เช่นถั่ว ลูกนัทต่าง ๆ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ฯลฯ ไม่ปรุงแต่งสีกลิ่นรส หรือสารเคมีต่าง ๆ
อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่ให้ลูกกินขนมกรุบกรอบแล้วต้องควบคุมปริมาณการกินให้เหมาะสม และอย่าให้ใกล้มื้ออาหารเพราะลูกจะอิ่มไม่ยอมหม่ำข้าวค่ะ
การเลือกพี่เลี้ยงเด็กซักคนไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากดูนิสัยใจคอว่าน่าไว้วางใจ ใจเย็น ใจดี อดทนกับการดูแลเด็กได้จะไม่ทำร้ายลูกเราแล้ว คุณแม่อย่าลืมดูเรื่องความสะอาดและสุขภาพของคนที่จะมาเป็นพี่เลี้ยงด้วยนะคะ
มีโรคติดต่ออะไรบ้าง
เด็กเล็กโดยเฉพาะเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ขวบภูมิต้านทานยังอ่อนจึงมีโอกาสรับเชื้อได้ง่าย เป็นแล้วอาการอาจรุนแรง โรคต่าง ๆ ที่พบว่ามีโอกาสติดได้บ่อยเช่น วัณโรค HIV ซิฟิลิส เริม กระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบ โลหิตเป็นพิษ ไข้ไทฟอยด์ อหิวาต์ ไวรัสตับอักเสบ โรคติดเชื้อทางผิวหนัง เหา และพยาธิ ฯลฯ ถ้าเป็นพี่เลี้ยงต่างด้าวปรึกษาคุณหมอว่าประเทศนั้น ๆ มักจะมีโรคติดเชื้ออะไรบ้าง
แล้วจะทำยังไงดี
ในศูนย์พี่เลี้ยงบางแห่งอาจมีใบรับรองการตรวจสุขภาพของพี่เลี้ยง แต่ถ้าไม่มีหรือคุณแม่ไม่มั่นใจก็พาไปตรวจสุขภาพได้ โรงพยาบาลบางแห่งมีแพกเกจตรวจสุขภาพพี่เลี้ยง ถ้าไม่มีลองปรึกษาคุณหมอว่าควรตรวจอะไรบ้าง รวมทั้งรับวัคซีนป้องกันโรค เช่น วัคซีนไวรัสตับอักเสบเอ บี ซี และวัคซีนป้องกันวัณโรค
สอนเรื่องความสะอาด
มาตรฐานความสะอาดของคุณแม่และพี่เลี้ยงอาจไม่เท่ากันค่ะ สอนให้พี่เลี้ยงเรื่องสุขอนามัยและความสะอาด เช่น ความสะอาดร่างกาย การล้างมือ ไม่กินของร่วมกัน ไอจามปิดปาก…
คุณแม่ที่เพิ่งเริ่มให้นมลูกอาจสงสัยว่าน้ำนมแม่เก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาหรือช่องแข็งได้นานแค่ไหน เพื่อความสะดวกเวลาใช้ ไม่จำเป็นต้องเก็บเข้าช่องแข็งเสมอไป
มาดูกันเลยค่ะว่าแต่ละที่เก็บได้นานเท่าไหร่
1.อุณหภูมิห้อง (อุณหภูมิต้องไม่เกิน 25 องศาเซลเซียส) เก็บได้นานประมาณ 6 ชั่วโมง
2.ในตู้เย็นช่องธรรมดา (อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียสขึ้นไป) เก็บได้นานประมาณ 5 วัน
3.ในช่องแข็งหรือฟรีซเซอร์ตู้เย็นประตูเดียว เก็บได้นานประมาณ 2 สัปดาห์
4.ในกล่องเก็บความเย็นใส่ ice pack ไว้ในกล่อง กะปริมาณว่าเย็นอยู่นานพอไม่หายเย็นเร็วเกินไปก็จะเก็บได้ประมาณ 24 ชั่วโมง เหมาะกับการเดินทางใกล้ ๆ ค่ะ
น่ารู้
ถ้าคุณแม่จะใช้น้ำนมภายใน 2-3 วัน การแช่เย็นช่องธรรมดาเหมาะกว่าการแช่แข็งนอกจากนะดวกแล้วยังรักษาสารป้องกันการติดเชื้อในน้ำนมเอาไว้ได้ การละลายนมแช่แข็งควรวางไว้ในช่องแช่เย็นธรรมดา จะสามารถเก็บได้ไม่เกิน 24 ชั่วโมง นมที่นำมาละลายแล้วห้ามนำกลับไปแช่แข็งอีก
ใครๆ ก็อยากมีผิวเนียนใสอ่อนวัยแบบเด็ก แต่การเผชิญกับฝุ่นควัน มลภาวะ แสงแดด ความเครียด กินไม่สมดุล นอนไม่พอ ก็ทำให้มีปัญหาผิวได้ mother&care แนะนำ 4 วิธีช่วยแม่ๆ ผิวดีแบบผิวเด็กค่ะ
1.ใช้น้ำเย็นล้างหน้าแทนน้ำอุ่น เพราะความเย็นของน้ำจะช่วยกระชับผิวหน้า ช่วยห้รูขุมขนกระชับขึ้น ลดถุงใต้ตา แถมยังช่วยลดผดผื่น ลดการอักเสบของผิวเมื่อต้องออกไปเผชิญกับแสงแดดจัดได้อีกด้วย
2.ออกกำลังกายจริงจัง การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต พาออกซิเจนและสารอาหารเข้าไปหล่อเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ รวมถึงผิวหนังด้วย
3.รับแสงแดดอ่อนตอนเช้า ช่วงเวลา 06.00-08.00 น.มีวิตามินดี ช่วยสร้างกระดูและฟันแล้ว ยังดูแลผิว และสร้างเกราะป้องกันผิวจากมลภาวะต่าง ๆ ได้ดี
4.รักษาความชุ่มชื้นของผิว ความชุ่มชื้นของผิวช่วยให้ผิวนุ่มนวลชุ่มชื่น และเเป็นเกราะป้องกันมลภาวะไม่ให้เข้ามาทำลายผิวได้ง่าย
ทั้ง 4 เคล็ดลับช่วยให้คุณแม่มีผิวที่อ่อนวัยและมีสุขภาพผิวที่ดีไปอีกนานค่ะ
คุณแม่อาจกังวลใจว่าจะคลอดเมื่อไหร่ ลองสังเกต 3 อาการนี้ค่ะ
1.มีมูกเลือดออกมาทางช่องคลอด ลักษณะแบบมูกเหนียว ๆ ข้น ๆมีเลือดปนอยู่
2.น้ำคร่ำเดิน น้ำคร่ำที่ว่านี้อยู่ในถุงน้ำคร่ำพยุงตัวทารกอยู่ มีลักษณะเป็นน้ำใส ๆ คล้ายปัสสาวะ แต่ไม่มีกลิ่น และสีอาจจะขุ่นเล็กน้อย อาจไหลออกมาน้อยหรือมากก็ได้ต่างกันไปในแต่ละคนค่ะ
3.เจ็บท้องจริง อาการเจ็บจะรุนแรงขึ้น เจ็บสม่ำเสมอต่อเนื่อง เจ็บนานและถี่ขึ้น ไม่หายไปอย่างที่เคยเจ็บหลอกคราวก่อน ๆ ลักษณะเจ็บจะเริ่มตรงส่วนบนมดลูกแล้วเจ็บร้าวลงไปข้างล่าง ถ้าเจ็บทุก ๆ 10 นาทีก็แสดงว่าจวนคลอดแล้ว
ถ้ามีอาการเตือนอย่างใดอย่างหนึ่งควรรีบไปโรงพยาบาลได้ทันทีค่ะ ไม่ต้องให้อาการครบทั้ง 3 ข้อ สัญญาณเหล่านี้บอกชัดว่าจวนจะคลอดแล้วอย่าลืมโทรแจ้งโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ค่ะ
ทำใจให้ผ่อนคลาย หลังจากเริ่มมีอาการเตือนโดยทั่วไปโดยเฉพาะท้องแรกมักจะเจ็บท้องนาน 8-12 ชั่วโมงก่อนคลอด แต่อย่างไรก็ตามต้องรีบไปโรงพยาบาลค่ะ เพราะถ้าหากเกิดปัญหาหรือพบความผิดปกติคุณหมอและคุณพยาบาลจะให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที