กิจกรรมครอบครัว เสาร์-อาทิตย์ไม่รู้จะชวนลูกมาทำกิจกรรมอะไรแล้ว เพราะลูกเบื่อกิจกรรมเดิม ๆ ไปเสียหมด แต่ไม่อยากให้เขาอยู่นิ่งเดียวดาย เพราะอยากชวนลูกมาเล่นในวันหยุดเพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้ครอบครัวอบอุ่นกันมากขึ้น แถมยังได้กระตุ้นพัฒนาการด้านต่าง ๆ ของลูกอีก ว่าแต่จะมีกิจกรรมอะไรใหม่ ๆ มาให้คุณ
โคลิค พบมากในเด็กทารก ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่คิดว่าเด็กทารกเป็นแบบนี้แล้วปกติ เพราะบ้านอื่นก็เป็น แต่ถ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่ลูกกำลังเป็นอยู่ในทุก ๆ วัน ทุก ๆ คืนนี้ เป็นสัญญาณเตือนของอาการโคลิค
แพ้นมวัว อาหารยอดฮิตอันดับ 1 ในหมู่ของเด็กน้อย ที่ทำเอาพ่อแม่หลายคนเครียดจนกุมขมับไปเลยว่าถ้าลูกไม่กินนมวัวแล้วจะให้กินอะไรหล่ะที่นี้ เพราะอาหารหลายอย่างนั้นแทบจะมีส่วนผสมของนมวัวปนไปหมดซะทุกอย่าง
ดูดนิ้ว พฤติกรรมปกติของเด็กน้อยหลายคนยิ่งในช่วงอายุประมาณ 1 ขวบขึ้นไปแล้วด้วย ยิ่งมักพบเห็นกันบ่อยมาก ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่กลับเป็นปัญหาหนักใจของพ่อแม่เป็นอย่างมาก
ฝันร้าย ในทารกมีด้วยหรอ ทั้งที่ ๆ เพิ่งเกิดมาจะฝันถึงอะไรได้หล่ะ ? เราอยากบอกเลยว่าทุกคนล้วนมีความฝันและเคยฝันมาทั้งนั้นไม่ว่าจะร้ายหรือดี ร่วมไปถึงลูกน้อยของเราด้วยถึงแม้ยังเกิดมาใช้ชีวิตบนโลกใบนี้เพียงไม่ 1 ปีเขาก็มีความฝัน
การนอนของทารก เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะส่วนใหญ่แล้วทารกมักใช้เวลาไปกับการนอนมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่าเพื่อพัฒนาสมองและร่างกายให้สมบูรณ์
ดนตรีเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
ทั้งด้านสติปัญญาและอารมณ์ สำหรับเด็กที่เล็กเกินกว่าจะหัดเล่นเครื่องดนตรี
คุณพ่อคุณแม่สามารถปลูกฝังให้เขารักในเสียงดนตรีได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ด้วยการชวนฟังเพลง
ร้องเพลง และเต้นตามท่วงทำนองบ่อยๆ เมื่อถึงวัยที่เหมาะสม
เขาก็จะเกิดความอยากฝึกเล่นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
ไม่ว่าจะอยากให้ลูกน้อยเติบโตขึ้นเป็นนักดนตรีในอนาคต
หรือเล่นเป็นงานอดิเรกเพื่อกล่อมเกลาจิตใจ ดนตรีก็เป็นสิ่งที่ดีต่อเด็กๆ แน่นอน
ลองมาทำความรู้จัก 10 เครื่องดนตรีที่เหมาะให้เด็กฝึกเล่นกันดีกว่า
1. เปียโน เปียโนช่วยให้เด็กๆ เข้าใจทฤษฎีดนตรีได้ง่ายกว่าเครื่องดนตรีชนิดอื่น อีกทั้งยังฝึกง่ายเพราะแค่ใช้นิ้วกดลงไปที่ปุ่มเดียวก็มีเสียงออกมาแล้ว การเริ่มฝึกจากเปียโนจึงทำให้เด็กมีพื้นฐานทางดนตรีที่ดีและสามารถต่อยอดไปสู่การฝึกเล่นเครื่องดนตรีอื่นๆ ได้
2. กีตาร์ เด็กๆ หลายคนมักอยากฝึกเล่นกีตาร์เพราะเห็นต้นแบบจากนักดนตรีที่ชื่นชอบหรือคนใกล้ตัว เขาจึงเกิดแรงบันดาลใจอยากเก่งเหมือนไอดอลในดวงใจ ซึ่งการฝึกกีตาร์ก็มีลักษณะคล้ายเปียโนตรงที่ช่วยสอนพื้นฐานด้านดนตรีเช่นกัน
3. เบส เบสเป็นเครื่องดนตรีที่มักถูกมองข้าม แต่จริงๆ แล้วเวลาเล่นเป็นวง เสียงเบสมีความสำคัญมากเพราะเป็นสิ่งที่ช่วยคุมจังหวะและเป็นตัวประสานให้เพลงแน่นขึ้น ส่วนในแง่ของการฝึกฝน ด้วยความที่เบสมี 4 สาย เด็กๆ จึงทำความเข้าใจเรื่องคอร์ดได้ไม่ยาก แต่ก็ต้องออกแรงนิ้วในการกดพอสมควร จึงอาจต้องเริ่มฝึกจากเครื่องสายประเภทอื่นก่อนแล้วค่อยขยับมาเป็นเบส
4. อูคูเลเล่ อูคูเลเล่ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่เด็กๆ เพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา สายนิ่ม และมีคอร์ดพื้นฐานที่ง่ายต่อการเรียนรู้ นอกจากนี้ ยังเป็นเครื่องดนตรีที่เสียงไม่ค่อยดังมาก จึงสามารถฝึกบ่อยๆ ได้เกือบทุกที่เพราะไม่ส่งเสียงรบกวนคนรอบข้าง
5. กลอง กลองเป็นเครื่องดนตรีที่สนุกมาก และเมื่อโตขึ้นลูกของคุณจะได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้ในการแสดงออกทางความรู้สึก การฝึกกลองช่วงแรกๆ จะเน้นเรื่องการจับจังหวะเป็นหลัก เด็กจึงชอบที่ไม่ต้องทำความเข้าใจทฤษฎีดนตรีอันซับซ้อน และทุกวันนี้ก็มีหูฟังสำหรับกลองชุดแล้ว…
ไม่มีเด็กคนไหนไม่ชอบเล่น
นอกจากการเล่นจะทำให้เด็กๆ สนุกสนานและสุขภาพจิตดีแล้ว
ยังเป็นวิธีเรียนรู้และฝึกฝนทักษะต่างๆ ที่ดีที่สุดอีกด้วย
ในกระบวนการเติบโตและพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ เด็กๆ
ต้องการเวลาและความเอาใจใส่จากคนใกล้ตัวที่พร้อมจะเล่นสนุกไปกับเขา
โดยเฉพาะลูกคนแรกหรือลูกคนเดียวที่ไม่มีพี่น้องคอยเล่นด้วยยิ่งขี้เหงามากเป็นพิเศษ
ในบางกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ยุ่งกับงานจนไม่มีเวลา
อาจให้เขาเข้ามามีส่วนร่วมกับการช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ เช่น ช่วยทำงานบ้านก็ได้
เพราะเด็กสามารถเรียนรู้จากทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นรอบตัว
และมองทุกอย่างให้เป็นเรื่องสนุกได้เสมอ
เคล็ดลับการเล่นกับลูกให้สนุกและส่งเสริมพัฒนาการ
รวบรวมกิจกรรมหลายๆ อย่างที่เหมาะสมกับวัยมาให้เขาเป็นคนตัดสินใจเลือก โดยกิจกรรมเหล่านั้นควรมีความสนุก ดึงดูดใจ และช่วยส่งเสริมพัฒนาการ ควรให้เวลากับลูกมากๆ และชักชวนเขาเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมของผู้ใหญ่บ้าง เช่น ช่วยกันตรวจสอบลิสต์รายการของที่ต้องซื้อ กิจกรรมนี้จะทำให้เขาได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่เป็นจำนวนมาก การเล่นสามารถเป็นการออกกำลังกายไปได้ในตัว ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กวัยกำลังโต อย่าลืมพาเขาออกไปใช้ชีวิตกลางแจ้งให้ได้วิ่งเล่นตามประสาเด็กบ้าง
การเล่นที่ดีควรเป็นแบบไหน
การเล่นต้องให้ความสนุกสนานเพลิดเพลิน ไม่จำเป็นต้องวางเป้าหมายเพื่อเอาชนะ เกิดขึ้นจากความสมัครใจไม่ได้ถูกบังคับ ส่งเสริมให้เด็กได้มีส่วนร่วมและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ส่งเสริมการใช้จินตนาการและความคิดสร้างสรรค์
สิ่งสำคัญคือเด็กควรได้เล่นของเล่นที่เหมาะสมกับวัย ของเล่นบางหรูหราราคาแพง แต่มีกลไกซับซ้อนเกินไปสำหรับเด็กเล็ก เขาก็อาจรู้สึกว่าของเล่นชิ้นนั้นเล่นยากเกินไป หรือบางทีถ้าถูกคุณพ่อคุณแม่ควบคุมห้ามปรามบ่อยๆ เช่น “อย่าจับแรงนะลูก มันแพงเดี๋ยวพังง่าย” เด็กก็อาจรู้สึกหมดสนุกกับการเล่น ของเล่นที่ดีจึงไม่จำเป็นต้องแพง จะเป็นของที่ประดิษฐ์ขึ้นเองก็ได้ ขอเพียงแค่ปลอดภัยและส่งเสริมการเรียนรู้ เท่านี้ก็เพียงพอ
คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงเคยเห็นคลิปวิดีโอน่ารักๆ
เวลาเด็กเล็กอยู่กับสัตว์เลี้ยง และรู้สึกชอบใจอยากให้ลูกมีโมเมนต์แบบนั้นบ้าง นอกจากน่ารัก
สัตว์เลี้ยงยังมีประโยชน์ต่อพัฒนาการของลูกน้อยในด้านต่างๆ ด้วย
เด็กที่คลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำจะได้รับการปลูกฝังให้มีนิสัยอ่อนโยน มั่นใจ
ไม่โดดเดี่ยว และมีทักษะการเข้าสังคมที่ดี โดยเฉพาะน้องหมา
น้องแมวที่ฉลาดและเข้ากับมนุษย์ได้ดี นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยที่ระบุว่า
เด็กที่โตมากับสัตว์เลี้ยงในบ้านจะมีภูมิคุ้มกันต่อโรคภูมิแพ้และหอบหืดสูงกว่าเด็กทั่วไปด้วย
แต่ก่อนจะรับสัตว์มาเลี้ยง
คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจว่าจะรับมือกับภาระที่เพิ่มขึ้นได้
และใส่ใจเรื่องความปลอดภัยให้มากที่สุด
1. อย่าปล่อยให้เขาอยู่ด้วยกันตามลำพัง
ไม่ว่าน้องหมาน้องแมวจะเชื่องแค่ไหน
แต่สัตว์ก็ยังมีสัญชาตญาตบางอย่างที่เจ้าของไม่สามารถควบคุมได้ทั้งหมด
คุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรปล่อยให้ลูกน้อยคลาดสายตา เพราะบางทีเด็กๆ
อาจเผลอเล่นกับเจ้าสี่ขาแรงเกินไปโดยไม่รู้ตัว จนเป็นเหตุให้ถูกโจมตีกลับได้
2. อย่าให้ลูกกวนสัตว์เลี้ยงตอนหลับ
สัตว์ต้องการเวลาพักผ่อนและความเป็นส่วนตัวบ้างไม่ต่างจากมนุษย์
ถ้าเขากำลังหลับเราก็ไม่ควรปล่อยให้ลูกน้อยเข้าไปรบกวน
เพราะเขาอาจสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจและทำอันตรายกับเด็กๆ ได้
3. อย่าให้ลูกขึ้นขี่หลังหรือนั่งทับสัตว์เลี้ยง
คุณพ่อคุณแม่บางคนชอบนำเด็กไปวางบนหลังสัตว์เลี้ยง
เพราะอยากถ่ายภาพที่ดูสนุกสนานและน่ารัก
แต่นั่นเป็นการกระทำที่ไม่ปลอดภัยทั้งต่อตัวเด็กและเจ้าสี่ขาเพื่อนรัก
การรับน้ำหนักมากเกินไปอาจทำให้สัตว์เลี้ยงบาดเจ็บได้
เด็กควรได้รับการสอนตั้งแต่ยังเล็กว่าต้องปฏิบัติต่อสัตว์ด้วยความเมตตาและเคารพ
4. ใส่ใจสักนิดก่อนกอดสัตว์เลี้ยง
มนุษย์แสดงความรักด้วยการกอด
แต่สุนัขบางสายพันธุ์เขารู้สึกว่าการกอดคือการคุกคาม
และไม่ชอบการเข้าหาในลักษณะจู่โจม เราจึงควรสำรวจลักษณะนิสัยของเขาก่อน
ถ้าเขาดูเครียดและพยายามผละหนีทุกครั้งที่ถูกกอด
เจ้าของก็ควรแสดงความรักต่อเขาด้วยวิธีอื่น ควรสอนเด็กๆ
ให้รู้ว่าต้องพูดคุยและขออนุญาตก่อนสัมผัสตัวสัตว์เลี้ยงทุกครั้ง
เพื่อไม่ให้เจ้าสี่ขาตกใจจนเผลอแสดงพฤติกรรมก้าวร้าว
5. สอนเด็กๆ
ให้รู้ว่าอย่าแย่งของจากปากสัตว์เลี้ยง
บางทีน้องหมาตัวใหญ่ไม่ได้ตั้งใจทำร้าย
แต่เนื่องจากขนาดตัวที่ใหญ่ มีแรงเยอะและมีฟันแหลมคม
การกระชากของออกจากปากสัตว์เลี้ยง จึงอาจทำให้เกินอันตรายต่อเด็กๆ ได้
6. อย่าปล่อยให้ลูกวัยแบเบาะนอนเตียงเดียวกับสัตว์ มีข่าวในต่างประเทศบ่อยๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้สุนัขขึ้นมานอนข้างๆ ลูกน้อยวัยแบเบาะ บางครั้งเด็กน้อยแผดเสียงร้องไห้เสียงดัง ทำให้สุนัขสะดุ้งตกใจและทำร้ายเด็กทารกจนถึงแก่ชีวิต สถานการณ์แบบนี้อาจเกิดขึ้นได้โดยไม่คาดคิด ดังนั้น ควรแยกให้เจ้าสี่ขานอนแยกจากลูกน้อยดีที่สุด
7. สอนเด็กๆ ว่าอย่าวิ่ง สุนัขเป็นสัตว์ที่มีสัญชาตญาณความเป็นนักล่า โดยเฉพาะบางสายพันธุ์ที่มีสายเลือดนักล่าอยู่เต็มเปี่ยม หากเขาเห็นเด็กๆ วิ่ง สัญญาตญาตจะกระตุ้นให้ออกล่า…
การเล่นกับเด็กเป็นของคู่กัน
ยิ่งเล่นพวกเขายิ่งได้ปลดปล่อยจินตนาการและพัฒนาทักษะต่างๆ
ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษา ความฉลาดทางอารมณ์
ความคิดสร้างสรรค์ และการใช้เหตุผล ทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น ไปจนถึงจุดเริ่มต้นของกระบวนการคิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์เลยทีเดียว
คุณพ่อคุณแม่จึงควรส่งเสริมการเล่นของลูก ด้วยกิจกรรมที่เหมาะสมต่อการพัฒนาศักยภาพ
ซึ่งเรามี 10 กิจกรรมน่าเล่นมาแนะนำดังต่อไปนี้
1. เล่นทราย การเล่นทรายเป็นกิจกรรมที่ทำให้เด็กได้ซึมซับพื้นฐานความรู้ทางวิทยาศาสตร์ ควบคู่ไปกับการเสริมความมั่นใจและพัฒนากล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ผ่านการตัก ขุด เท และร่อนทราย ยิ่งถ้าได้เล่นกับเพื่อนหลายๆ คน เขาก็จะยิ่งสนุก รวมถึงได้ฝึกเรื่องการทำงานเป็นทีม การแบ่งปัน และมีทักษะทางสังคมเพิ่มขึ้นด้วย
2. เล่นน้ำ ความเปียกชุ่มทำให้รู้สึกสดชื่นและคลายร้อน เด็กๆ หลายคนจึงชอบเล่นน้ำมากเป็นพิเศษ ซึ่งกิจกรรมนี้ก็ให้ประโยชน์คล้ายๆ กับการเล่นทราย คือเป็นพื้นที่ทดลองวิทยาศาสตร์เบื้องต้น ทำให้เด็กๆ เข้าใจกลไกทางธรรมชาติ อีกทั้งยังได้เคลื่อนไหวร่างกายและฝึกมือกับสายตาให้ทำงานประสานกัน
3. ปั้นดินน้ำมัน การปั้นดินน้ำมันเป็นกิจกรรมการละเล่นที่มีประโยชน์มาก อันดับแรกคือช่วยให้เด็กๆ ได้ฝึกบริหารกล้ามเนื้อมัดเล็กผ่านการออกแรงขณะนวดหรือปั้น ซึ่งทำให้พวกเขาเขียนหนังสือได้ดียิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมเรื่องความคิดสร้างสรรค์และการทำงานประสานกันระหว่างมือกับสายตา
4. แสดงบทบาทสมมติ ลองพูดคุยกับเด็กๆ ว่าเขาสนใจอาชีพอะไร และเปิดโอกาสให้เขาแต่งตัวตามอาชีพนั้นๆ โดยคุณพ่อคุณแม่ช่วยจัดหาอุปกรณ์ให้ กิจกรรมนี้จะทำให้เขาเข้าใจโลกของผู้ใหญ่และสนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการค้นหาตัวเองและฝึกมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมกับผู้อื่น
5. เล่นตุ๊กตา การเล่นตุ๊กตาเป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการส่งเสริมจินตนาการ และฝึกให้เด็กน้อยแสดงออกถึงอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งไม่ได้เหมาะกับแค่เฉพาะเด็กผู้หญิงเท่านั้น เด็กผู้ชายก็สามารถเล่นตุ๊กตาได้…