Skip to content Skip to sidebar Skip to footer

Author page: motherandcare

mother-care-thelovelyair-002

สอนลูกให้รู้จักบอกความรู้สึก

ลูกเล็กงอแงบ่อยอาจเป็นเพราะไม่สามารถบอกคุณแม่ได้ดังใจของเขาค่ะ การสอนลูกให้รู้จักบอกความรู้สึกหรือบอกได้ว่าเขาเป็นอะไรไม่สบายตรงไหน จะช่วยให้คุณแม่ดูแลเขาง่ายและเข้าใจในตัวลูกมากขึ้นค่ะแม่แอร์Thelovelyair.comจะมาบอกเล่าวิธีการสอนลูกให้สื่อสารความรู้สึก คลิกอ่านรายละเอียดกันได้เลยค่ะ >> สอนลูกให้รู้จักบอกความรู้สึก

Read more

ลูกผิวแห้ง บำรุงได้ไม่ต้องกลัวแพ้ ถ้าทำตามนี้

ลูกผิวแห้ง แตกเป็นขุยมากแค่ไหน ไม่ยอมทาครีมบำรุงเพิ่มเติม เพราะกลัวผิวลูกระคายเคือง แพ้ง่าย คิดว่าอยู่แต่ในห้องแล้วผิวไม่ได้รับมลภาวะใด ๆ น่าจะไม่เป็นไร แต่ในความเป็นจริงแล้วผิวของลูกนั้นบอบบางเสียยิ่งกว่าพ่อแม่เสียอีก ก่อนอื่นเราต้องไปทราบสาเหตุกันก่อนว่าทำไมลูกถึงผิวแห้งนะลูกผิวแห้ง เพราะสาเหตุของผิวแห้ง ผิวแตกเป็นขุย อาจเกิดได้จากสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อาทิ การอยู่ในห้องแอร์ที่มีอากาศค่อนข้างแห้ง หรืออากาศร้อนก็มีส่วนทำให้ผิวของลูกเกิดผื่นแห้งแดงจากเหงื่อได้ หรือการถูสบู่แรงและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นด่างมากเกินไปจนทำร้ายผิวของลูกให้แห้งกร้าน รวมไปถึงหลังอาบน้ำเสร็จแล้วไม่ยอมบำรุงทาครีมให้ลูกน้อยเลย สาเหตุง่าย ๆ ใกล้ตัวในชีวิตประจำวันนี้เองที่พวกเราเผลอมองข้ามไปจนทำร้ายผิวของลูกเรา จนส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของลูก ทั้งอาการเกา คัน บริเวณผิว จึงทำให้เกิดเป็นแผลได้วิธีการบำรุงและหลีกเลี่ยง เมื่อผิวลูกแห้งเป็นขุย1.เลือกใช้ครีมบำรุงที่เหมาะสมกับเด็ก ควรเลือกครีมบำรุงที่หลีกเลี่ยงอาการแพ้ให้ลูก ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากออร์แกนิคและเวชสำอางค์เท่านั้น และควรดูส่วนผสมก่อนซื้อด้วยว่าใส่สารกันบูดไหม มีสีสังเคราะห์ และสารลดแรงตึงผิวหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยต่อผิวของลูก2.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่อ่อนโยนต่อเด็ก ควรหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่มี 4 อย่างนี้เป็นส่วนประกอบ คือ กลูเตน พาราเบน เอสแอลเอส ซิลิโคน ซึ่งสารเหล่านี้มีผลข้างเคียงต่อการเจริญเติบโต ปัญหาสะสมในร่างกายต่าง ๆ  และเป็นสารก่อมะเร็งอีกด้วย ดังนั้นพ่อแม่จึงต้องเลือกให้ดีและถี่ถ้วนก่อนใช้งาน3.ไม่ควรอาบน้ำบ่อย และใช้น้ำที่มีอุณหภูมิสูงเกินไป วันไหนลูกน้อยเหงื่อออกไม่มาก แนะนำให้พ่อแม่อาบน้ำให้ลูกแค่วันละหนพอ นอกเหนือจากนี้การอาบน้ำร้อนนั้นยังส่งผลกระทบต่อน้ำมันที่หล่อเลี้ยงผิวของลูกน้อยด้วย ทำให้ผิวแห้งตึงและขาดความชุ่มชื้นได้นั่นเอง แถมพ่อแม่ห้ามถูและขัดตัวลูกน้อยแรงจนเกินไปด้วย เพราะการกระทำแบบนี้จะยิ่งทำให้ผิวแห้งขึ้น4.หลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำในสระคลอลีนและน้ำเกลือ สระว่ายน้ำกับเด็ก เป็นของคู่กัน หากหลีกเลี่ยงการเล่นน้ำของลูกไม่ได้…

Read more

ลูกไม่ยอมนอน ร้องโยเย เอาอยู่หมัดด้วยการฝึกลูกนอน

ลูกไม่ยอมนอน ตกกลางดึกร้องไหงอแงทุกที ยิ่งเป็นพ่อแม่มือใหม่กับลูกเล็กเด็กอ่อนวัยไม่เกิน 3-4 เดือนแล้วเนี้ย ถือเป็นปัญหาเบสิคที่ทุกบ้านต้องพบเจอเลยแหละ แต่อาการมันจะหายไปและพ่อแม่สบายบรื้อเมื่อลูกเริ่มพ้นอายุ 6 เดือนขึ้น แต่การฝึกลูกนอนควรทำแต่เนิ่น ๆ ตอนลูกอายุ 1 กว่า ๆ จนถึง 2 เดือน จะมีวิธีฝึกให้ลูกน้อยนอนยาวตอนกลางคืนเพื่อการพักผ่อนและให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ดีจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยลูกไม่ยอมนอน เกิดจากสาเหตุดังนี้เนื่องจากเด็กทารกนั้นยังไม่มีความสามารถในการแยกแยะเวลากลางวัน กลางคืน พ่อแม่จึงอย่ารำคาญลูกกันเลยว่าตื่นกลางดึกกันบ่อยจัง อีกทั้งยังมีหลายปัจจัยที่ทำให้ลูกเกิดความไม่สบายตัวในการนอนทั้งบรรยากาศห้องนอน เสื้อผ้าที่ลูกสวมใส่ หรือแม้แต่อาการผิดปกติทางร่างกาย รวมไปถึงลูกหิวนม ปวดห้องน้ำอีกด้วย ยิ่งเป็นลูกเล็กอายุไม่ถึง 4 เดือน พ่อแม่ควรทำใจกับการตื่นกลางดึกบ่อย ๆ ไว้ได้เลยฝึกลูกนอนยาวตอนกลางคืน ง่าย ๆ ด้วย1.สอนให้ลูกแยกแยะกลางวันและกลางคืน เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกหลับตอนกลางวันมากเกินไป และตื่นมากลางดึกอีก พ่อแม่ควรสร้างสถานการณ์ให้ลูกเห็นอย่างชัดเจนว่าช่วงเวลากลางวันนั้นจะมีแสงสว่าง มีเสียงดัง และความวุ่นวาย แม้แต่ตอนลูกตื่นอยู่หรือหลับอยู่ก็ตาม และพอตกกลางคืนพ่อแม่ก็ทำให้กลางคืนนั้นเงียบ สงบ เพื่อให้ลูกน้อยแยกแยะกลางวันกลางคืนและปรับตัวได้เองในที่สุด หากลูกงอแงพ่อแม่อาจอุ้มขึ้นมาปลอบเพื่อให้ลูกรู้สึกปลอดภัยได้2.สร้างบรรยากาศในห้องนอนให้เหมาะสม คุณพ่อคุณแม่ต้องสร้างบรรยากาศในห้องนอนให้เพรียบพร้อม ทั้งการเปิดไฟสลัว ๆ เพื่อป้องกันเวลาลูกงอแงแล้วจะได้ไม่ต้องเปิดไฟสว่างทั่วบ้าน หรือการลดเสียงรบกวนของแอร์ ก็ควรเลือกให้ดี อีกทั้งเสื้อผ้าที่ใส่ต้องสบายลูกใส่แล้วอึดอัด ไม่มีอะไรไปรบกวนและขัดขวางการนอนของเขา พร้อมทั้งเปิดเพลงกล่อมลูกไปช้า ๆ พัฒนาคลื่นสมองของลูกไปในตัว3.กินอาหารให้อิ่มท้องเพื่อการนอนที่ยาวนาน ลองให้ลูกกินนมสักนิดก่อนนอน ไม่ว่าลูกจะตื่นอยู่หรือหลับไปแล้ว…

Read more

คลอดก่อนกำหนด เรื่องที่คุณแม่ต้องทำความเข้าใจและรับมือ

         คลอดก่อนกำหนด ตั้งแต่ที่คุณพ่อคุณแม่ทราบว่าตัวเองกำลังจะมีลูกนั้น ทุกคนคงตั้งหน้าตั้งตารอเพื่อที่จะเจอหน้าลูกๆ อย่างใจจดใจจ่อ เรียกได้ว่านับวันรอกันเลยทีเดียว โดยที่หวังอย่างยิ่งว่าลูกจะมีร่างกายสมบูรณ์ แข็งแรง และคงไม่มีใครอยากเห็นลูกของเราคลอดออกมาก่อนกำหนดหรอกค่ะ แต่หากเหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องเตรียมรับมือกับลูกน้อยที่คลอดก่อนกำหนด เพื่อการเลี้ยงดูลูกให้มีประสิทธิภาพ และมาเช็คกันว่าการกระทำแบบไหนที่เสี่ยงจะทำให้คลอดลูกก่อนกำหนดคลอดก่อนกำหนด เกิดจากสาเหตุอะไรโดยปกติแล้วคุณแม่จะอุ้มท้องประมาณ 38-42 สัปดาห์ นี่ถือเป็นระยะการคลอดตามกำหนด ดังนั้นภาวะการคลอดก่อนกำหนด คือการที่ทารกคลอดก่อนมีอายุครบ 37 สัปดาห์ หรือคลอดก่อนกำหนดมากกว่า 2 สัปดาห์ ซึ่งอวัยวะภายในยังเติบโตไม่สมบูรณ์ ทำให้ทารกที่คลอดมามีน้ำหนักตัวน้อย และเมื่อคลอดออกมาแล้วจึงต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษจนกว่าอวัยวะภายในจะสมบูรณ์รวมไปถึงสุขภาพของทารกที่แข็งแรงขึ้นด้วยภาวะการคลอดก่อนกำหนดมีอยู่ 2 สาเหตุหลักๆคือ1 สาเหตุจากตัวแม่เอง - คุณแม่อาจมีโรคประจำตัว เช่น โรคภูมิแพ้ โรคที่เกี่ยวกับหัวใจ ปอด ตับ หรือโรคเบาหวาน - คุณแม่มีอายุต่ำกว่า 17 ปี ขณะตั้งครรภ์ หรือมีอายุเกินกว่า 35 ปี ขณะตั้งครรภ์ - ระหว่างตั้งครรภ์นั้นคุณแม่ดื่มแอลกอฮอล์ หรือสูบบุหรี่ รวมไปถึงการใช้สารเสพติด - ระหว่างตั้งครรภ์ทำงานหนักและมีอาการเครียดมากเกินไป  ซึ่งมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางชีวเคมีในร่างกาย ทำให้กล้ามเนื้อมดลูกหดรัดตัวซึ่งที่กล่าวมานี้เป็นเพียงภาวะเสี่ยงที่ทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด อาจไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้คลอดก่อนกำหนดทั้งหมด ทั้งนี้หากคุณแม่ที่ตั้งครรภ์รู้ตัวว่ามีปัญหาสุขภาพหรืออยู่ในกลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยงข้างต้น ควรงดหรือเลิกทำกิจกรรมที่มีโอกาสเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดสาเหตุจากตัวทารก คือ มีอาการติดเชื้อตั้งแต่อยู่ในครรภ์ หรือมีความพิการมาตั้งแต่กำเนิด และอาจเกี่ยวข้องกับโรคทางพันธุกรรมบางชนิดจึงทำให้เป็นปัจจัยในการคลอดก่อนกำหนดปัญหาที่พบบ่อยเมื่อลูกน้อยคลอดก่อนกำหนดน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ แพทย์จึงต้องดูแลเป็นพิเศษโดยการให้อาหารผ่านสายยาง และให้กินนมแม่เพื่อช่วยส่งเสริมพัฒนาการของทารก…

Read more

เลี้ยงลูก ตามความเชื่อโบราณดีจริงไหม?

เลี้ยงลูก หลายครอบครัวน่าจะประสบกับปัญหาที่ว่า “เชื่อแม่สิ แม่เคยเลี้ยงลูกมาก่อน” หรืออาจจะเป็นประโยคเบสิคที่ว่า “แม่อาบน้ำร้อนมาก่อน” คำพูดเหล่านี้จะถูกพูดขึ้นเมื่อครอบครัวของคุณได้ให้กำเนิดลูกตัวน้อยๆให้คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย ชื่นใจ และพวกเขาต้องการเลี้ยงหลานๆของเขาตามแบบฉบับของตัวเอง แต่ด้วยความที่เราเป็นคุณพ่อคุณแม่สมัยใหม่ การเลี้ยงดูลูกจึงไม่เหมือนกับสมัยของพ่อแม่ เราเลยพยายามหลีกเลี่ยงการกระทำบางอย่างที่เขาพร่ำบอกกันว่าทำกันมาตั้งแต่โบราณ เพราะความเชื่อที่มีมาแต่โบราณเกี่ยวกับสุขภาพหรือร่างกายของทารก อาจมีบางสิ่งที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และอาจถึงขั้นที่เกิดอันตรายแก่ทารกได้ แต่ในวันนี้จะมานำเสนอให้ดูว่าความเชื่อเรื่องการเลี้ยงลูกในสมัยโบราณสามารถนำมาใช้เลี้ยงลูกในปัจจุบันได้หรือไม่ อย่างไรทาดอกอัญชันที่ผมและคิ้ว เพื่อให้ดกดำและเงางาม ในดอกอัญชัญ มีสารที่ชื่อว่า แอนโทไซยานิน ซึ่งสารตัวนี้จะไปกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ได้ดี คนโบราณจึงนำมาทาที่ผมและคิ้ว โดยที่เชื่อว่าจะทำให้ผมกับคิ้วจะดกและมีสีดำเงางาม ความเชื่อนี้ไม่เป็นอันตรายกับทารก แต่อาจก่อให้เกิดผื่นแพ้กับผิวที่บอบบางของทารกได้ทานกล้วยบดเป็นอาหารเสริม เพราะอยู่ท้องเคี้ยวง่าย ทุกคนล้วนแล้วแต่เคยกินกล้วยบดมาก่อน ซึ่งการกินกล้วยนั้นก็ดี แต่ในช่วง 6 เดือนแรกของทารกควรกินแต่นมแม่ เพราะลำไส้ของทารกยังไม่ทำงานได้ไม่เต็มที่ หากกินกล้วยเข้าไปอาจไปอุดตันที่ลำไส้และอาจก่อให้เกิดอันตรายกับทารกได้ต้องบ้วนน้ำลายใส่สะดือลูกหลังคลอด คนโบราณเชื่อว่าการบ้วนน้ำลายใส่สะดือจะทำให้สะดือเน่าและหลุดไป เป็นความเชื่อที่ไม่ควรทำตามอย่างยิ่ง!!! เพราะในความจริงแล้วสายสะดือจะหลุดไปเองโดยธรรมชาติ หากบ้วนน้ำลายใส่สะดือเด็กนั้นอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่กระแสเลือดได้ นอกจากนี้แพทย์ปัจจุบันนั้นมียาม่วงเอาไว้เช็ดสะดือลูกจนกว่าสายสะดือจะหลุดห้ามตัดเล็บจนกว่าจะอายุ 1 เดือน ความเชื่อนี้มีมาตั้งแต่โบราณ ที่ว่าห้ามตัดเล็บจนกว่าจะอายุ 1 เดือน…

Read more

ลูกเป็นหวัด ไม่สบาย หายได้ด้วยของก้นครัวอย่าง “หอมแดง”

ลูกเป็นหวัด แก้ปัญหาได้ง่าย ๆ ด้วยภูมิปัญญาไทย อย่างหอมแดง เผื่อกรณีฉุกเฉินพาลูกไปเที่ยวนอกบ้าน ไม่คุ้นชินทางและบ้านเมืองในจังหวัดนั้น ๆ คุณพ่อคุณแม่จะได้มีวิธีรักษาเบื้องต้นและบรรเทาอาการหวัดนี้ให้ดีขึ้นได้ลูกเป็นหวัด บรรเทาด้วยหอมแดง ( อ้างอิงจากสำนักงานข้อมูลสมุนไพร )จากวารสารแพทย์ทางเลือกและการแพทย์แผนไทย 2553 ได้มีการศึกษาในการนำหอมแดง 3-4 หัวมาทุบ โดยก่อนทุบนั้นจะต้องตัดราก ปอกเปลือก และล้างทำความสะอาด ก่อนใส่ถุงผ้าบาง ๆ ห่อเป็นกระจุกแล้วนำไปทุบหยาบ ๆ ซึ่งในกรณีนี้ได้นำเด็กแรกเกิดจนถึงเด็กอายุ 3 ปีจำนวน 20 คน ในการนำหอมแดงเหล่านั้นที่ทุบแล้ววางไว้ห่าง ๆ ตัวเด็กเวลานอน เพื่อให้เด็กหายใจเข้าไป เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กที่ใช้ยา chlorpheniramine syrup นั้นได้ผลดีกว่ามากจนผู้ปกครองมีความพึงพอใจร้อยละ 92.5 เลยทีเดียว ทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลไปได้เยอะ แถมยังสะดวกและประหยัดเวลาในการเดินทางไปพบหมออีก อีกทั้งหอมแดงยังช่วยเพิ่มความอยากอาหารแก่แม่ที่ตั้งครรภ์ได้อีกด้วย ถ้ามีอาการแพ้ ยิ่งต้องกินหอมแดงเลยวิธีรักษาหวัด ด้วยหอมแดง1.หากต้องการแก้คัดจมูก ลดน้ำมูก แนะนำพ่อแม่ให้นำหอมแดงปอกเปลือกล้างน้ำสะอาด แล้วทุบหยาบ ๆ ใส่ผ้าบาง วางไว้บริเวณหัวนอน ที่ห่างจากตัวเสียหน่อยก็ได้ เพื่อให้กลิ่นของหอมแดงเข้าจมูก ลดอาการเหล่านั้นให้หายไป2.ต้มน้ำอาบ ยิ่งเวลาลูกเป็นหวัด พ่อแม่สามารถนำหอมแดงที่ปอกเปลือกแล้วไปต้มกับน้ำเดือด แล้วนำมาอาบน้ำกับคุณลูกได้เลย เพราะจะเป็นเหมือนการอบไอน้ำไปในตัว เวลาเอาน้ำราดตัวแล้วจะได้กลิ่นของหอมแดง ทำแบบนี้ยิ่งทำให้หายใจได้คล่องและสะดวกมากขึ้น ถ้ามีเวลาว่างพ่อแม่ควรทำจนกว่าลูกจะหายเป็นหวัด หรือถ้าไม่อยากนำไปอาบสามารถนำเทใส่อ่างใหญ่ ๆ แล้วนำผ้าขนอุ่นคลุมหัวพร้อมกับปิดตา เพื่อสูดดมไอน้ำเหล่านั้นและป้องกันไม่ให้แสบตาด้วยประโยชน์ของหอมแดงไม่ได้มีไว้แค่แก้หวัดเท่านั้น ยังสามารถช่วยลดกลิ่นคาวของอาหาร ลดคอเลสตอรอลในเลือด หรือแม้แต่ช่วยให้การนอนหลับของเราดียิ่งขึ้น แถมยังช่วยบำรุงสมองได้อีกด้วย ลูกจิ๋วแต่แจ๋วจริง ๆ เลย ยังไงพ่อแม่ก็ลองนำไปทำกันดู เพื่อได้ผลจะได้ไม่ต้องเสียเวลาลางานเพื่อพาลูกไปพบคุณหมอ

Read more

สารอันตราย BPA ในของใช้เด็ก หลีกเลี่ยงยังไงให้ลูกปลอดภัย

สารอันตราย ในปัจจุบันพบมากในสิ่งของรอบตัว แม้แต่ของใช้เด็กที่พ่อแม่คิดว่ายังไงผลิตออกมาก็ต้องปลอดภัยอยู่แล้ว ไม่น่ามีสารพิษอะไรหรอก แต่ผิดอย่างร้ายแรงเลยคุณพ่อคุณแม่ เพราะสารนี้เองพบมากในภาชนะมากมาย อาทิ ขวดนมลูก ของเล่นเด็ก ซึ่งเป็นภัยทางอ้อมต่อลูกน้อยในผลของเชิงลบ ทั้งการเจริญเติบโต สมอง และพัฒนาการต่าง ๆ เพื่อเป็นการป้องกันสารอันตรายให้ลูกน้อยได้ปลอดภัย วันนี้เรามีวิธีหลีกเลี่ยงของอันตรายเหล่านี้ให้ห่างไกลจากลูกกัน แต่ก่อนอื่นเราไปทำความรู้จักกับความหมายของสาร BPA กันก่อนเลยสารอันตราย BPA คืออะไร BPA หรือ Bisphenol A มีชื่อเรียกในภาษาไทยว่า “บิสฟีนอล เอ” เป็นสารเคมีสังเคราะห์ซึ่งมักนิยมนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตบรรจุภัณฑ์อย่างขวดพลาสติกนี่เอง ซึ่ง 1 ในนั้นก็คือขวดนมลูกที่เราให้ลูกกินกันอยู่ทุกวัน  สารนี้เป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุในการเป็นโรคมะเร็งในต่อมลูกหมากและมะเร็งเต้านม รวมไปถึง โรคเบาหวาน โรคอ้วน โรคไฮเปอร์ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อฮอร์โมนการเจริญเติบโต เซลล์ประสาทสมอง ระบบความทรงจำ โดยสารพิษนี้จะเข้าสู่ร่างกายจากการผ่านกระบวนการต้ม นึ่ง โดนความร้อน ในการฆ่าเชื้อขวดนมของลูก จนทำให้เกิดการสะสม และนำไปสู่ผลในเชิงลบในที่สุดวิธีหลีกเลี่ยงสารอันตราย BPA1.เลือกใช้ภาชนะพลาสติกที่มีสัญลักษณ์ #1-PET #2-HDPE #4-LDPE และ #5-PP หรือ BPA Free เพราะ สัญลักษณ์เหล่านี้เอง มักอยู่ในหมวดภาชนะของเด็กทารกที่ BPA…

Read more

อุจจาระ ลูก อาจสื่อถึงสุขภาพ รู้ไว้ให้อุ่นใจพ่อแม่

อุจจาระ ลูก เรื่องขี้ ๆ  ที่พ่อแม่ควรรู้ วันไหนลูกขับถ่ายดี เราก็อุ่นใจ แต่วันไหนลูกไม่ยอมขับถ่ายทำเอาพ่อแม่เครียดถึงขั้นพาไปพบแพทย์เลย ว่าแต่จะมีอะไรบ้างที่พ่อแม่ต้องรู้ไว้เพื่อให้ทราบถึงสุขภาพของลูกน้อยกันบ้าง ตามมาดูกันเลยลักษณะของอุจจาระอึของเด็กทารก (แรกเกิด)ในช่วงหลังคลอดเพียงไม่กี่วัน เจ้าตัวเล็กของเรากลับขับถ่ายเป็นสีเทา ซึ่งถ้าพูดถึงสีปกติของคนทั่วแล้วคงผิดปกติใช่ไหมหล่ะ แท้จริงแล้วสีอึสีเทาของเด็กแรกเกิดถือว่าเป็นสีที่ปกติอย่างมาก (หากลูกยังไม่ขับถ่ายอึสีเทาออกมาภายใน 24 ชม.พ่อแม่ต้องพาพบหมอทันที ลูกอาจมีปัญหาเรื่องลำไส้ได้) หลังจากนั้นสีจะเริ่มเปลี่ยนแปลงจากสีเทาเริ่มเป็นสีเขียวและเริ่มหายเหนียวหนืด จนกลายเป็นน้ำในที่สุดจากการกินนมแม่อึของเด็ก 2-12 เดือนเมื่อลูกอยู่ในวัยนี้ อึจะเริ่มเป็นก้อนเป็นเนื้อมากขึ้น และเริ่มขับถ่ายเป็นเวลา แต่ยังไม่สามารถบังคับการขับถ่ายได้เอง แถมบางครั้งอึของลูกน้อยยังมีลักษณะคล้ายกับอาหารเสริมที่กินเข้าไปด้วยอึของเด็ก 1 ขวบขึ้นไปพอลูกเริ่มโตแล้ว เขาจะสามารถแสดงท่าทางว่าตนเองนั้นกำลังปวดห้องน้ำอยู่นะ แต่ยังไม่สามารถอั้นได้เท่าที่ควร ต้องรอให้ลูกโตอายุ 2-3 ขวบก่อน ถึงจะมีพัฒนาการด้านกล้ามเนื้อหูรูดในการบังคับขับถ่ายได้สีของอุจจาระลูกบ่งบอกอะไร ?สีเหลืองมัสตาร์ด สีเขียว และสีน้ำตาลเป็นสีอึจากการกินนมแม่ มีลักษณะเนื้อนิ่มเหลว คล้ายท้องเสียแต่ไม่ใช่นะ โดยลูกอาจจะอึทุกครั้งหลังกินนมเสร็จหรืออึทีนานเป็นหลายวันหนก็เป็นได้ หากเป็นสีน้ำตาลอ่อน มีลักษณะข้นเหนียวเหมือนเนยถั่ว และกลิ่นแรง เกิดจากการกินนมผง แต่ถ้าเป็นนมแม่อึจะมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใครอยู่เหมือนกันสีเขียวเข้มเกิดจากคุณแม่กินผักใบเขียวเยอะ จึงทำให้น้ำนมแม่มีธาตุเหล็กสูง พอลูกอึมาจึงมีลักษณะเหนียวและเป็นสีเขียวเข้มนั่นเอง แต่ถ้าลูกอึสีเขียวติดต่อกันบ่อยเกินไปอาจเป็นเพราะลูกของเราได้รับน้ำนมน้อยเกินไปสีดำ/สีขาว/สีแดงสามสี้นี้ ถือเป็นสีอันตราย หากพบเห็นแสดงว่าลูกอาจมีปัญหากับระบบขับถ่าย หรือลำไส้ทำงานได้ไม่ดี รวมไปถึงความผิดปกติของตับและถุงน้ำดี พ่อแม่ควรพาลูกพบแพทย์ทันทีเมื่อเกิดอาการ หรืออึของลูกมีลักษณะคล้ายมูกมันวาวอาจเป็นสัญญาณเตือนได้ว่าลูกของเรากำลังติดเชื้ออยู่นอกจากอาการผิดปกติของร่างกายลูกจะเป็นตัวบ่งชี้สุขภาพแล้ว สีอุจจาระก็เป็นอีก 1 ตัวช่วยที่จะทำให้พ่อแม่สังเกตสุขภาพของลูกได้บ่อยขึ้นด้วย เนื่องจากพ่อแม่ต้องตรวจดูลักษณะการขับถ่ายของลูกทุกครั้งหลังเปลี่ยนแพมเพิสหรือผ้าอ้อม เผื่อมีอาการผิดปกติใดจะได้แก้ไขทันท่วงที

Read more

ผื่นผ้าอ้อม ภัยอันตรายใกล้ตัวพ่อแม่ควรระวัง

ผื่นผ้าอ้อม ผื่นรอยแดงเป็นจุดเล็ก ๆ บริเวณกว้างหรือเล็กก็ตามแต่ที่คอยกวนใจลูกน้อยอยู่ตลอดเวลา ยิ่งทิ้งปัญหาไว้นานยิ่งเสี่ยงอันตรายต่อการเป็นเชื้อรา

Read more

ลูกไม่ยอมกินข้าว ปราบได้ง่าย ๆ ด้วย 5 วิธีนี้

ลูกไม่ยอมกินข้าว ลูกอมข้าว ลูกหวงเล่นจนไม่ยอมกินข้าว ซึ่งเป็นปัญหาโดยทั่วไปสำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 ขวบ เพราะเขาเริ่มเรียนรู้ที่จะหัดปฎิเสธแล้ว จนเป็นเรื่องกลุ้มใจหนักมากของคุณแม่ผู้เป็นคนป้อนอาหารและทำอาหารว่าจะทำยังไงดีให้ลูกยอมกินข้าว

Read more