โลกยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีเป็นตัวผลักดันให้ทุกอย่างขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เด็กๆซึมซับจังหวะความเร็วนี้เพียวปลายนิ้วสัมผัส ความรวดเร็วทันใจและทำหลายสิ่งหลายอย่างพร้อมกันนี้ ส่งผลให้เด็กยุคใหม่ สมาธิสั้น ขาดความอดทน และการใช้ชีวิตอยู่กับเทคโนโลยีเป็นเวลานานๆ จะทำให้เด็กขาดทักษะทางสังคม ยิ่งโดยเฉพาะกับเด็กอายุ 2-3 ขวบ ที่สมองมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วมากแทบเป็นนาทีต่อนาที เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่สมองมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วสูงสุด มีความสามารถจดจำได้ทุกรูปแบบและหล่อหลอมออกมาเป็นบุคลิกภาพของตนเอง เด็กในวัยนี้จึงต้องได้รับการส่งเสริมจากพ่อแม่ และครูที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษทางด้านพัฒนาการเด็กเล็กร่วมกัน ซึ่งการเรียนดี กิจกรรมเด่น ไม่เพียงพออีกต่อไปในยุคนี้ ต้องมี “ทักษะทางสังคม” ด้วย เด็กในวัย 2-3ขวบ จะเริ่มโตขึ้น รู้เรื่องมากขึ้น เขาจะเริ่มอยากมีสังคม อยากเล่นกับเพื่อน แต่ยังไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวแบบไหนเมื่อเล่นกับเพื่อน หรือเมื่ออยู่กับคนรอบข้าง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องให้เด็กๆเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆได้แก่
เรียนรู้เรื่องการสื่อสาร: ทักษะการสื่อสารที่ดี ย่อมส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีให้กับเด็ก ดังนั้นเด็กๆจะต้องเรียนรู้และสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ ทั้งการแสดงออกถึงความต้องการของตนเอง และการทำความเข้าใจความต้องการของผู้อื่นที่สื่อสารกลับมา โดยเฉพาะทักษะการสื่อสารทางด้านภาษา ในวัยนี้สมองของเด็กเปิดรับข้อมูลได้กว้างมาก เปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำได้ปริมาณมาก หากเด็กๆได้รับการฝึกฝนภาษาอังกฤษ เขาจะเรียนรู้ได้เร็วมาก จะเปิดโลกทัศน์ทางสังคมที่พวกเขาอยู่ที่ไม่จำกัดแค่สื่อสารกับชนชาติใดเพียงกลุ่มเดียว แต่จะสามารถพูดคุยโต้ตอบกับเพื่อนๆได้ทุกประเทศทั่วโลก
เรียนรู้เรื่องการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น: เมื่อเด็กๆเริ่มมีเพื่อน เขาจะต้องเรียนรู้การเล่นและแบ่งปันสิ่งของร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยการเริ่มปล่อยให้เด็กได้เล่นและแก้ปัญหาด้วยตนเอง โดยมีครูผู้เชี่ยวชาญด้านเด็กเล็กคอยกำกับดูแล เด็กจะเริ่มเรียนรู้การอยู่ในสังคมที่ไม่มีพ่อแม่ เข้าใจความแตกต่างของเพื่อนแต่ละคนว่ามีบุคลิกอย่างไร รู้จักการทำตามกฎกติกา รู้จักการประนีประนอมไม่เอาแต่ใจตนเองเป็นใหญ่ รวมถึงมารยาทและ
การปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามกาลเทศะ เช่น การไหว้ทักทาย การกล่าวขอบคุณและขอโทษ ทักษะนี้จำเป็นที่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลแนะนำ ด้วยเทคนิคด้านจิตวิทยาเพื่อให้เด็กๆเรียนรู้ด้วยจิตใจที่ยินดียอมรับ ไม่มีความรู้สึกถึงการถูกสั่งหรือบังคับ เมื่อเด็กมีความเข้าใจและเรียนรู้การปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ เขาก็จะสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
เรียนรู้เรื่องสมาธิและรู้จักการรอคอย: ประเด็นนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสัมคมยุคใหม่ ที่ทุกอย่างเร่งรีบ คิดเร็ว ทำเร็ว ใจเร็ว ได้เร็ว เปลี่ยนเร็ว คราวนี้เมื่อมีเหตุการณ์ให้ต้องรอคอย ก็หงุดหงิด รำคาญใจ ลักษณะนิสัยนี้จะติดตัวเด็กไปถึงในห้องเรียน ส่งผลให้เกิดอาการเบื่อง่าย หงุดหงิดง่าย ไม่มีสมาธิ หรืออาละวาดเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ ดังนั้นการให้เด็กเล็กฝึกทักษะทางอารมณ์ตั้งแต่วัยเตาะแตะ จะทำให้เขาเติบโตขึ้นอย่างมีสุขภาพกายและใจที่ดี และมีความมั่นคงในชีวิตที่ดีในอนาคต การฝึกทักษะทางด้านนี้จะต้องสังเกตถึงข้อจำกัดของเด็กแต่ละคน จากนั้นจึงเริ่มสอนโดยเทคนิคเฉพาะของผู้เชี่ยวชาญที่บางครั้งจะไม่ได้สอนกันแบบตรงๆ แต่จะสอนผ่านการเล่นที่สนุก สร้างสรรค์ และได้ข้อคิด เพื่อให้เด็กได้ซึมซาบเข้าไปอย่างอัตโนมัติ
เรียนรู้เรื่องการตัดสินใจ: เป็นวิธีฝึกฝนเด็กๆที่มีลักษณะนิสัย “ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ” ด้วยการสร้างโอกาสในการให้พวกเขาได้เป็นผู้ตัดสินใจ มีตัวเลือกให้ได้คิดว่าหากทำสิ่งนี้สิ่งนั้นแล้วผลที่ตามมาจะเป็นเช่นไร อธิบายตรงไปตรงมา เขาจะมีเหตุมากขึ้น และในเมื่อเป็นผู้ตัดสินใจเอง เขาจะทำในสิ่งที่ได้ตัดสินใจลงไปอย่างเปิดกว้างยอมรับ และมีความมั่นใจ ไม่ใช่รับคำสั่ง ห้ามทำโน่น ห้ามทำนี่เพียงอย่างเดียว เพราะเด็กวัยนี้มักต่อต้านสิ่งที่เขาตัดสินว่าเป็น “คำสั่ง” จากผู้ใหญ่
เด่นหล้า บริติช สคูล (Denla British School – DBS) โรงเรียนนานาชาติชั้นนำที่สอนด้วยหลักสูตรโรงเรียนเอกชนอังกฤษที่ดีที่สุดในโลก เชื่อว่าเด็กเล็กในช่วงอายุ 2-3 ปีแรกเป็นนาทีทองของการเรียนรู้ จึงเปิดการสอนในระดับเตรียมอนุบาลภายใต้ชื่อ “DBS Mini Dragons” โดยใช้หลักสูตร EYFS (Early Years Foundation Stage) ของประเทศอังกฤษ ที่มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะของเด็กเล็กด้านการสื่อสารภาษาอังกฤษ ความแข็งแรงของร่างกาย และการอยู่ร่วมกับผู้อื่น ผ่านกิจกรรมที่สนุกสนานด้วยหลักสูตร Play-Based Learning เพื่อพัฒนาทักษะทั้ง 7 ด้านอย่างเต็มศักยภาพเน้นคุณภาพ สอนด้วยครูผู้สอนที่มีประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และเป็นเจ้าของภาษา 100%
DBS Mini Dragons เชื่อว่า “เด็กที่มีความสุขจะเป็นเด็กที่เรียนรู้ได้ดีที่สุด (Happy children are the best learners)” ดังนั้นหลักสูตรการเรียนการสอนด้วย Play-Based Learning จึงได้รับการออกแบบเพื่อพัฒนาทักษะทั้ง 7 ด้านของเด็กๆได้เต็มศักยภาพ ได้แก่ การสื่อสารและภาษาอังกฤษ (Communication and Language) การพัฒนาด้านความแข็งแรงของร่างกาย (Physical Development) การพัฒนาด้านบุคลิกภาพ (Personal Development) การพัฒนาด้านสังคมและอารมณ์ (Social and Emotional Development) ทักษะด้านคณิตศาสตร์ (Mathematics) ความเข้าใจโลก (Understanding the World) และศิลปะทางการแสดงออก (Expressive Arts)
การสื่อสารและพัฒนาการทางกายและทางสังคม เป็นจุดเด่นในการเรียนรู้ที่ DBS Mini Dragons ซึ่งในแต่ละสัปดาห์ การเรียนการสอนจะเป็นไปตามธีมหรือแนวคิดหลักเพื่อให้การเรียนรู้ในสัปดาห์นั้นๆมีโครงสร้างที่ชัดเจนและเกิดความสมดุล อย่างเช่น
วันจันทร์ : Messy Play ให้เด็กๆเล่นได้ตามใจชอบ เป็นการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์จากการเล่น และเปิดโลกจิตนาการรอบตัวเด็กๆ มีความเป็นตัวของตัวเอง และมีอิสระในการเรียนรู้ค้นพบสิ่งใหม่ๆ ทั้งยังสอนให้เด็กรู้จักการเล่นด้วยกัน เข้าใจ และเรียนรู้กติกาการอยู่ร่วมกัน
วันอังคาร : Story & Drama เล่าเรื่องและสนุกกับการแสดง เพื่อเสริมสร้างทักษะทางด้านการสื่อสาร การรู้จักสังเกต การจดจำ ทำให้เกิดสมาธิ ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้จบ และรู้จักการรอคอย
วันพุธ : Get Active ออกกำลังกายกันเถอะ เป็นการสร้างเสริมพัฒนาการทางร่างกาย
วันพฤหัสบดี : Music & Song เล่นดนตรีและร้องเพลง เป็นการสอนภาษา การออกเสียงภาษาอังกฤษ และเปิดกว้างทางจินตนาการ
วันศุกร์ : Water Play เล่นน้ำ ส่งเสริมพัฒนาการทางสรีรวิทยา ความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ และพัฒนาการด้านความเคลื่อนไหว
นอกจากนี้ DBS Mini Dragons ได้จัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็กก่อนวัยเรียน 2-3 ปี มีความอยากรู้อยากเห็น สร้างสรรค์ และมีความเป็นมิตร เพื่อที่เด็กๆเหล่านี้จะได้รับโอกาสพัฒนาทักษะที่ดี เพื่อเตรียมพร้อมให้สามารถต่อยอดการเรียนรู้ในชั้นอนุบาล และสามารถอยู่ร่วมกับเพื่อนในวัยเดียวกันได้อย่างมีความสุข โดยจากประสบการณ์อันยาวนานของครูผู้สอนบ่งชี้ว่า “ปัจจัยของการประสบความสำเร็จเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ พบว่าความสามารถในการควบคุมตัวเองได้ดีเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญพอๆ กับระดับไอคิว และปัจจัยทางสังคมและเศรษฐกิจของครอบครัวเลย”
ด้วยความมุ่งมั่นและไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาคุณภาพของนักเรียนให้เติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและมีความสุข ทำให้ เด่นหล้า บริติช สคูล (Denla British School – DBS) ได้รับการรับรองจากสมาคมโรงเรียนนานาชาติแห่งประเทศไทย (International School Association of Thailand – ISAT) และ สถาบันชั้นนำอันดับหนึ่งในการประเมินคุณภาพและรับรองมาตรฐานทางการศึกษาของโรงเรียนนานาชาติที่ใช้หลักสูตรอังกฤษทั่วโลก (Council of International School – CIS) ในฐานะเป็นโรงเรียนนานาชาติพรีเมียมที่มีคุณภาพสูงระดับโลก และล่าสุดได้รับการจัดอันดับเป็นหนึ่งใน “THE BEST INTERNATIONAL SCHOOLS IN BANGKOK AND THAILAND 2019”จากเว็บไซต์การจัดอันดับโรงเรียนชื่อดังของโลก www.world-schools.com
สำรองที่นั่ง DBS Mini Dragons Playdate เพื่อ ทดลองเรียนฟรี! เดือนพฤศจิกายน 2562 ติดต่อสอบถาม โทร. 02 666 1933
ข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.dbsbangkok.ac.th
Facebook: www.facebook.com/DBSBangkok
Twitter: DBSBangkok Line: @DBSBangkok